บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ไทย 3 เรื่อง ฐาน ThaiLIS
Title การพัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Description
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นาเชิงนวัตกรรมของ ผู้บริหารสถานศึกษา 2) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ภาวะผู้นา เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และ 3) สร้างคู่มือ การใช้ตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา การวิจัยเป็นแบบผสานวธิ ี (Mixed Methods)
Publisher
มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
Title
การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4
Title Alternative
A study of innovative leadership of school administrators in the office primary educational service area, ubonratchathanee 4
Description
Abstract: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์วิจัยเพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 และการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 20 ข้อที่ได้พัฒนาและตรวจสอบคุณภาพมาแล้วไปเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการ หัวหน้างาน และอาจารย์ของโรงเรียน จำนวน 198 คนมาวิเคราะห์ผลด้วยสถิติวิเคราะห์ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย t-test F-test แล้วพบว่า ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งภาพรวมและองค์ประกอบรายด้าน รวมถึงพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตามวุฒิการศึกษา ด้านตำแหน่งงานปัจจุบัน และเงินเดือนที่ได้รับในปัจจุบัน ซึ่งด้วยข้อค้นพบนี้ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และอาจารย์สามารถนำไปใช้ในการกำหนดเป็นหัวข้อด้านการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของตนเองที่เน้นด้านการนำสู่การเรียนรู้ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อความต้องการเป็นรายบุคคล
Abstract: The purpose of this research is to study the innovative leadership of school administrators in the office primary educational service area, Ubonratchathanee 4 and the comparison of the mean differences classified by personal factors by using 20 questionnaires whish have been developed and quality checked to collect data from the director, deputy supervisors and teachers of the college of 198 respondents. The statistical analysis are mean frequency, percentage, standard deviation and testing the difference of the mean by t-test, F-test. The results show that the innovative leadership of school administrators in the office primary educational service Area, Ubonratchathanee 4, has a high level of mean in both overall and each components including found that there are statistically significant differences at the .05 level. Classified by Educational background, Job position and monthly income with these findings, directors, deputy supervisors, supervisors and teachers can be used to formulate topics of developing their own Innovative Leadership that focus on leading to learn especially focusing on the needs individually.
การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4
Title Alternative
A study of innovative leadership of school administrators in the office primary educational service area, ubonratchathanee 4
Description
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์วิจัยเพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 และการเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 20 ข้อที่ได้พัฒนาและตรวจสอบคุณภาพมาแล้วไปเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการ หัวหน้างาน และอาจารย์ของโรงเรียน จำนวน 198 คนมาวิเคราะห์ผลด้วยสถิติวิเคราะห์ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย t-test F-test แล้วพบว่า ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากทั้งภาพรวมและองค์ประกอบรายด้าน รวมถึงพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จำแนกตามวุฒิการศึกษา ด้านตำแหน่งงานปัจจุบัน และเงินเดือนที่ได้รับในปัจจุบัน ซึ่งด้วยข้อค้นพบนี้ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ และอาจารย์สามารถนำไปใช้ในการกำหนดเป็นหัวข้อด้านการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของตนเองที่เน้นด้านการนำสู่การเรียนรู้ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญต่อความต้องการเป็นรายบุคคล
ปาริฉัตร พรสุวรรณ . (2563). การศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 4. มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น
บทคัดย่อวารสารไทย 3 เรื่อง ฐาน ThaiJO
แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม 3) พัฒนาแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม และ 4) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม พื้นที่วิจัย คือ โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 252 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละและวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีจำนวน 3 ฉบับ คือ (1) แบบสอบถาม (2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (3) แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับมากและมากที่สุด ตามลำดับ 2) ความต้องการจำเป็นมีค่าสูงกว่าค่าโดยรวม ได้แก่ การมีวิสัยทัศน์ การมีความคิดสร้างสรรค์ ด้านการมีบุคลิกภาพแบบผู้นำเชิงนวัตกรรม 3) แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม ประกอบด้วย (1) ด้านการมีวิสัยทัศน์ (2) ด้านการเปิดรับความเสี่ยง (3) ด้านการทำงานเป็นทีมและการมีส่วนร่วม (4) ด้านการมีความคิดสร้างสรรค์ (5) ด้านการสร้างบรรยากาศองค์กรแห่งนวัตกรรม (6) ด้านการมีบุคลิกภาพแบบผู้นำเชิงนวัตกรรม รวมทั้งสิ้น 31 แนวทาง 4) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม พบว่า ทั้งความเหมาะสมและความเป็นไปได้ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ธีระวุฒิ จันทะพันธ์, สุมาลี ศรีพุทธรินทร์และจารุวรรณ เชียวน้ำชุม (2567). แนวทางพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 7(2) 2567, 1032.
