ชุมชนบ้านร่มเป็นชุมชนเก่าแก่ เดิมทีชื่อว่า “รูเมาะห์ปายง” เนื่องจากสัณฐานหลังคาบ้านที่มองเหมือนร่ม บรรพบุรุษของชาวบ้านกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากเป็นมุสลิมเชื้อสายปากีสถานที่อพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทย มีประวัติศาสตร์สำคัญคือ เมื่อปี พ.ศ.2452 ปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เมืองยะลาตั้งอยู่ที่บ้านท่าสาป ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำปัตตานี และต่อมาในปีพ.ศ. 2452 ซึ่งตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6 ) ได้ย้ายที่ตั้งอำเภอจากตำบลท่าสาปมาตั้งทางฝั่งขวาของแม่น้ำปัตตานีอยู่ในพื้นที่บ้านสะเตง (ปัจจุบันสถานที่ตั้งของชุมชนบ้านร่ม)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2464 มีการสร้างรางรถไฟผ่าน ‘’บ้านนิบง‘’ (ชุมชนเมืองในปัจจุบัน) ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการคมนาคมจากทางน้ำมาเป็นทางบกแทน และในปีพ.ศ. 2479 สมัยพระรัฐกิจวิจารณ์ มีการจัดตั้งเทศบาลเมืองยะลาเป็นครั้งแรกในบริเวณหมู่บ้านสะเตง ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านท่าสาป ทำให้ประชากรมาอาศัยอยู่ที่บ้านสะเตงอย่างคับคั่ง มีสถานที่ราชการสำคัญ ๆ เช่น ที่ว่าการอำเภอ ศาลากลาง ไปรษณีย์ โทรเลข ในปี พ.ศ. 2485 ทางการได้ตัดสินใจย้ายเมืองยะลาจากบ้านสะเตงมาตั้งที่นิบงอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลที่ว่าบ้านสะเตงเป็นพื้นที่ลุ่ม คับแคบ ไม่สามารถจะขยายเมืองออกไปได้ และพื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับแม่น้ำปัตตานีเกือบทุกด้าน ซึ่งทำให้ตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะทุกปี แต่นิบงนั้นมีบริเวณกว้าง อยู่ใกล้ทางรถไฟ สามารถขยายเมืองออกไปได้ทุกด้าน อีกทั้งยังมีเส้นทางการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว
ปัจจุบันชุมชนบ้านร่มตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีพื้นที่ประมาณ ๖๔๓,๑๙๘.๒๑ตารางเมตร สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่ม มีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ชุมชนบ้านร่มมีถนนสายหลัก คือ ถนน สิโรรส ถนนสาย 15 และมีถนนสายรอง คือ ถนนคอรอยี ถนนเอกราช ถนนกอเดร์-อูมา และถนนต่วนลากี
พื้นที่และอาณาเขต พื้นที่ทั้งหมด 643,198.21 ตารางเมตร
ทิศเหนือจรด แม่น้ำปัตตานี
ทิศใต้จรด ชุมชนห้าแยกกำปงบาโงย
ทิศตะวันออกจรด ถนนสิโรรส สาย 2
ทิศตะวันตกจรด แม่น้ำปัตตานี
ข้อมูลประชากร ประชากรทั้งหมด 962 คน แบ่งเป็น
ชาย 479 คน
หญิง 483 คน
ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป) รวมทั้งสิ้น 66 คน แยกเป็นชาย 32 คน หญิง 44 คน
ข้อมูลอื่นๆ
กองทุนชุมชน : ชื่อกองทุนแม่ของแผ่นดิน มีจํานวน 1 กองทุน
ประเพณีที่สำคัญ
- ประเพณีกวนอาซูรอเป็นประเพณีที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 10 เดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีในศาสนาอิสลาม (ประมาณเดือนพฤศจิกายนของไทย) สาเหตุที่มีการกวนอาซูรอ จากประวัติศาสตร์ของศาสนาอิสลาม ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในสมัยนบีนุฮ (อะลัยฮิสสลาม) ทำให้เกิดความเสียหายแก่หน้าแผ่นดิน และได้รวมตัวกันขึ้นเรือใหญ่เพื่อเป็นการประทังชีวิตในเรือ จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของเหลือพอที่จะรับประทานได้ ให้เอามารวมกันและให้นำของเหล่านั้นมากวนด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้มีอาหารกินกันอย่างเพียงพอโดยทั่วกัน
- ประเพณีเมาลิดเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการกำเนิดของท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซล) ซึ่งในศาสนาแล้วไม่เป็นการบังคับให้จัดประเพณีนี้ เมาลิดเป็นประเพณีที่สืบทอดมาเพื่อที่จะรวมความเป็นหนึ่งของมุสลิม โดยพิธีจะมีขึ้นที่มัสยิดหรือที่บ้านของผู้มีจิตศรัทธา ชาวบ้านจะมาช่วยกันหุงหาอาหาร สวดมนต์ขอพรและรับประทานอาหารร่วมกัน
- ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นในคืนวันเพ็ญของเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นการขอบคุณและขอขมาต่อเจ้าแม่คงคา ทุกปีจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งที่มาจากชุมชนบ้านร่มและชุมชนใกล้เคียงมาร่วมงานลอยกระทง ณ แม่น้ำสายนี้เป็นจำนวนมาก
ประธานชุมชน นายนราธรณ์ อับดุลลา
ทำเนียบอสม. นางเน่งน้อย สุริยะโต
นางแวสะปีเย๊าะ เจ๊ะอุบง
นางอังคณา เจ๊ะอุบง
นางอายีซะ หะมะ
นางบีบีหะวา สมานสี