1. กระดานแผนที่หลัก (Board) จะมี 2 หน้า เป็นช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ทั้งสองด้านจะเหมือนกัน ต่างกันแค่รูปและบรรยากาศของกระดานแค่นั้น ดังนั้นเวลาเล่นจะใช้ด้านไหนก็ได้

2. กระดานผู้เล่น (Player mats) 4 แผ่น เป็นกระดานที่แจกให้กับผู้เล่นแต่ละคน

3. เบี้ยแทนตัวผู้เล่น (Character tiles) 4 ชิ้น มี 2 หน้า

4. เบี้ยแทนการคมนาคม (Link tiles) แยกเป็น 4 สี สำหรับผู้เล่นแต่ละคน โดยมีสีละ 14 ชิ้น แต่ละชิ้นจะมีสองด้าน คือด้านหนึ่งจะเป็นรูปเรือ สำหรับใช้ในยุคคมนาคมทางคลอง และอีกด้านหนึ่งเป็นรูปรถไฟ สำหรับใช้ในยุคที่เป็นการคมนาคมทางรถไฟ

5. การ์ดเมืองและการ์ดอุตสาหกรรมแบบต่างๆ (Location and industry cards) ทั้งหมด 64 ใบ

6. การ์ดพิเศษที่ใช้แทนสถานที่ใดก็ได้ (Wild location cards) 4 ใบ และการ์ดที่ใช้แทนอุตสาหกรรมอะไรก็ได้ (Wild industry card) อีก 4 ใบ

7. การ์ดอ้างอิง (Player aids) 4 ใบ สำหรับผู้เล่นแต่ละคน

8. เบี้ย 6 เหลี่ยม (VP markers) 4 ชิ้น ใช้สำหรับนับแต้มชัยชนะ

9. เบี้ยลูกบาศก์สีดำ (Coal cubes) 30 ชิ้น สำหรับใช้แทนถ่านหิน

10. เบี้ยรูปถังเบียร์ (Beer barrels)15 ชิ้น

11. เบี้ยวงกลมแบน (Income markers) 4 ชิ้น สำหรับนับอัตรารายได้

12. เบี้ยลูกบาศก์สีส้ม (Iron cubes) 18 ชิ้น สำหรับแทนเหล็ก

13. เหรียญกระดาษแข็ง (Money tokens) 1 ปอนด์ 5 ปอนด์ และ 15 ปอนด์ รวมทั้งหมด 67 เหรียญ

14. แผ่นเบี้ยอุตสาหกรรมในยุคต่างๆ (Industry tiles) แยกเป็น 4 สี สำหรับผู้เล่นแต่ละคน สีละ 45 ชิ้น

15. เบี้ยทรงมน (Merchant tiles) 9 ชิ้น เป็นเบี้ยแทนตลาดค้าขาย

การเซ็ตกระดานหลัก

1. กางกระดานหลักวางไว้โดยหงายด้านใดก็ได้

2. หยิบการ์ดเมือง การ์ดอุตสาหกรรม และเบี้ยตลาดที่ตรงกับจำนวนผุ้เล่นมาใช้ การ์ดและเบี้ยตลาดที่ไม่ตรงกับจำนวนผู้เล่นให้หยิบออก ที่การ์ดจะมีสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าใช้สำหรับผู้เล่นกี่คน เป็นจุดอยู่ข้างๆการ์ด

3. หยิบการ์ดพิเศษ (การ์ดทุกสถานที่ และการ์ดทุกอุตสาหกรรม) ออกมาวางไว้ที่พื้นที่วางบนกระดานหลัก โดยใช้จำนวนการ์ดทั้งสองชนิดแต่ละชนิดเท่ากับจำนวนผู้เล่น (ถ้าเล่นสองคน ก็ใช้อย่างละสองใบ เป็นต้น)

4. นำการ์ดที่เหลือทั้งหมดมาสับให้ละเอียด จากนั้นวางกองไว้เป็นกองจั่วบนกระดานหลัก ตรงตำแหน่งที่วางการ์ด

5. นำเบี้ยตลาดที่ใช้ มาสุ่มวางบนกระดานตามตำแหน่งที่กำหนดไว้สำหรับจำนวนผู้เล่นที่แตกต่างกัน (กรณีเล่นสองคน จะไม่วางที่ตลาดวาริงตั้น (Warrington) และตลาดน็อตติ้งแฮม (Nottingham) ถ้าเล่นสามคนจะไม่วางเฉพาะที่ตลาดน็อตติ้งแฮม ส่วนถ้าเล่นสี่คนก็จะวางหมดทุกตลาด)

