ฉีดโบท็อกซ์ การเสริมความงามอีก 1 รูปแบบที่สามารถมอบความงามโกงอายุแบบไม่ศัลยกรรม ไม่ต้องเจ็บตัวนานให้เสียเวลา เพราะความสวยรอไม่ได้วันนี้ Bowme Clinic เราได้นำ 3 จุดที่สามารถคืนหน้าเด็กให้ได้อีกครั้ง จุดฉีดที่จะทำให้หน้าดูเด็กไม่ต้องรอแก่ ก็สามารถฉีดได้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย

ฉีดโบท็อกซ์ หน้าไม่พัง ปังแน่นอนกับ Bowme Clinic คลินิกความงานอันดับ 1

ฉีดโบท็อกซ์ ในยุคที่ความรูปร่างหน้าตา เป็นค่านิยม การศัลยกรรมเสริมสวยจึงได้รับความนิยมขึ้นมากขึ้น จนให้เราอาจจะมองเห็นแต่ คลินิก และร้านเสริมแต่งความงามอยู่เยอะแยะ และ 1 ใน หลายๆ วิธีการเสริมความที่เราคุ้นหน้าคุ้นหูกันเป็นอย่างดี นั้นก็คงหนีไม่พ้น โบท็อก เพื่อให้ได้ถึงความที่เรียบเนียนสวย หรือ สำหรับบางคนที่อายุยังไม่เยอะและอาจจะต้องการให้หน้าเรียบเนียน สวย แบบนี้ หรือมีปัญหาเรื่องอื่นๆ โบท็อก คือ 1 ในทางออกที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

อีกทั้งยังมั่นใจได้ถึงผล เพราะนี่เป็นการเสริมงามที่ได้รับความมากอย่างยาวนาน แต่ที่เราคิดว่าเรารู้จักโบท็อกแล้วนั้น จริงๆ แล้ว อาจมีอีกหลายๆอย่าง ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างการเสริมความในปัจจุบัน ก็มีการเสริมงามหลากหลายมากยิ่งขึ้น

แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรละ เพราะก็มีคลินิกมากมายออกมานำเสนอการรักษาแบบต่างๆให้กับเรา จนบ้างตัดตัดสินใจได้ยากเอามากๆ เหมือนกัน เราโบมีที่เห็นถึงความสำคัญตรงนี้ เพราะจากโซเชียลเองก็มีแค่ราคากับรูปภาพชวนฝันที่ทำเป็นตัวตัดสินใจ วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อควรรู้ 13 ข้อที่จะช่วยตัดสินใจได้อย่างง่ายและเป็นการตัดสินใจที่มั่นใจ พร้อมทั้งแชร์ 5 จุดฉีดที่ดีที่สุด

5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ฉีดโบท็อกซ์

ทุกคนรู้...ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไปและทุกสิ่งมีวันเวลาของมัน ในเรื่องรูปร่างหน้าตาก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าทุกคนจะต้องการความสวยและหน้าตาที่ดูดีอยู่กับเราตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โชคดีที่วันนี้นวัตกรรมของเราเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ เราชื่อ "โบท็อก"

1.โบท็อกช่วยได้อย่างไร?

จุดเริ่มต้นของ "โบท็อก" ใช้รักษาอาการตาเหล่ ตาเหล่ หรือเปลือกตากระตุก นอกจากนี้ยังพบว่าริ้วรอยบริเวณที่ฉีดลดลง ดังนั้นจึงได้รับการพัฒนาเพื่อใช้ในด้านเครื่องสำอาง ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น

สำหรับการรักษาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้าและสีหน้า เช่น ริ้วรอยคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยในปาก เป็นต้น

