จังหวัดยะลา เป็นจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 5 องศา 37 ลิปดา ถึง 6 องศา 41 ลิปดาเหนือระหว่างเส้นแวงที่ 100 องศา 50 ลิปดา ถึง 101 องศา 37 ลิปดาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครโดยเส้นทางรถไฟประมาณ 1,039 กิโลเมตรตามถนนเพชรเกษมสายเก่า 1,395 กิโลเมตร หรือสายใหม่ 1,084 กิโลเมตร และเป็นจังหวัดเดียวของภาคใต้ที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลมีพื้นที่ทั้งสิ้น 4,521.06 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,825,667.99 ไร่
มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้
ทิศเหนือ : ติดต่อกับอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอแม่ลาน อำเภอยะรัง อำเภอทุ่งยางแดงและอำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี
ทิศตะวันออก : ติดต่อกับอำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาครและอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
ทิศใต้ : ติดต่อกับจังหวัด HULU PERAK รัฐเปรัคและจังหวัด BALING รัฐเคดาห์ ประเทศสหพันธ์รัฐมาเลเซีย
ทิศตะวันตก : ติดต่อกับอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลาและจังหวัด SIK รัฐเคดาห์ ประเทศสหพันธ์รัฐมาเลเซีย
จังหวัดยะลา มีประชากรจำนวน 532,326 คน แยกเป็น ชายจำนวน 264,928 คน และหญิง จำนวน 267,398 คน แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 56 ตำบล
380 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง องค์การบริหารส่วนตำบล 47 แห่ง และเทศบาล 16 แห่ง
(แยกเป็นเทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง และเทศบาลตำบล 13 แห่ง)
สภาพพื้นที่ของจังหวัดยะลา เป็นลักษณะของภูมิประเทศที่เกิดจากการกระทำของแม่น้ำที่เกิดจากภูเขาสูงทางตอนใต้ไหลกัดกร่อนพื้นที่ไปทางทิศเหนือ และออกทะเลที่จังหวัดปัตตานี ทำให้มีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำบริเวณพื้นที่ตอนเหนือในเขตอำเภอยะหา อำเภอเมือง อำเภอรามันและอำเภอกรงปินัง พื้นที่ตอนกลางตั้งแต่อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโตและอำเภอเบตง ตลอดจนจรดแนวพรมแดนทางใต้มีสภาพพื้นที่เป็นที่สูงและภูเขา
สภาพพื้นที่โดยรวมจำแนกลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นที่ย่อย 4 บริเวณ ดังนี้
1. พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีความสูงน้อยกว่า 200 เมตร จากระดับน้ำทะเลและมีระดับความลาดชันต่ำ ประมาณ 0-1 % พื้นที่เกิดจากตะกอนลำน้ำที่แม่น้ำพัดพามาทับถม จึงเป็นเขตที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงปานกลาง พื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำของจังหวัดยะลา มีเนื้อที่ประมาณ 234,456 ไร่ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 8.30 ของพื้นที่จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดในเขตอำเภอเมือง อำเภอรามันและพื้นที่บางส่วนของอำเภอยะหา พื้นที่บางบริเวณ
จะเป็นที่ลุ่มต่ำ มีน้ำขังตลอดปี เรียกว่า ที่พรุ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอรามัน เช่น พรุโต๊ะพราน พรุบึงน้ำใส และพรุโต๊ะแนแว เป็นต้น
2. พื้นที่ราบลูกคลื่นลอนลาด เป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำ สภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบที่มีระดับความสูงไม่เกินจาก 200 เมตร จากระดับน้ำทะเลเช่นกันเพียงแต่มีระดับความลาดชันระหว่าง 2-5 % ลักษณะของพื้นที่จึงเป็นที่ราบสูงต่ำ สลับกันคล้ายลูกคลื่นหรือลูกฟูก พบในพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัด โดยเป็นพื้นที่บางส่วนของอำเภอยะหา อำเภอเมืองและอำเภอรามัน
3. พื้นที่ลูกคลื่นลอนชัน สภาพพื้นที่คล้ายกับที่ราบลูกคลื่นลอนลาด แต่มีระดับสูงมากกว่า ทั้งนี้ เพราะเป็นเขตต่อเนื่องจากที่สูงและภูเขา โดยมีระดับความลาดชันของพื้นที่ระหว่าง 5-20% พบกระจายบริเวณกว้างในเขตพื้นที่ตอนเหนือจังหวัด เขตอำเภอยะหา อำเภอรามันและพื้นที่บางส่วนของอำเภอกรงปินัง
4. พื้นที่สูงและภูเขา พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดมีลักษณะเป็นที่สูงและภูเขาสลับซับซ้อนทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ ตั้งแต่ตอนกลางของจังหวัดพื้นที่อำเภอกรงปินัง พื้นที่ตอนใต้ของอำเภอยะหาตลอดลงมาทางใต้ครอบคลุมพื้นที่แทบทั้งหมดของอำเภอธารโตและอำเภอเบตง สภาพพื้นที่มีความสูงตั้งแต่ 200 เมตรจนกระทั่งเกินกว่า 1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลและ มีระดับความลาดชันของพื้นที่เกินกว่าร้อยละ20 ภูเขาที่สำคัญ ได้แก่ เขาบือยอ เขาปิโล และเขาสันกาลาคีรี ซึ่งเป็นทิวเขาที่เป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างประเทศและเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายหลักของจังหวัด ได้แก่ แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี ตลอดจนลำธารและลำคลองสาขาต่าง ๆ
ที่ตั้งและอาณาเขต
การแบ่งเขตการปกครอง
ลักษณะภูมิประเทศ