แมวพันธุ์สยามมิส (บาลีนิส?) เป็นที่นิยมเสมอมา ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 ผู้พัฒนาสายพันธุ์สยามมิส (บาลีนิส?)ในสหรัฐอเมริกาพบแมวที่มีขนปุกปุยมากกว่าที่แมวพันธุ์สยามมิสควรจะเป็น เขารู้ว่าไม่มีสายพันธุ์อื่นในการพัฒนาสายพันธุ์ครั้งนี้แต่ก็เกิดมีแมวทีมีขนยาวกว่ามาตรฐานตัวนี้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าแมวเหล่านี้จะสวยงามแต่แมวเหล่านี้ก็ถูกนำไปเป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่าเป็นพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์
อย่างไรก็ตามนักพัฒนาสายพันธุ์สองคนชื่อว่า Helen Smith จากนิวยอร์ก and Marion Dorsey จากแคลิฟอร์เนีย รู้สึกชื่นชอบในแมวพันธุ์สยามมิส (บาลีนิส?) ขนยาวนี้ และรู้สึกว่าควรจะพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป เมื่อแมวขนยาวนี้ผสมพันธุ์กัน พวกเขาตั้งใจที่จะแยกสายพันธุ์นี้ออกมาและเริ่มที่จะวางแมวชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ร่วมกับนักพัฒนาสายพันธุ์อื่นๆที่คิดเช่นเดียวกัน
ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าจะใช้สายพันธุ์ว่าสยามมิสขนยาว (Longhair Siamese) แต่ได้รับการปฏิเสธจากนักพัฒนาสายพันธุ์สยามมิส จึงนำท่าทางการเดินที่ทำให้คิดถึงการร่ายรำในวัดของชาวบาหลีมาใช้เป็นชื่อสายพันธุ์ว่าบาลีนิส (Balinese)
บาลีนิสเป็นแมวที่กระตือรือล้น มีเสียงที่ไพเราะจากบรรพบุรุษแมวพันธุ์สยามมิส ควรจัดเตรียมที่ปีนป่ายและที่นอนที่สูงที่จำเป็นสำหรับพวกเขา ซึ่งหากไม่ได้จัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้ จาวานีสจะจัดเตรียมที่นอนเองเนื่องจากหุ่นที่เพรียวของเขาเต็มไปด้วยพลังกำลังของนักกระโดด เราอาจจะพบว่าเขาสามารถกระโดดโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักขึ้นไปบนหลังตู้เย็น ชั้นหนังสือ หรือแม้กระทั่งประตู
บาลีนิสเป็นแมวขนาดกลาง มีตำตัวยาวลาย แต่เขามีรูปร่างเพรียวและกระดูกบางแต่ไม่ได้เปราะหักง่าย
นีสเป็นแมวรูปร่างเพรียว กระดูกบาง ดังนั้นการควรดูแลโภชนาการอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำหนักมากเกินไป หากมีที่ออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เขาก็จะสามารถหลีกเลี่ยงจากการมีน้ำหนักมากเกินไป
เขามีชีวิตชีวาและยังคงน่ารัก เขาสามารถนั่งเงียบข้างผู้ดูแล นอนเกลือกกลิ้งหรือว่าให้ลูบคลำได้ เธอจึงเป็นคู่หูที่ดี