ใช้ลดคาง (ลดหน้าเหลี่ยม) ช่วยให้หน้าเรียวขึ้น

ชิ้นเนื้อใช้ลดบริเวณน่อง ทำให้น่องเรียวและขาดูเล็กลง

ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดเช่นไมเกรนและอาการปวดหลัง

ใช้เพื่อลดการขับเหงื่อของผิวหนัง เช่น รักแร้และฝ่ามือ

2.โบท็อกไม่น่ากลัว

ก่อนตัดสินใจฉีดโบทูลินัมท็อกซิน ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือคำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหา จะมีการวางแผนการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุดนอกเหนือจากผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ การใช้ Botox อย่างถูกต้องจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย แต่อาจมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น:

ผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจเป็นสีแดง หรือรอยฟกช้ำเล็กๆ ที่เกิดจากเข็มจนจุดต่างๆ จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 5-7 วัน

ผื่นแดงและอาการคันอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่เกิดอาการแพ้

ใบหน้าที่แข็งกระด้าง ปากเบี้ยว หรือรอยยิ้มที่ไม่สมบูรณ์อาจเกิดจากการฉีดโบท็อกที่ไม่เหมาะสม

การทำตาชั้นสามารถฉีดโบท็อกเข้าไปในรอยพับระหว่างคิ้วได้ อยู่ใกล้เปลือกตาบนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาอ่อนแรงและร่วงหล่น

ในบางกรณี ปริมาณโบท็อกไม่เหมาะสม เปลือกตาหย่อนยาน ริมฝีปากคด หรือไม่สามารถยิ้มได้อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่การฉีดยาเบี่ยงเบนไปจากตำแหน่งปกติ หากคุณมีอาการดังกล่าว ควรไปพบแพทย์และวางแผนการรักษา

3.โบท็อก...เหมาะกับใคร?

ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งชายและหญิงให้ความสำคัญกับสุขภาพและความงามมากขึ้น สุขภาพและความงามของผิวหน้าก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้นการ ฉีดโบท็อกซ์ จึงเป็นตัวช่วยและทางเลือกในการรักษาความอ่อนเยาว์ และช่วยชะลอความแก่ในอนาคต ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับ

ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น หน้าผาก ตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตาและปาก

คนที่อยากให้ตาโตและอ่อนกว่าวัย

คนที่ต้องการลดคาง ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น

ผู้ที่ต้องการป้องกันริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ถ้าเราอยากสวยให้นานที่สุด เราควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับโบท็อกคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่น่าเชื่อถือ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงยาที่มีคุณภาพ เพราะหากเราเลือกถูก ผลลัพธ์ย่อมดีกว่าแน่นอน

4.โบท็อกแก้ไขปัญหาหน้าบานฉบับเร่งด่วน !

การทำศัลยกรรมใบหน้าไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น คางใหญ่ กล้าม มีคางใหญ่ตั้งแต่ส่วนกระดูกหน้า หรือหน้าใหญ่ เพราะมีไขมันบริเวณแก้มมาก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ประเมินปัญหาโดยตรง และวิธีแก้ปัญหา แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ 2 ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อจัดการปัญหา

โบท็อกกราม (Chin Botox) + โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า (Botox Face Slimming)

ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าเบลอด้วยคางใหญ่ได้อย่างไร โบทูลินั่ม ท็อกซิน หรือ โบทูลินัม ทอกซิน ก็เหมือนกับธาตุเหล็ก ความสามารถในการยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว 1 เดือน หลังจากฉีดโบท็อก กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะเริ่มผ่อนคลายและอ่อนแรงลง

โบท็อกกราม (Chin Botox) : เทคนิคการฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณขากรรไกรล่าง

ผลของโบท็อกกราม : หน้าบาง หน้าเล็ก ดูวี แต่อาจประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากขนาดกล้ามเนื้อเล็กลง

โบท็อกลิฟท์กรอบหน้า (Botox Face Slimming) : เทคนิคการฉีดเข้าสู่ผิวเผินบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำคอ

ผลของโบท็อกลิฟท์กรอบหน้า : ช่วยรักษาผิวที่หย่อนคล้อย การยกกระชับเพิ่มกรอบหน้าใสให้ใบหน้าและยังช่วยให้ใบหน้าเรียว

5. ฉีดโบท็อกซ์ ลดกรามใหญ่ได้จริงหรอ ?

