กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ( Central Investigation Bureau) เป็นหน่วยงานระดับกอง
บัญชาการ อยู่ในส่วนสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สังกัดสำนักงานตำรวจแห่ง
ชาติ ทำหน้าที่ดูแลกองบังคับการในสังกัดที่มีอำนาจในการปฏิบัติการทั่วราชอาณาจักร
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีภารกิจหลักในการถวายความปลอดภัยองค์พระมหากษัตริย์
พระราชินีรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะทาง
อาชญากรรมที่มีความซับซ้อนที่มีลักษณะเป็นองค์กร หรือมีขอบเขตอำนาจนอกเหนือจากตำรวจท้องที่จะ
ดำเนินการ ซึ่งรวมไปถึงอาชญากรรมข้ามชาติ และการก่อการร้าย[5] โดยมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย
ปราบปรามอาชญากรรม สืบสวนสอบสวนครอบคลุมทั้งประเทศ
ปัจจุบันได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสมในแต่ละกองบังคับการ อาทิ การ
ป้องกันและระงับเหตุอาชญากรรมด้วยระบบกล้องตรวจจับการกระทำผิด โดย ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและ
เฝ้าระวังรถต้องสงสัย (Suspect Vehicle Command Center) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง[6] ในการ
ตรวจจับและเข้าตรวจค้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย ยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน
.
การยกระดับจัดการภัยทุจริตทางการเงิน ประกอบด้วยมาตรการ 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มที่ 1: การยกระดับการจัดการบัญชีม้า
โดยปรับจากการดำเนินการระดับ "บัญชี" เป็นระดับ "บุคคล" รวมถึงการจัดการบัญชีต้องสงสัยได้เร็วขึ้น และดำเนินการทั้งบัญชีในปัจจุบันและการเปิดบัญชีใหม่
1) การกวาดล้างบัญชีม้าในระบบ ด้วยการจัดการทุกบัญชีในทุกธนาคารของเจ้าของบัญชีต้องสงสัย
2) การเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีพฤติกรรมผิดปกติ
.
กลุ่มที่ 2: การมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลธุรกรรมของลูกค้าให้ปลอดภัยมากขึ้น
กำหนดให้ธนาคารมีผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพิ่มเติม เพื่อดูแลให้ลูกค้าใช้บริการดิจิทัลได้ปลอดภัยขึ้น ได้แก่ การล็อกวงเงินที่ห้ามทำธุรกรรมออนไลน์ โดยการปลดล็อควงเงินดังกล่าวให้ทำได้ยากขึ้น และ/หรือการปรับลดวงเงินต่อครั้งในการสแกนใบหน้าการทำธุรกรรมบน mobile banking ต่ำกว่า 50,000 บาท
ปัจจุบันมิจฉาชีพมักมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นวัยที่มีทรัพย์สินและเงินออมจำนวนมาก ทั้งยังขาดการป้องกันตนเอง และขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี ซึ่งรูปแบบภัยออนไลน์ที่มิจฉาชีพใช้ในหลอกลวง มีดังนี้
1. การหลอกลวงซื้อขายสินค้าออนไลน์ โดยหลอกให้ซื้อขายสินค้าแต่ไม่มีเจตนาที่จะส่งสินค้าให้จริง
2. การหลอกลงทุน โดยหลอกชักชวนให้ลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง ในเวลาอันสั้น ที่ไม่มีอยู่จริง
3. การหลอกให้รัก โดยหลอกเข้ามาตีสนิท สร้างความสัมพันธ์ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหวังเอาทรัพย์สิน
4. การหลอกให้กลัว หรือ Call Center โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งว่าท่านเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หลอกให้โอนเงินให้ตรวจสอบ
5. การหลอกขายยาและอาหารเสริม โดยหลอกขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือยา อ้างว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ ซึ่งอาจไม่ได้ผลจริงและเป็นอันตราย
6. การหลอกขายประกันสุขภาพ โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันสุขภาพ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือขายประกันที่ไม่เป็นความจริง
7. การหลอกรับสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการที่ดูแลเรื่องบำนาญหรือสวัสดิการผู้สูงอายุ และขอข้อมูลส่วนตัวหรือขอให้โอนเงินเพื่อดำเนินการ
ติดต่อเรา
ที่อยู่ อีเมล เบอร์โทร
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เลขที่ saraban_cib@police.go.th ศูนย์ AOC
1106 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขต 0251391999
จตุจักร กทม. 10900
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง เลขที่ 1106 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900
โทรศัพท์ ศูนย์ AOC
โทรสาร 025132771
Email : saraban_cib@police.go.th