1.ความเป็นมาของผลิตภัณฑ์
ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ของตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ราบริมทุ่งพรุมีต้น กระจูด เจริญเติบโตตามธรรมชาติบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ โดยชาวบ้านที่เดิมพึ่งพาการทำสวนยางพาราและเกษตรกรรมอื่น ๆ ยามเวลาว่างจึงหันมาใช้ทรัพยากรธรรมชาตินี้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน นั่นคือการ “จักสานกระจูด” ซึ่งกลายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นในพื้นที่นี้ และได้เรียนรู้จากพ่อแม่สู่ลูกหลาน งานจักสานกระจูดไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด แต่เริ่มจากชาวบ้านใช้ต้นกระจูดที่หาได้ง่าย ๆ มา “สาน” เป็นเสื่อ กระบุง สมุก และของใช้งานชิ้นเล็กอื่น ๆ ในครัวเรือน โดยหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญคือ แม่เฒ่าเพียร นิ่มเผือก ผู้เป็นต้นแบบของการจักสานในชุมชนที่ยังคงได้รับการยกย่องถึงความชำนาญในชั้นสูง ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2538 หรือใกล้เคียงนั้น ชาวบ้านได้รับแรงบันดาลใจจากรางวัลที่ชนะในการประกวด “สมุก” (หรือขัน/กล่องสานแบบโบราณ) ซึ่งเป็นผลงานที่ใช้ในวิถีชีวิตของชาวใต้โบราณจากจุดนั้นเอง ความตั้งใจในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ถูกรวมตัวเป็นกลุ่มอย่างเป็นทางการ
โดยมีความสำคัญต่อการจักสานกระจูดที่บ้านห้วยลึกไม่ใช่เพียงงานฝีมือ แต่คือแหล่งสร้างรายได้ สร้างอาชีพเสริมให้กับสมาชิกชุมชน ช่วยให้ภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ถูกลืม และยังเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงทรัพยากรธรรมชาติกับเศรษฐกิจชุมชน ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มได้กลายเป็น “ตัวแทน” ของวิถีชีวิตชายพรุ และเมื่อผู้บริโภครับรู้ถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ของงานจักสานกระจูด ก็ยิ่งส่งเสริมให้ชุมชนบ้านห้วยลึกมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตหัตถกรรมจากกระจูดแห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี
2.ขั้นตอนการทำ
การเก็บ/เลือกต้นกระจูด
เลือกต้นกระจูดที่มีลำต้นยาว ‑ เหมาะสม ไม่แก่จัด ไม่อ่อนเกินไป โดยอายุประมาณ 2‑3 ปี หรือมีความยาวไม่ต่ำกว่า 1 เมตร เพื่อให้ได้เส้นที่เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี โดยถอนต้นกระจูดขึ้นจากพื้นที่หรือเก็บตามวิถีชุมชน แล้วนำมาคัดแยกตามขนาด/ความยาวเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
การเตรียมเส้นกระจูด
หลังจากคัดแล้ว นำต้นกระจูดมาผ่า/ตัดหัว ‑ ท้ายให้เรียบร้อยแล้วนำมาคลุกโคลนหรือดินขาวเพื่อช่วยให้เส้นเหนียวขึ้นตามแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นจากนั้นตากให้แห้งบนพื้นเรียบ หรือตากในที่ร่มให้เส้นกระจูดคลายตัว และสะอาด เพื่อที่จะรีดหรือทุบเส้นกระจูดให้แบนโดยใช้แท่นไม้/แท่นรีด หรือไม้สากเพื่อให้สามารถสานได้ง่ายและแข็งแรง
การย้อมสี
หากต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีสีสันและทันสมัย ก็ให้ย้อมเส้นกระจูดหลังเตรียมแล้ว เช่น แช่ในสารละลายสี ย้อมผึ่งให้แห้งก่อนสาน
การสาน
เริ่มจากวางเส้นตั้งและเส้นพาด (หรือเส้นตอกและเส้นสอด) ตามลวดลายที่กำหนด เช่น ลายพื้นฐาน “ลายขัดสอง” (ยก 2 เส้น / สอด 2 เส้น) หรือ “ลายขัดสาม” จากนั้นสานจากริมไปกลาง หรือจากกลางออก (ขึ้นกับแบบผลิตภัณฑ์) โดยควบคุมระยะเส้นให้สม่ำเสมอ เพื่อความแข็งแรงและความสวยงามของลวดลายเมื่อสานเสร็จแล้ว เก็บริม/พับริม (เรียกว่า “เม้ม” ในบางชุมชน) และตัดปลายที่เกินออก เพื่อให้ขอบเรียบร้อย
การตกแต่งและเก็บรักษา
หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีส่วนประกอบเพิ่มเติม เช่น หูจับ กระเป๋า เสริมด้วยผ้า หนัง หรือวัสดุอื่น และตรวจสอบงานสานว่าแน่น/แข็งแรง/ไม่มีปลายเส้นหลุด และเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ในที่แห้ง ไม่โดนความชื้นมาก เพื่อยืดอายุการใช้งาน.
จากนั้นนำเส้นกระจูดมารีดให้แบนเพื่อเตรียมนำไปจักสานเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เสื่อ กระเป๋า กระบุง หรือของใช้ในครัวเรือน