1.ความเป็นมาของผลิตภัณฑ์
ในอดีต น้ำมันมะพร้าวส่วนใหญ่ถูกผลิตแบบทั่วไป (เช่น ผ่านการอบ ตาก หรือใช้มะพร้าวแห้ง ) ซึ่งแม้ว่าจะใช้ได้ แต่กระบวนการมักใช้ความร้อนสูง หรือผ่านการปรับแต่งมาก ทำให้คุณสมบัติทางโภชนาการบางอย่างลดลง แต่เมื่อเวลาผ่านไป แนวคิดเรื่อง บริสุทธิ์จากธรรมชาติ โดยที่การสกัดเย็น (cold‑pressed)” เริ่มได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ผลก็คือเกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นขึ้น ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่ผ่านความร้อน และไม่ผ่านกระบวนการฟอกสี หรือปรับแต่งจนมากเกินไป จึงคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ดีกว่า ซึ่งน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นคือหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของ “การต่อยอดทรัพยากรท้องถิ่นสู่สินค้าโลก” จากต้นมะพร้าวที่เติบโตในไทยมาอย่างยาวนาน สู่การผลิตที่ทันสมัย และตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งในแง่สุขภาพและความงาม เจ้าของธุรกิจไทยหลายรายได้ปรับตัวและใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล สำหรับผู้บริโภคทั่วไป นี่เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งในแง่การบริโภคที่ดูแลสุขภาพ และในแง่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ไทยที่มีคุณภาพ
2.ขั้นตอนการทำ
การเลือกวัตถุดิบ
เลือกมะพร้าวห้าว (มะพร้าวที่แก่พอดี ไม่อ่อนเกินไป) เพื่อให้ได้น้ำกะทิและน้ำมันที่มีคุณภาพ ตรวจสอบความสมบูรณ์ของมะพร้าว ได้แก่ เปลือกแข็ง ผิวไม่มีรอยเน่า หรือมีรอยช้ำ
การเตรียมมะพร้าว
ปอกเปลือกมะพร้าวและล้างเนื้อมะพร้าวให้สะอาด ผ่ามะพร้าวเป็นซีก หรือหั่นเป็นชิ้น เพื่อให้สามารถขูดเนื้อมะพร้าวได้ง่าย
ขูดและคั้นน้ำกะทิ
ขูดเนื้อมะพร้าวเพื่อให้ได้เนื้อมะพร้าวขูด คั้นเนื้อที่ขูดแล้วเพื่อแยกเอาน้ำกะทิออกมา โดยอาจใช้เครื่องคั้นหรือวิธีการแบบดั้งเดิม
การแยกโดยเทคนิคสกัดเย็น
นำน้ำกะทิที่ได้ใส่ในภาชนะ และควบคุมอุณหภูมิให้เย็นลง อาจใช้ลังโฟมหรือน้ำแข็งช่วย เพื่อให้เกิดการแยกชั้นของน้ำกับน้ำมัน และปล่อยให้น้ำกะทิอยู่ในภาชนะจนชั้นของ ครีมน้ำมัน เด้งขึ้นหรือเกิดการแยกชั้นอย่างชัดเจน
การสกัดและบรรจุ
ตักเอาชั้นครีมออก หรือ ชั้นน้ำมันที่แยกออกมาอย่างระมัดระวัง บรรจุภัณฑ์ในสภาพที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและการเสื่อมคุณภาพ
การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน
ตรวจสอบว่าน้ำมันใส ไม่มีสิ่งเจือปน กลิ่นไม่เหม็นหืน เพื่อมาตรฐานที่กำหนดไว้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาจำหน่ายสู่ท้องตลาด