6. นำเบี้ยถังเบียร์ไปวางไว้ที่ตำแหน่งบนกระดาน ตรงจุดที่มีเบี้ยตลาดที่ไม่เป็นเบี้ยว่าง (เบี้ยว่างคือเบี้ยที่ไม่มีสัญลักษณ์อะไรอยุ่บนเบี้ยเลย)

7. นำเบี้ยลูกบาศก์สีดำวางบนพื้นที่ตลาดกลาง สำหรับวางถ่านหินบนกระดานหลัก (อยู่ทางขวาของกระดาน) โดยเว้นไว้เฉพาะตำแหน่งที่มีจุดอยู่

8. นำเบี้ยลูกบาศก์สีส้มวางบนพื้นที่ตลาดกลาง สำหรับวางเหล็กบนกระดานหลัก (อยู่ทางขวาของกระดาน) โดยเว้นไว้เฉพาะตำแหน่งที่มีจุดอยู่

9. นำเบี้ยลูกบาศก์สีดำและสีส้ม รวมทั้งเบี้ยถังเบียร์ที่เหลืออยู่ไปวางไว้ข้างๆกระดาน ใช้เป็นกองกลาง

10. นำเบี้ยเงินทั้งหมดวางไว้ข้างกระดานเป็นธนาคาร

11. นำเบี้ยชัยชนะของผู้เล่นทั้งหมดวางบนตำแหน่ง 0 บริเวณขอบกระดาน

12. นำเบี้ยอัตรารายได้ของผุ้เล่นทั้งหมดวางบนตำแหน่ง 10 บริเวณขอบกระดาน

การเซ็ตกระดานผู้เล่น

1. นำกระดานผู้เล่นวางที่ด้านหน้าผู้เล่นแต่ละคน

2. จ่ายเงินให้ผู้เล่นคนละ 17 ปอนด์จากธนาคาร

3. เลือกเบี้ยตัวละครสีที่ต้องการ

4. นำเบี้ยคมนาคมสีเดียวกับตัวละครที่เลือกมาวางไว้ข้างๆ

5. นำเบี้ยอุตสาหกรรมสีเดียวกันกับตัวละครที่เลือกทั้งหมด วางบนกระดาน โดยวางให้ตำแหน่งตรงกับสัญลักษณ์บนกระดาน และวางหงายด้านที่เป็นพื้นหลังสีล้วน (ไม่ได้แบ่งเป็นครึ่งสีดำ) ในกรณีที่เบี้ยซ้ำกัน ก็ให้วางทับกันเอาไว้

6. จั่วการ์ดจากกองมา 8 ใบ จากนั้นจั่วเพิ่มอีก 1 ใบวางคว่ำหน้าเอาไว้ข้างๆกระดานผู้เล่น ใช้เป็นตำแหน่งทิ้งไพ่

หลังจากที่เซ็ตอัพเสร็จหมดแล้ว ให้นำเบี้ยผู้เล่นมาสุ่มวางเรียงลำดับบนกระดานหลัก ตรงพื้นที่สำหรับวางเบี้ยผู้เล่น จากนั้นก็สามารถเริ่มเล่นเกมได้

จุดมุ่งหมายของเกม

เกม Brass Birmingham จะแบ่งการเล่นออกเป็น 2 ยุคสมัย คือช่วงยุคสมัยการคมนาคมทางน้ำผ่านทางเรือและการขุดคลอง (1770 – 1830) และช่วงยุคสมัยการคมนาคมทางรถไฟ (1830 – 1870) โดยเมื่อจบทั้งสองช่วงแล้ว ผู้เล่นที่มีแต้มชัยชนะมากที่สุด ก็จะเป็นผู้ชนะเกม

รอบการเล่น

ในแต่ละยุคสมัยผู้เล่นจะเล่นสลับกันไปเป็นรอบๆ โดยจะเล่นไปจนกว่าการ์ดในกองจะหมด แล้วก็เล่นต่อจนกว่าการ์ดที่เหลืออยู่ในมือจะหมด ซึ่งจะได้เป็นจำนวน 8 – 10 รอบการเล่น ตามจำนวนผู้เล่น 2 – 4 คนตามลำดับ ในแต่ละรอบ ผู้เล่นจะเล่นตามลำดับของเบี้ยแทนตัวผู้เล่นที่วางอยู่บนกระดาน

