องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International : TI) ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนี เมื่อปี พ.ศ. 2536 มีสถานะเป็นองค์กรภาคประชาสังคมระหว่างประเทศ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลด้านการทุจริตคอร์รัปชันจากฐานข้อมูลที่เป็นการจัดอันดับหรือดัชนีชี้วัดซึ่งจัดทำขึ้นโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือต่าง ๆ ทั่วโลก ประเมินภาพรวมสำหรับวัดการรับรู้การทุจริตในองค์กรภาครัฐ (Public Sector) ของประเทศต่าง ๆ
คะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) มีค่าคะแนนตั้งแต่ 0 (คอร์รัปชันมากที่สุด) ถึง 100 (คอร์รัปชันน้อยที่สุด) การประเมิน CPI ของประเทศต่าง ๆ ดำเนินการเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2538 จนถึงปัจจุบัน
TI ได้เผยแพร่ข่าวสาร การจัดลำดับและการจัดทำค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) เป็นประจำทุกปีผ่านเว็บไซต์ https://www.transparency.org
วิธีการคำนวณค่า CPI แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน รายละเอียดโดยสังเขปมีดังนี้
ในการคำนวณ CPI จะใช้ประเภทแหล่งข้อมูล และจำนวนของแหล่งข้อมูลแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ โดยแหล่งข้อมูลที่ถูกเลือกนำมาใช้นั้นต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของข้อมูลที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้
(1) วิธีการเก็บข้อมูลและวิธีการประเมินมีความน่าเชื่อถือและมาจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ (Reliable Data Collection and Methodology from a Credible Institution) ทั้งนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ CPI ต้องมีความน่าเชื่อถือ แหล่งข้อมูลต้องมีความเป็นมืออาชีพ วิธีการเก็บข้อมูลและการประเมินผลของแหล่งข้อมูลนั้น ๆ ต้องมีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
(2) ข้อมูลที่นำมาใช้ต้องสะท้อนถึงการคอร์รัปชันในหน่วยงานภาครัฐ (Data Addresses Corruption in the Public Sector) คำถามและการวิเคราะห์ของแหล่งข้อมูลต้องสัมพันธ์กับภาพลักษณ์ (Perception) ของการคอร์รัปชันของหน่วยงานภาครัฐอย่างชัดเจน (Explicitly) อย่างไรก็ดี คำถามที่ใช้นั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับการนิยามประเภทของการคอร์รัปชัน และประสิทธิภาพของการป้องกัน การเกิดคอร์รัปชันของแต่ละประเทศก็ได้
(3) คะแนนการวัดต้องมีความละเอียดพอ (Quantitative Granularity) โดยมาตรวัด (Scale) ที่แหล่งข้อมูลนำมาใช้ต้องแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละระดับคะแนนมากพอ กล่าวคือ ต้องเป็นมาตรวัดตั้งแต่ 4 ระดับ (Four - point scale) ขึ้นไป
(4) ต้องสามารถเปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ (Cross Country Comparability) เนื่องจาก CPI ต้องสามารถเปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ ดังนั้น ข้อมูลของแหล่งข้อมูลที่ถูกเลือกมาใช้ในการคำนวณก็ต้องสามารถเปรียบเทียบระหว่างประเทศได้ ทั้งนี้ต้องเป็นการประเมินในประเด็นเดียวกันและใช้มาตรวัดเดียวกันทุกประเทศที่รับการประเมิน
(5) ชุดข้อมูลของแหล่งข้อมูลต้องมีหลายปี (Multiyear Data - set) กล่าวคือ แหล่งข้อมูลต้องสามารถนำมาใช้ในการประเมินได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการคำนวณค่า CPI จะถูกนำมาปรับฐาน (Standardized) โดยปรับให้มีคะแนนระหว่าง 0 - 100 ด้วยวิธีการหาค่า Z - Score โดยที่ 0 หมายถึง การรับรู้การทุจริตสูงสุด และ 100 หมายถึง การรับรู้การทุจริตต่ำสุด
คะแนน CPI ของแต่ละประเทศจะคำนวณจากค่าเฉลี่ยของข้อมูลที่ถูกปรับแล้วที่ได้จากแหล่ง (Source) ต่าง ๆ โดยคะแนน CPI ของประเทศที่จะได้รับการเผยแพร่ต้องคำนวณมาจากแหล่งข้อมูลอย่างน้อย 3 แหล่งขึ้นไป เพื่อให้ค่าความแปรปรวนไม่สูงเกินไปและข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากพอ
ค่า CPI จะถูกรายงานมาพร้อมกับค่าความคลาดเคลื่อน (Standard Error) และช่วงความเชื่อมั่น (Confidence Interval) ที่ร้อยละ 90 ซึ่งสะท้อนให้เห็นค่าความแปรปรวนของคะแนน โดยมีการกำหนดให้การกระจายของข้อมูลเป็นโค้งปกติ (Normal Distribution)