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ และ 3) สร้างคู่มือการใช้ตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา ในการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods) โดยดำเนินการเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การสร้างและพัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา ระยะที่ 2 การตรวจสอบสมมติฐานการวิจัยกับข้อมูลเชิงประจักษ์ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 721 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติและโปรแกรมลิสเรล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น แบบสอบถาม เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ระหว่าง 0.55 – 1.00 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ โดยวิธีสัมประสิทธิ์แอลฟาของ Cronbach เท่ากับ 0.82 ระยะที่ 3 การสร้างคู่มือการใช้ตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา โดยให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ประเมินคุณภาพโดยใช้แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามแบบของลิเคอร์ท (Likert scale)
การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ ตามทัศนะของครู ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 2) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 วิธีดำเนินการศึกษามี 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 โดยใช้แบบสอบถามกับครูผู้สอน จำนวน 68 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ 2) การจัดทำข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด จำนวน 5 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า
1) ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐมีระดับภาวะผู้นำโดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับดังนี้ การมีวิสัยทัศน์สู่การเปลี่ยนแปลง การสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากร การมีส่วนร่วมในการทำงานและทำงานเป็นทีม การมีคุณธรรมจริยธรรม การสร้างบรรยากาศแห่งการส่งเสริมองค์กรนวัตกรรมและการคิดสร้างสรรค์ ตามลำดับ
2) ข้อเสนอแนะในการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนประชารัฐ เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 ซึ่งพบว่า 1) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรจัดให้มีการอบรมเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม 2) ผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาตนเองเพื่อให้เป็นบุคคลที่เรียนรู้อันจะนำไปสู่การพัฒนาความคิดริเริมสร้างสรรค์และการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา 3) ผู้บริหารสถานศึกษาควรส่งเสริมและให้การสนับสนุนครูและบุคลากรในโรงเรียนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ และเปิดโอกาสให้ครูได้สร้างสรรค์ผลงานของตนเองเพื่อนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ รวมทั้งให้ครูมีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินงานของสถานศึกษา 4) ผู้บริหารสถานศึกษาควรอำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือและให้คำแนะนำที่ดีแก่ครูที่ประสบปัญหาในการทำงาน รวมทั้งให้การยกย่องหรือชมเชยแก่ครูที่ทำงานประสบความสำเร็จเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน 5) ผู้บริหารสถานศึกษาต้องมีความโปร่งใส่และสามารถตรวจสอบได้
บทคัดย่องานวิจัยการศึกษาไทย 3 เรื่อง ฐาน ThaiEd Research
ค้นไม่เจอครับ
บทคัดย่องานวิจัยต่างประเทศ 3 เรื่อง ฐาน ERIC
The Relationship between Inclusive Leadership and Innovative Work Behavior: The Mediating Role of Inclusive Climate and Emotional Commitment
Çaglar Çelik; Soner Polat; Emre Esen
Research in Educational Administration & Leadership, v9 n3 p414-473 2024
This study explores how inclusive leadership shapes innovative work behavior, focusing on the intermediary effects of emotional commitment and an inclusive climate in Turkish public schools. Drawing on data from 364 teachers in Kocaeli, the research utilized a range of scales to assess aspects like inclusive leadership, emotional commitment, inclusive climate, and innovative work behavior. The analysis was conducted using descriptive statistics and Partial Least Squares Structural Equation Modeling (PLS-SEM). Results show a positive impact of inclusive leadership on innovative work behavior. However, the impact is mediated through the presence of an inclusive climate and high levels of emotional commitment. The findings suggest that while inclusive leadership is necessary for fostering innovation, it is the combination of an emotionally supportive and inclusively diverse environment that truly enhances innovative behaviors among teachers. This comprehensive approach not only supports the innovative capacity of individuals but also contributes to a more dynamic and creative educational atmosphere. This study highlights the importance of adopting a holistic leadership strategy in educational institutions. It underscores the need for school administrators to not only practice inclusive leadership but also actively cultivate an environment that values diversity and fosters emotional commitment. By doing so, schools can become fertile grounds for innovation, benefiting educators and students alike. The research provides valuable insights into the mechanisms through which leadership can influence organizational behavior and offers a framework for fostering innovation in educational settings.
Leadership's Role in Facilitating Faculty Professional Development for Technology Integration
Ademola Olatide Olaniyan; Afam Uzorka
International Journal of Technology in Education and Science, v8 n3 p470-480 2024
This study explores the function of leadership in supporting faculty professional development for technology integration in educational institutions. Key themes about the role of leadership in fostering successful technology integration were identified through qualitative analysis of semi-structured interviews with 125 participants, including administrators and instructors from 10 educational institutions in Uganda. Establishing the vision and strategic direction, allocating resources and building infrastructure, professional development programs initiative and support mechanisms, recognizing and rewarding technology integration, fostering an innovative and collaborative culture, assessment, and ongoing improvement are some of these themes. The results draw attention to the various roles that leadership plays in fostering an atmosphere that supports technology-enhanced teaching and learning. In addition to providing useful advice for practitioners, policymakers, and educational leaders looking to foster innovation and quality in learning environments, this study advances our understanding of leadership in educational technology.
Leadership's Role in Facilitating Faculty Professional Development for Technology Integration
This study explores the function of leadership in supporting faculty professional development for technology integration in educational institutions. Key themes about the role of leadership in fostering successful technology integration were identified through qualitative analysis of semi-structured interviews with 125 participants, including administrators and instructors from 10 educational institutions in Uganda. Establishing the vision and strategic direction, allocating resources and building infrastructure, professional development programs initiative and support mechanisms, recognizing and rewarding technology integration, fostering an innovative and collaborative culture, assessment, and ongoing improvement are some of these themes. The results draw attention to the various roles that leadership plays in fostering an atmosphere that supports technology-enhanced teaching and learning. In addition to providing useful advice for practitioners, policymakers, and educational leaders looking to foster innovation and quality in learning environments, this study advances our understanding of leadership in educational technology.
A. (2024). Leadership's role in facilitating faculty professional development for technology integration. International Journal of Technology in Education and Science (IJTES), 8(3), 470-480.