ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ชื่อนายอาทิตย์ หนูกล้วย อายุ ๕๕ ปีระดับการศึกษา ปริญญาตรี ปราชญ์ชาวบ้าน ด้าน เกษตรกรรม
ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ ๖๗ หมู่ที่ ๔ บ้านโนนศิลา ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
โทรศัพท์มือถือ ๐๖๓-๗๓๖๐๒๐๔ อาชีพ เกษตรกร ตำแหน่งหน้าที่ในเกษตรอำเภอ เกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล
สถานที่ทำงานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
โทรศัพท์มือถือ ๐๙๘-๐๘๐๑๕๑๕
ปัจจุบันกำลังศึกษา การเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย
หลักสูตรการพัฒนาการเกษตร ชื่อสถานศึกษา สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
สำเร็จการศึกษา จาก กศน. หลักสูตร การทำเกษตรธรรมชาติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
( MOA ) เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยมูลนิธิเอ็ม โอเอ ไทย เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑
ชื่อสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองบึงกาฬจังหวัดบึงกาฬ
นายอาทิตย์ หนูกล้วย เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถด้านการทำเกษตรธรรมชาติ ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการและแนวทางของเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยมีการแบ่งพื้นที่สำหรับการจัดการน้ำ การปลูกข้าวนาโยน การปลูกพืชผักผสมผสาน ไม้ผล ไม้ยืนต้นพืชสมุนไพร การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงหมู ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างดี มีการสืบสานและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ โดยการรวมกลุ่มต่างๆ อาทิกลุ่มเลี้ยงสัตว์ เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ เข้ารับการอบรมเกษตรธรรมชาติ ต่อยอดโดยการผลิตปุ๋ยจากผักตบชวา มูลวัว มูลหมู ทำการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ และน้ำหมักชีวภาพทำจำเศษอาหารที่เหลือทิ้งจากครัวเรือน ผลผลิตทางการเกษตรได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของ TOAF PGS Organic Thailand (ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วมโดยชุมชน) นอกจากนั้นได้นำเทคโนโลยีพื้นบ้านมาพัฒนาองค์ความรู้โดยการทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ใช้เองในครัวเรือน นำเทคโนโลยีการสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์ ใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนจากโซล่าเซลล์ ใช้เครื่องอัดฟางข้าวมาเป็นอาหารวัว พัฒนาการทำนาดำ ให้เป็นนาโยน ลดต้นทุนการผลิต วัสดุธรรมในพื้นที่ทุกอยากมีประโยชน์ มีรายได้ จนได้ชื่อว่า “เกษตรทฤษฎีใหม่ นาทองคำ” เป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ กศน.ตำบลไคสี เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาการทำเกษตรทฤษฎีใหม่
นายอาทิตย์ หนูกล้วย สามารถเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น โดยดำเนินกิจกรรมทางการเกษตรบนพื้นที่ ๓๐ ไร่ ประกอบด้วย การปลูกข้าวนาโยน การปลูกพืชผักผสมผสาน ไม้ผล ไม้ยืนต้นพืชสมุนไพร ในรูปแบบของการทำเกษตรธรรมชาติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการไม่ใส่สารเคมีใดๆทั้งสิ้นลงในดิน ทำให้ดินสะอาดร่วนซุยไม่มีสารตกค้างในดิน โดยการตรวจดินจากมูลนิธิเอ็มโอเอไทย จังหวัดลพบุรี และผ่านการรับรองแปลงที่ได้มาตรฐาน (MOA) พืชผักในเนื้อที่ ๓๐ ไร่ ไร้สารเคมี และการทำเกษตรธรรมชาติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงหมู ทำการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ ผลผลิตทางการเกษตรได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของ TOAF PGS Organic Thailand (ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วมโดยชุมชน) นอกจากนี้ยังมีการวางแผนและจัดการผลผลิตน้ำ การสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ได้รับเกียรติบัตรปราชญ์ชาวบ้านและภูมิปัญญาชาวบ้านดีเด่น ระดับจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีจิตอาสา เสียสละ และดำรงเอกลักษณ์ความเป็นเกษตรที่ดีสืบไป