การทอผ้าถุงมัดหมี่
การทอผ้าถุงมัดหมี่
ชื่อเรื่อง อาชีพท้องถิ่น การทอผ้าถุงมัดหมี่
ชุมชน ตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
วัฒนธรรมการทอผ้า ผูกพันกับชาวอีสานมาอย่างยาวนาน จากการศึกษาทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีทำให้ทราบว่า มีการทอผ้าใช้ในภาคอีสานตั้งแต่ช่วงต้นของยุคโลหะหรือประมาณ 6,000 ปีมาแล้ว การทอผ้าถือเป็นชีวิตของหญิงชาวอีสานที่ทอไว้ใช้ในครัวเรือนมาแต่อดีต โดยถือว่าเป็นงานจำเป็นของผู้หญิงอีสานที่ต้องเรียนรู้และปฏิบัติให้ชำนาญ เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มในชีวิตประจำวันและใช้ในพิธีการทางศาสนา และเป็นเครื่องบ่งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นมีความเหมาะสม มีคุณสมบัติความพร้อมที่จะสามารถออกเรือนได้
วัฒนธรรมการทอผ้าของชาวอีสาน ได้รับอิทธิพลมาจากการอพยพเคลื่อนย้ายของกลุ่มคนจากหลายพื้นที่ เข้ามาอาศัยอยู่ในภูมิภาคอีสานปัจจุบัน แต่ละกลุ่มชนจะมีลักษณะและลวดลาย กรรมวิธีการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง โดยในอีสานเหนือเป็นแหล่งทอผ้าฝ้าย ได้แก่ ผ้าขิด อีสานกลางเป็นแหล่งทอผ้าไหม ได้แก่ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าหางกระรอก เป็นต้น ทางตะวันออกที่เป็นชาวผู้ไท ทอผ้าไหมแพรวา ที่ทอด้วยเทคนิคจกและขิด อีสานใต้ทอผ้าไหมมัดหมี่ เส้นพุ่งตามแบบเขมร เป็นต้น
ปัจจุบัน ผ้าทอ กลายเป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของอีสาน ที่ถูกผลิตเพื่อการค้าเป็นอาชีพเสริมจากการทำนา ถึงแม้รูปแบบผ้าจะถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการใช้งาน และตลาดผู้บริโภคในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีรากเหง้ามาจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่ก่อให้เกิดความแตกต่างกันของรูปแบบและวิธีการผลิตผ้าในแต่ละท้องถิ่น และเมื่อเวลาต่อมา จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลเจ้าท่าได้พัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาที่มีมาแต่โบราณจนส่งผลต่อการได้รับการคัดเลือกให้เป็นสินค้า OTOP ในโครงการพัฒนาสินค้า OTOP โดยนายสมบัติ กองภา ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น มอบหมายให้นายปรมัตถ์ เหล่าวอ และนายมนตรี อยู่เจริญ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นวิทยากรติดตามกระบวนการผลิต และทดสอบการตกสีผลิตภัณฑ์ผ้า กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ในโครงการพัฒนาสินค้า OTOP เพื่อเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานและพัฒนา Product Champion ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าสู่การรับรองมาตรฐาน ตรานกยูงพระราชทาน ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์
ลักษณะเด่นและคุณค่าเชิงรูปธรรม
ลายผ้าอีสาน มีลักษณะเป็นลวดลายกราฟิกเรขาคณิต ซึ่งเกิดจากวิธีการทอที่เกิดจากการขัดกันของเส้นพุ่งและเส้นยืน โดยมีรูปแบบลวดลายเกิดจากจินตนาการของผู้ทอ ในการประยุกต์จากสิ่งรอบตัว ดัดแปลงมาจากธรรมชาติ ได้แก่ สัตว์ พันธุ์ไม้ สิ่งของเครื่องใช้ ความเชื่อและศาสนา ใช้ทคนิคการทอแบบต่างๆ ทั้งการก็บขิดและมัดหมี่ซึ่งเป็นเทคนิคหลักที่ใช้ โดยวัสดุที่ใช้แต่ดั้งดิมมี 2 ชนิด คือ ไหม ที่ให้ผิวสัมผัสเงามัน และฝ้าย ที่ให้ผิวสัมผัสด้านหรือเป็นลายนูนที่เกิดจากการเพิ่มเส้นพุ่งของการขิด การใช้สีแต่ดั้งเดิมมาจากการย้อมสีธรรมชาติ เช่น เปลือกไม้ แก่นไม้ เมล็ด ดอก หรือจากสัตว์ ได้แก่ ครั่ง จึงมีสีหลักเป็นโทนธรรมชาติ เช่น สีครามจากต้นคราม สีแดงจากครั่ง สีเหลืองจากต้นเข สีดำจากมะเกลือ เป็นต้น
ลักษณะเด่นและคุณค่าเชิงนามธรรม
ผ้าอีสานมีความสัมพันธ์กับประเพณี ความเชื่อในการดำรงชีวิต เป็นสิ่งที่ใช้ตั้งแต่เกิดจนตาย เช่น ผ้าผูกเปล ผ้าห่ม เสื้อผ้า ผ้าที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น การทอดกฐิน การแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ ใช้ห่อคัมภีร์ใบลาน ผ้าคุมหัวนาคในงานบวช ผ้าคลุมศพ เป็นต้น นอกจากนี้ยังถือว่า การทอผ้าเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอีสานที่ใช้เวลาว่างจากการทำนาและการเก็บเกี่ยว มาทอผ้าไว้ใช้ในครัวเรือนหรือทอผ้าเอาไว้ใช้ในงานประเพณีต่างๆ เป็นสิ่งบ่งบอกถึงความพร้อมของหญิงสาวในการออกเรือน เพราะต้องใช้ความพยายามและความอดทนเป็นอย่างมาก จึงจะสามารถทอให้เป็นผืนผ้าได้
ผู้เขียน นางสาวณัฐพร ลอยพิลา
ที่มา หลักสูตรวิชาเลือกเสรี การทอผ้าพื้นเมือง