ผลิตภัณฑ์เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์

1.ความเป็นมาของผลิตภัณฑ์

วิยะเครป โปรดักส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 โดย นางสุวณีย์ ทิพย์หมัด หรือ “คุณวิยะ” ชาวตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา ที่เติบโตมากับชุมชนชายฝั่งและอาชีพประมงพื้นบ้าน จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆในการรับซื้อและแปรรูปเนื้อปูจำหน่ายภายในจังหวัด วิยะเครปใช้ความเข้าใจในการเลือกวัตถุดิบและคัดสรรค์รสชาติพื้นถิ่น มาพัฒนาเป็นธุรกิจแปรรูปเนื้อปูอย่างจริงจัง

ต่อมาจึงได้มาทำรูปแบบการผลิต “เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเก็บรักษาได้ยาวนานโดยไม่ใช้สารกันเสีย และยังคงคุณค่าทางอาหารและรสชาติไว้อย่างครบถ้วน โดยมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ สด สะอาด และปลอดภัย  ซึ่งการใช้วัตถุดิบอย่าง ปูม้าจากอ่าวไชยา ผ่านการคัดสรรค์คุณภาพอย่างเข้มงวด และมีการปรับใช้ทคโนโลยีการพาสเจอร์ไรส์ เข้ามาเป็นกรรมวิธีที่ช่วยถนอมอาหารโดยไม่ทำลายรสชาติ หรือสารอาหาร ผ่านมาตรฐานสากล จนได้รับการรับรอง ฮาลาล, GMP, HACCP, และ ISO 9001 จากเดิมที่เป็นธุรกิจชุมชนขนาดเล็ก วิยะเครป โปรดักส์ ได้เติบโตเป็นบริษัทชั้นนำด้านการแปรรูปสัตว์น้ำของไทย ได้รับการยกย่องในฐานะ “ต้นแบบผู้ประกอบการหญิงภาคใต้” และได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารทะเลคุณภาพของประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์เนื้อปูพาสเจอร์ไรส์ของบริษัทได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากตลาดทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความสด รสชาติดี และมาตรฐานความปลอดภัยสูงอีกทั้ง      วิยะเครป โปรดักส์” ไม่ได้เป็นเพียงโรงงานแปรรูปเนื้อปูเท่านั้น แต่เป็นสัญลักษณ์ของการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้ทรัพยากรทางทะเลไทยอีกด้วยดเช่นกัน

2.ขั้นตอนการทำ

1. รับวัตถุดิบ
   รับซื้อปูม้าสด หรือวัตถุดิบปูที่จับสดใหม่ทุกวัน จากแหล่งประมงที่เป็นชาวบ้านโดยตรงเพื่อให้ได้ของที่สด ซึ่งบริษัท Viya Crab ระบุว่าใช้ปูทะเล ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยโดยมีการตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้น เช่น ความสด, ไม่มีความเสียหายหรือชำรุด,  แต่ถ้าหากปูถูกเก็บไว้ก่อนที่จะนำมาแปรรูป ต้องรักษาอุณหภูมิเย็น (chill) เพื่อชะลอการเจริญของจุลินทรีย์ให้เนื้อปูยังคงความสด และรักษาความหวานของเนื้อปูเอาไว้

2. การปรุง/ต้ม/นึ่ง
   ปูจะถูกนึ่งหรือปรุงให้สุกเพื่อเตรียมเนื้อให้แยกออกจากเปลือกได้ง่าย เช่น ส่วนหนึ่งของกระบวนการในผลิตภัณฑ์ หลังจากต้ม/นึ่ง ปูจะถูกเย็นลง (cooling) เพื่อหยุดกระบวนการความร้อนและเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

3. การแยกเนื้อ
   หลังจากสุก เนื้อปูจะถูก คัดเลือก แยกจากเปลือก ก้าม ตีน และชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการเอาออก และเนื้อจะถูกคัดเกรดตามขนาดที่ได้มาตรฐาน ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำ โดยใส่บนถาดเย็น หรือน้อคน้ำแข็ง  เพื่อรักษาคุณภาพ และหลีกเลี่ยงการเจริญของจุลินทรีย์จะไม่ทำให้เนื้อปูล่ม