การเล่นของผู้เล่นในแต่ละรอบ

ในการเล่นแต่ละรองการเล่น ผู้เล่นจะสามารถทำได้ 2 แอ็กชั่น ยกเว้นแค่การเล่นครั้งแรกของเกม ซึ่งจะทำได้แค่ 1 แอ็กชั่นเท่านั้น โดยการทำแอ็กชั่นจะมีกฏอยู่คือ

1. ในการทำแอ็กชั่นทุกครั้ง ผู้เล่นจะต้องทิ้งการ์ดในมือ 1 ใบ โดยทิ้งลงในพื้นที่ทิ้งของตนเอง (ยกเว้นการ์ดพิเศษ ให้ทิ้งคืนไปที่กองการ์ดพิเศษบนกระดาน)

2. หลังจากที่ผู้เล่นได้ทำแอ็กชั่นครบแล้ว ให้ทำการจั่วการ์ดจากกองคืนมาให้ครบ 8 ใบ

3. เหรียญเงินทั้งหมดที่ผู้เล่นใช้ไปในรอบการเล่น ให้นำมาวางไว้บนเบี้ยประจำตัวผู้เล่น บนกระดานหลัก

4. ผู้เล่นจะเล่นได้จนกว่าการ์ดในกองและในมือจะหมด

แอ็กชั่นที่สามารถทำได้

ในรอบของการเล่น ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะทำแอ็กชั่นต่อไปนี้ได้ (สามารถทำซ้ำก็ได้)

1. การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม (Build) – ทำโดยการนำเบี้ยโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้าง จากกระดานผู้เล่น ไปวางบนกระดานหลัก ซึ่งจะทำได้ต่อเมื่อมีการ์ดเมืองหรือการ์ดอุตสาหกรรมที่ตรงตามเงื่อนไขอยุ่ในมือ จากนั้นจ่ายเงินและทรัพยากรที่ต้องใช้ตามที่กำหนด

2. การสร้างเส้นทางคมนาคม (Network) – ทำโดยการวางเบี้ยคมนาคม หันด้านเรือขึ้น ในยุคคลอง และหันด้านรถไฟขึ้น ในยุคของรางรถไฟ

3. พัฒนาวิจัย (Develop) – ใช้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแบบต่างๆ โดยการทิ้งเบี้ยโรงงานอุตสาหกรรมบนกระดานผู้เล่นที่ระดับต่ำสุดออกไป ทำให้สามารถใช้เบี้ยโรงงานอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นได้

4. ขาย (Sell) – การขายจะแยกเป็น 2 ประเภท คือการเปิดตลาด โรงงานอุตสาหกรรมประเภท โรงงานนุ่น (Cotton Mill), โรงงานผลิตสินค้า (Manufacturer), และโรงงานเครื่องดินเผา (Pottery) จะทำได้โดยเปิดการขายกับตลาดกลาง ส่วนโรงงานถ่านหิน (Coal) โรงงานถลุงเหล็ก (Iron) และโรงงานทำเบียร์ (Beer) จะขายโดยการที่มีผู้เล่นคนอื่นมาหยิบไปใช้

5. กู้เงิน (Loan) – ผู้เล่นสามารถใช้แอ็กชั่นเพื่อกู้เงินจากธนาคารได้ โดยแลกกับการที่จะต้องถอยเบี้ยอัตรารายได้ลงไป 3 ระดับ (ถอย 3 ระดับ ไม่ใช้ถอย 3 ช่อง ซึ่งแต่ละระดับอาจจะมีหลายช่อง ตามกำหนดบนกระดานหลัก)

6. การสำรวจตลาด (Scout) – ผู้เล่นสามารถใช้แอ็กชั่นในการสำรวจตลาด ซึ่งทำได้โดยการทิ้งการ์ดเพิ่มอีก 2 ใบ (กลายเป็น 3 ใบ) เพื่อแลกกับการ์ดพิเศษอย่างละใบ (การ์ดเมืองอะไรก็ได้ 1 ใบ และการ์ดอุตสาหกรรมอะไรก็ได้อีก 1 ใบ)

