1.ความเป็นมาของผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์หลักคือ ผ้าทอมือ โดยเฉพาะ “ผ้าขาวม้าฝ้ายแท้” และ “ผ้าขาวม้าฝ้ายทอมือ” จากกลุ่มโรงทอผ้าศรีวิชัยทับเที่ยง มีการทอยกดอก (เทคนิคทอผ้าให้เกิดลวดลายด้วยการยก-ตะกอ) ซึ่งเป็นวิธีการทอผ้าแบบดั้งเดิมของภาคใต้ ไทยเขต สุราษฎร์ธานี โดยใช้ไหม หรือด้ายพุ่ง เส้นพุ่ง เส้นด้าย เส้นยืน เพื่อให้เกิดลวดลาย “นูน” บนผืนผ้า โดยมีการใช้ “ย้อมสีธรรมชาติจากพืชพื้นถิ่น” เช่น เปลือกไม้เคี่ยม เพื่อสร้างสีสันให้กับผ้า ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีความเป็นธรรมชาติ มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ลวดลายที่นิยม: เช่น ลาย “ราชวัตรโคม”, ลาย “ศรีสุราษฎร์”, ลาย “ศรีนารายณ์” เป็นต้น ซึ่งเป็นลายที่บอกถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่ทอผ้าในจังหวัด และกลุ่มได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไหมไทย ตรานกยูงพระราชทานสีเขียว “Thai Silk Blend” โดยหน่วยงานรัฐ (กรมหม่อนไหม) ลงพื้นที่และมอบใบรับรองให้กับกลุ่มในจังหวัด สุราษฎร์ธานี ซึ่งก็รวมถึงกลุ่มทอผ้าศรีวิชัย-ทับเที่ยงด้วยเช่นกัน โดยที่ความสำคัยของผลิตภัณฑ์การทอผ้าแบบนี้ช่วยให้ชุมชนในพื้นที่มีอาชีพ มีรายได้เสริมจากงานหัตถกรรม ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมของภาคใต้เนื่องด้วย“เส้นทางและสายใยกลุ่มทอผ้าแห่งเมืองคนดี” มีการเชื่อมโยงกลุ่มทอผ้าเป็น “โรงทอแม่-โรงทอลูก” เพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาทักษะช่างทอผ้าในชุมชน โอกาสทางการตลาดของกลุ่มได้รับเชิญจัดบูทในงาน “Silk Festival 2024” ซึ่งแสดงถึงการได้รับการยอมรับในระดับที่กว้างมากยิ่งขึ้น
2.ขั้นตอนการทำ
เลือกวัสดุ เช่น ฝ้าย หรือไหม ตามที่มีอยู่ในพื้นที่หรือซื้อเข้ามา ต่อด้วยการกรอเส้นด้ายยืนเข้าหลอดหรือม้วนไว้ เพื่อเตรียมขึงบนกี่ทอผ้า ร้อยปลายด้ายยืนผ่าน “ตะกอ/เขา” และ “ฟันหวี” เพื่อให้เส้นยืนถูกจัดเรียงอย่างเหมาะสม
หากต้องการสีธรรมชาติ: นำเส้นด้ายหรือผ้าดิบไปย้อมด้วยสีที่สกัดจากพืช/เปลือกไม้ เช่น เปลือกสมอ, ใบหูกวาง, ตะบูนสีแดง ต่อมาจึงทำการเลือกสีและลวดลายมักสะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นและเอกลักษณ์ที่ชอบตามความสนใจ
นำเส้นด้ายยืนที่เตรียมไว้ ไปขึงบนกี่ โดยมีเขาหูก/ตะกอ, คานเหยียบ, ฟันหวี และปรับความตึงของเส้นยืนให้เหมาะสม เพื่อให้ทอได้อย่างราบรื่น
ใช้ชุดตะกอสองชุดหรือมากกว่า เพื่อยกและแยกเส้นยืน ให้เกิดช่องว่างให้เส้นด้ายพุ่ง (weft) ต่อมาจึงสอดกระสวยด้ายพุ่งผ่านช่องที่เกิดขึ้น และกระทบฟันหวี (beat) เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบเข้ากับเนื้อผ้า หากเป็น “ลายยกดอก” (patterned weave) หรือเทคนิคพิเศษ เช่น ขิด / จก / มัดหมี่ จะมีขั้นตอนเพิ่ม เช่น การเก็บตะกอ (heald threading) และการสอดด้ายพุ่งพิเศษเพื่อให้เกิดลวดลาย
เมื่อทอได้ความยาวตามต้องการแล้ว ให้ม้วนผ้าเก็บบนแกนม้วนผ้า (beam) และคลายเส้นยืนอีกด้าน – ปรับความตึงอีกครั้งเพื่อทอผืนถัดไป ส่วนริมผ้าสองข้างอาจทอให้แน่นเพื่อความคงทน และขอบผ้าสามารถตกแต่งได้ตามแบบ.
หลังจากทอเสร็จสมบูรณ์อาจมีการซักเพื่อให้ผ้านิ่มขึ้น และรีดเพื่อปรับความเรียบให้ดูสวยงาม และตรวจลวดลายและคุณภาพเนื้อผ้า เช่นว่าเนื้อแน่นหรือไม่ พื้นผ้าสม่ำเสมอหรือมีข้อบกพร่อง.