บทร้องอโหกุมาร
อโหกุมารสถานสิขา ณ เทพศิรินทร์ระบิลระบือ
สำเนียงจำโนษอุโฆษก็คือ ดรุณสยามมิขามวิชาฯ
สมัญญเลิศจะเกิดไฉน จะเกิด ณ เมื่ออะเคื้อสิขา
จะเกิด ณ คราวอะคร้าววิชา วิปักษะขามสยามวิชัยฯ
วิถีสำรวย บ่ งวย บ่ งง วิถีสำเริงบ่เหลิง ห ทัย
วิถีสำราญ บ่ ซานจะไป วิถี อ บาย บ่ หมายจำนงฯ
วิชาวิบุลย์ดรุณจะเรียน ประเกียรติ์จะเกิดประเสริฐประสงค์
ประเทศจะงามสยามจะยง จะสุดวิเศษก็เหตุเพราะเพียรฯ
อโหดรุณจะครุ่นสิขา อโหกุมารจะอ่านจะเขียน
วิชาจะเทียบจะเปรียบวิเชียร วิเชียรก็ชู บ่ สู้วิชาฯ
วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม หทัยะไทยจะไตรจะตรา
หทัยะไทยจะใฝ่วิชา วิชา ฤ แล้ง ณ แหล่งสยาม
ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์ สถานสิขาสง่าพระนาม
สำนักกิฬาสง่าสนาม ณ เทพศิรินทร์ ณ เทพศิรินทร์
ชโย ชโย ชโย
ผู้นิพนธ์บทร้องอโหกุมาร
บทร้องอโหกุมาร เป็นพระนิพนธ์ของพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส (น.ม.ส.) พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในกวีชั้นยอด
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพระยาจรัลชวนะเพท อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเทพศิรินทร์ในสมัยนั้น เห็นว่าทางโรงเรียนมีงานรื่นเริงประจำปีเสมอ จึงควรจะมีบทเพลงประจำสักหนึ่งบท จึงทูลขอให้ทรงนิพนธ์ พระองค์ได้ทรงนิพนธ์แล้วเสร็จและประทานแก่โรงเรียนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2474 จากนั้น วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2474 ทางโรงเรียนได้มีหนังสือแจ้งขออนุญาตไปยังกระทรวงธรรมการ (ปัจจุบันคือกระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อขอใช้บทพระนิพนธ์นี้เป็นบทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต่อจากนั้นพระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ทรงโปรดให้ หลวงประสานบรรณวิทย์เป็นผู้ฝึกร้องตามทำนองฝรั่ง จนร้องถูกต้องดีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2475 ดังนั้นจึงนับเอาวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2475 เป็นวันที่บทร้องอโหกุมารถูกร้องเป็นวันแรก
บทร้องอโหกุมารทรงนิพนธ์ด้วยสยามวิเชียรฉันท์ 8 ซึ่งมีความไพเราะมีจังหวะเสียงขึ้นลงสลับกันไปมา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่แปลก โดยบทสยามวิเชียรฉันท์ 8 นี้ พูดได้ว่ามีเพลงอโหกุมารเพียงเพลงเดียว และเป็นเรื่องแปลกในการใช้ฉันท์มาใส่ทำนองร้องเป็นเพลงได้ ชาวเทพศิรินทร์ทุกคนถือว่าบทร้องอโหกุมาร
มีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อใดที่ได้ยินจะยืนตรงแสดงความเคารพและร้องด้วยความภูมิใจในเกียรติยศและศักดิ์ศรี และภูมิใจเสมอว่าเพลงนี้ได้ชื่อว่าเป็น
เพลงประจำสถาบันที่มีความไพเราะที่สุด
คำแปลบทร้องอโหกุมาร
เด็กชายทั้งหลายซึ่งอยู่ในสถานศึกษาแห่งนี้ ที่เทพศิรินทร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือเสียง ที่กล่าวขานอย่างกึกก้องนั้นคือ เด็กชายชาวสยามไม่เคยย่อท้อ
ต่อการศึกษาเล่าเรียนเหตุใดเล่าสมญานามที่ดีงามเช่นนี้จึงเกิดขึ้นได้ เกิดขึ้นได้ก็เพราะความเจริญงอกงามทางการศึกษา เกิดขึ้นได้ก็เพราะได้รับการศึกษาที่น่าภาคภูมิใจ
เด็กชายชาวสยามจะเอาชนะคู่แข่งทางการศึกษาได้เสมอ จนเป็นที่น่าเกรงขามมิได้ลุ่มหลงกับความโอ่อ่า มิได้มัวเพลินอยู่กับการรื่นเริง มิได้ปรารถนาจะไปสู่หนทางของความสุขสำราญ ไม่เคยหลงผิดที่จะสู่หนทางของความเสื่อม
วิชาความรู้เท่านั้นที่เราใส่ใจ เราจะสร้างเกียรติยศ ชื่อเสียงให้เป็นที่ปรากฏประเทศจะดีงาม มั่นคง และเจริญรุ่งเรืองได้ ก็ด้วยเราพากเพียรในการศึกษา
เด็กๆ จะใฝ่ใจในการศึกษา เราจะเพียรเรียนเขียนอ่าน หากจะนำวิชาความรู้มาเทียบกับเพชร เพชรก็มิอาจเทียบค่าได้กับความรู้
เมื่อรู้คุณค่าของความรู้เช่นนี้แล้ว และเมื่อดวงใจทุกดวงจดจ่อในการศึกษาเช่นนี้แล้ว มีหรือที่วิชาความรู้จะสิ้นสูญไปจากแดนสยาม
ที่นี้เทพศิรินทร์ ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ สถานศึกษาที่เชิดชูพระนามว่า เทพศิรินทร์ให้เป็นที่ยอมรับยิ่งขึ้นสถานศึกษาที่สร้างนักกีฬา ที่องอาจในสนามแข่งขัน
ที่นี้เทพศิรินทร์ ที่เทพศิรินทร์แห่งนี้ ขอจงเจริญรุ่งเรือง… สืบไป