การ ฉีดโบท็อกลดกราม สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้คนที่มีปัญหา กรามใหญ่ หน้าบาน ได้แน่นอน เพราะโบท็อก หรือ Botulinum toxin มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานชั่วคราว เมื่อ ฉีดโบท็อกลดกราม กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะอ่อนแอลง ทีนี้รูปหน้าของเราก็จะดูเรียว กรอบหน้าชัดมีมิติ หน้าเล็กลงได้สักส่วนที่ดีขึ้น จะมุมไหนๆ หันซ้ายหันขวาหรือหน้าตรงยังไงก็รอดแน่นอน

การ ฉีดโบท็อกลดกราม สามารถฉีดซ้ำได้เมื่อหมดฤทธิ์ ซึ่งจะอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อของโบท็อก และขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของตัวยา ถือว่าเป็นการทำสวยแบบเจ็บตัวน้อยมาก แถมผลลัพธ์ยังตอบโจทย์สุดๆสำหรับคนที่อยากหน้าเรียว แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรมอีกด้วย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกเพื่อลดกราม

เห็นผลเร็ว 7-14 วัน คางหดและทำให้หน้าบางลง

ไม่เจ็บ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

โบท็อกแท้ 100% ปลอดภัยไร้สารตกค้าง

ข้อเสียของการ ฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดกราม

ผลลัพธ์ไม่ถาวรและสามารถอยู่ได้นาน 8 เดือน - 1 ปี ขึ้นอยู่กับมวลกล้ามเนื้อของผู้ป่วยและยี่ห้อของโบท็อกใช้ตำแหน่งจุดฉีดที่แม่นยำ หากพบแพทย์ปลอมฉีดผิดที่อาจทำให้หน้าแข็งและบิดเบี้ยวได้

3 ขั้นตอนสู่ความงาม

แพทย์จะประเมินปัญหาขณะประเมินจำนวนหน่วยที่ต้องการ และกำหนดตำแหน่งที่จะฉีดโบท็อก

ทำความสะอาดใบหน้าของคุณและประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉีดโบท็อก

แพทย์ฉีดโบท็อกผู้ป่วยเพื่อแก้ไขปัญหาของผู้ป่วยอย่างอ่อนโยน

ข้อควรระวังในการ ฉีดโบท็อกซ์

ไม่ใช่ทุกคนจะสวยได้ด้วยการฉีดโบท็อก บุคคลไม่สามารถฉีดโบท็อกได้ดังนี้

คนแพ้โบท็อก

ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผู้ที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงรุนแรง

ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติที่หยุดยาก

เตรียมตัวให้พร้อม...ก่อนฉีดโบท็อก

สำหรับผู้ที่จะได้รับการฉีดโบท็อก คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้แอสไพรินหรือ NSAIDs น้ำมันตับปลา วิตามินอี หรือสารสกัดจากแปะก๊วย 1 สัปดาห์ก่อนการเยี่ยมชม เนื่องจากยาแก้ปวดและวิตามินในกลุ่มนี้มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้า อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยฟกช้ำและผลข้างเคียงอื่น ๆ แต่ทั้งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือเครื่องสำอาง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก รวมทั้งเลือกใช้บริการโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ ตรงตามความต้องการและปลอดภัย

การได้รับคำแนะนำจากแพทย์ โบท็อก ชั้นนำ เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจแต่ถ้าคำตอบยังไม่ใช่สำหรับคุณให้ Bowme clinic เป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา สามารถติดต่อสอบ-ถามเพิ่มเติมได้ที่ FB : bowmeclinic หรือ LINE@ : @bowme ได้ตลอด 24 ชม.