1. การทดสอบ :

Activated Partial Thromboplastin Time (APTT)

2. ข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจ (indication) :

• ประเมินความผิดปกติในระบบการแข็งตัวของเลือดใน intrinsic และ common pathway ได้แก่ factor XII, XI, X, IX, VIII, V, II, fibrinogen

• ผู้ป่วยที่ได้รับ unfractionated heparin

• ผู้ป่วยที่สงสัยว่าจะมี inhibitor เช่น factor VIII inhibitor, Lupus anticoagulant

3. การเตรียมผู้ป่วย ( patient preparation ) :

ไม่มี

4. สิ่งส่งตรวจ ( specimen ) ปริมาณและภาชนะที่ใช้เก็บ ( collection medium ) :

เลือดใส่หลอดที่มีสารกันเลือดแข็งชนิด 3.2% sodium citrate ปริมาณ 0.5–2 มิลลิลิตร

5. การส่งสิ่งส่งตรวจและข้อควรระวัง ( handling ) :

• ต้องเจาะเลือดจากแขนคนละข้างกับที่ได้ สารน้ำต่างๆ

• ใส่เลือดให้พอดีขีด การใส่เลือดน้อยกว่า 90% จากที่กำหนด อาจทำให้ค่าที่ได้ยาวกว่าที่เป็นจริง

• ในกรณีที่มีการส่งเลือดหลายหลอด ควรใส่เลือดลงหลอดเลือดตามลำดับที่ถูกต้อง

• ควรหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน heparin เนื่องจาก heparin ปริมาณมากอาจมีผลต่อผลตรวจได้

6. วันและเวลาทำการตรวจ (testing schedule) :

ทุกวัน 24 ชั่วโมง

7. การประกันเวลาการทดสอบ ( TAT ) :

นับจากห้องปฏิบัติการได้รับสิ่งส่งตรวจใช้เวลา 90 นาที

8. การรายงานผล :

• รายงานเป็นหน่วย วินาที โดยค่าอ้างอิง (reference value) ดูจากใบรายงานผล (เปลี่ยนตาม lot ของน้ำยา)

9. ค่าตรวจ (charge) :

• ค่าตรวจ 85 บาทหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสิทธิการรักษา

• รหัสเบิกกรมบัญชีกลาง 30202

10. วิธีการวิเคราะห์ (methodology) :

ปัจจัยใน intrinsic factor ถูกกระตุ้นในภาวะที่มี surface activator และ phospholipids และใส่ calcium เพื่อกระตุ้นระบบการแข็งตัวของเลือด จับเวลาในการเกิดลิ่มเลือดโดยเครื่องอัตโนมัติ

11. สิ่งรบกวนต่อการวิเคราะห์ ( interference ) :

hemolysis, lipemia, icterus ปริมาณมาก และ parenteral feeding อาจมีผลต่อการทดสอบได้ การปนเปื้อนของ heparin ทำให้ค่ายาวกว่าที่ควรจะเป็น

12. ระยะเวลาที่สามารถขอตรวจเพิ่มได้ (time limit for requesting additional test) :

ภายใน 4 ชั่วโมง

13. อื่น ๆ ( comment ) :

• สิ่งส่งตรวจที่ตรวจพบลิ่มเลือดจะถูกปฏิเสธ เนื่องจากผลการตรวจอาจผิดพลาด

• ในผู้ป่วยที่มีค่า hematocrit สูงกว่า 55% ให้โทรแจ้งทางห้องปฏิบัติการก่อนทำการเจาะเลือด เพื่อปรับลดน้ำยากันเลือดแข็งให้ได้สัดส่วนกัน แล้วจึงนำหลอดที่ได้รับการลดน้ำยาแล้วไปใช้ในการเก็บเลือดเพื่อส่งตรวจสำหรับผู้ป่วยรายนั้น ถ้าไม่ปรับลดอาจทำให้ค่าที่ได้นานกว่าที่เป็นจริง