7. การผ่าน (Passing) – ผุ้เล่นสามารถเลือกที่จะไม่เล่นอะไรก็ได้ แต่ยังคงจะต้องทิ้งการ์ดในมือ 1 ใบอยู่ดี

เมื่อจบรอบการเล่น

การสลับผุ้เล่นจากเงินที่ใช้ไป ที่ตำแหน่ง C ของผู้เล่นสองคน ใช้เงินเท่ากัน ทำให้ลำดับไม่เปลี่ยน B ใช้เงินน้อยที่สุด จึงได้เล่นก่อน

1. ตรวจดูเงินที่ใช้ไปของผู้เล่นแต่ละคนในรอบที่ผ่านมา สลับตำแหน่งเบี้ยผู้เล่น ให้คนที่จ่ายเงินไปน้อยที่สุดอยู่บนสุด เพื่อที่จะได้เป็นผุ้เล่นคนแรก

2. นำเงินที่อยู่บนเบี้ยผู้เล่นเข้าธนาคาร

3. จ่ายเงินให้กับผู้เล่นแต่ละคนตามอัตรารายได้ อัตรารายได้จะเป็นสัญลักษณ์เหรียญทองอยู่ข้างๆกลุ่มของหมายเลขที่อยู่บนแถบข้างกระดานหลัก ในกรณีที่ถ้าอัตราการเล่นติดลบ ผู้เล่นจะต้องจ่ายเงินตามจำนวนที่ติดลบให้กับธนาคารแทน

4. ในกรณีที่อัตรารายได้ติดลบ โดยที่ผู้เล่นไม่มีเงินพอจ่าย ผู้เล่นจะต้องเลือกโรงงานอุตสาหกรรมใดก็ได้บนกระดาน เพื่อที่จะขายให้กับธนาคาร เป็นเงินครึ่งหนึ่งของราคาที่ซื้อมาปัดลง เพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับธนาคาร ในกรณีที่เงินเหลือ ผู้เล่นสามารถเก็บเงินจำนวนนั้นเอาไว้ได้

5. ในกรณีที่ผู้เล่นไม่เหลือโรงงานให้ขาย แต่ยังคงต้องจ่ายเงินให้ธนาคารอยู่ ให้ผุ้เล่นลดแต้มชัยชนะลง 1 แต้มต่อเงิน 1 ปอนด์ที่ยังค้างชำระ

6. ถ้าผู้เล่นไม่มีแต้มชัยชนะเหลือแล้ว แต่ยังมีหนี้ค้างอยุ่ ให้ถือว่าหนี้สูญไป

กติกาการพลิกแผ่นโรงงานอุตสาหกรรม

ในช่วงจบยุคสมัย แผ่นโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกพลิกหงาย จะสามารถเป็นแต้มชัยชนะได้ การพลิกแผ่นโรงงานจะแตกต่างกันตามชนิดของโรงงาน คือ

• สำหรับโรงงานทำนุ่น โรงงานผลิตสินค้า และ โรงงานเครื่องปั้นดินเผา จะสามารถพลิกได้เมื่อทำหารเชื่อมต่อโรงงานเข้ากับตลาดได้สำเร็จ และทำแอ็กชั่นขาย (Sell) เพื่อเปิดตลาดสำหรับโรงงานนั้น

• สำหรับเหมืองถ่านหิน โรงถลุงเหล็ก และโรงงานทำเบียร์ จะพลิกเมื่อของที่วางอยู่บนแผ่นโรงงานถูกหยิบไปใช้จนหมด

การเพิ่มรายได้

เมื่อมีการพลิกแผ่นโรงงานต่างๆ จะมีเครื่องหมายที่บอกว่าผุู้เล่นจะได้รับรายได้เพิ่มกี่ช่อง การเพิ่มรายได้ต่างจากการนับแต้มชัยชนะ โดยจะทำทันที ให้ผู้เล่นเลื่อนเบี้ยวงกลมที่ใช้นับอัตรารายได้ ขึ้นไปตามจำนวนช่องการเพิ่มอัตรารายได้ที่ได้รับมา มีข้อแม้คือ ผู้เล่นจะไม่สามารถมีอัตรารายได้เกิน 30 (ช่องที่ 99 ในกระดาน)

การเซ็ตอัพเกมจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือการเซ็ตกระดานหลัก และการเซ็ตกระดานผู้เล่น โดยจะทำตามขั้นตอนต่อไปนี้