4. การบรรจุเบื้องต้นและเตรียมพาสเจอร์ไรส์
   เนื้อปูที่คัดแล้วจะถูกบรรจุในภาชนะ ตามรูปแบบของผลิตภัณฑ์จาก Viya Crab  อาจมีการเติมสารช่วยรักษาสี/คุณภาพ เช่น Sodium Acid Pyrophosphate (SAPP) เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีของเนื้อปู ตามคู่มือการพาสเจอร์ไรส์ของผลิตภัณฑ์ปูทั่วไป และตรวจสอบการบรรจุว่าได้ปริมาตร น้ำหนัก ตราฉลากครบถ้วน และภาชนะมีฝาปิดสนิท ตรงตามที่มาตฐานกำหนดไว้

5. การพาสเจอร์ไรส์
   ภาชนะที่บรรจุเรียบร้อยแล้วจะถูกทำความร้อนเพื่อพาสเจอร์ไรส์ โดยที่ไม่ถึงระดับการฆ่าเชื้อแบบสเตอริไลซ์เต็มที่แต่เพียงพอที่จะช่วยลดจุลินทรีย์           ให้ปลอดภัยและยืดอายุได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น  โดยขั้นตอนการพาสเจอร์ไรส์สำหรับเนื้อปู จะต้องทำที่อุณหภูมิประมาณ 85 °C (~185 °F) เป็นเวลา 90-100 นาที แล้วตามด้วยการเย็นแบบเร็ว เพื่อหยุดความร้อนและสร้างสุญญากาศในภาชนะ และสำหรับผลิตภัณฑ์ Viya Crab มีการระบุว่าเป็น “pasteurized crab meat …” และมีอายุเก็บรักษา ที่รองรับการเก็บเย็น (0-3 °C) ได้นานหลายเดือน

6. ความเย็นและการเก็บรักษา
   หลังการพาสเจอร์ไรส์ ภาชนะจะถูกนำไปแช่น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด (ice‐slurry) เพื่อหยุดกระบวนการความร้อนทันที และลดอุณหภูมิภายในผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาคุณภาพและสี  จากนั้นผลิตภัณฑ์จะถูกเก็บในห้องเย็น (chilled storage) ที่อุณหภูมิประมาณ 0-3 °C หรือ -1 ถึง +3 °C ตามมาตรฐาน เพื่อรอการจัดจำหน่าย

7. การตรวจสอบคุณภาพและการบรรจุขั้นสุดท้าย
   ตลอดกระบวนการมีการตรวจสอบคุณภาพ เช่น ตรวจจุลินทรีย์, ตรวจน้ำหนัก, ตรวจบรรจุภัณฑ์, ตรวจการซีล (seal) ของถุง/กระป๋อง, ตรวจความสมบูรณ์ของฝาและขอบ หลังวางบรรจุภัณฑ์แล้ว มีการติดฉลาก วัน/รหัสแบทช์/วันหมดอายุ และจัดเก็บแบบ FIFO (First In First Out) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่เก่ากว่าออกจำหน่ายก่อน

8. การจัดเก็บและจัดจำหน่าย
   ผลิตภัณฑ์พาสเจอร์ไรส์แล้วจะต้องเก็บในอุณหภูมิเย็น (Chilled) เพื่อรักษาคุณภาพ โดยตัวอย่างของ Viya Crab ระบุว่า shelf life 3 เดือน ในถุงพลาสติกที่เก็บรักษา 0-3 °C ก่อนส่งออก/จัดจำหน่าย ต้องตรวจสอบอุณหภูมิของขนส่ง (cold chain), ภาชนะที่ใช้ขนส่ง และสภาพบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สินค้ายังอยู่ในคุณภาพที่ดีเมื่อถึงผู้ใช้

กลับไปสู่หน้าหลัก