Q&A
Aromantin (อโรแมนทิน) คืออะไร
Aromantin คือเมือกหอยทากจากส่วนแมนเทิล (ไม่ผสมเมือกจากเท้า) จากเมือกหอยทาก 10 สายพันธุ์ ผ่านการกรอง ให้มีความหนืดต่ำ และปราศจากจุลชีพ
Aromantin ได้ยื่นจดสิทธิบัตร ภายใต้สถาบันทรัพย์สินทางปัญญาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คุณสมบัติที่เดนที่สุดของเซรั่มคืออะไร
ลดเลือนริ้วรอย ย้อนวัย ลดการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย สามารถยับยั้งการทำงานของ emzyme tyrosinase ซึ่งเป็น Enzyme กระตุ้นให้เกิดเม็ดสี ทำให้หน้าขาวใสขึ้น
เมือกหอยทากจากแมนเทิลมีคุณสมบัติอย่างไร
เมือกหอยทากจากแมนเทิลมีส่วนประกอบของ โปรตีน เปปไทด์ และสารชีวโมเลกุลที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก มีลักษณะเหลว ใส จึงซึมผ่านผิวหนังได้รวดเร็วและล้ำลึก เมือกส่วนนี้อุดมด้วยสารอัลแลนโทอิน (Allantoin) ไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic) กรดไกลโคลิก (Glycolic acid) โปรตีน (Protein) และเปปไทด์ (Peptides) โดยมีสัดส่วนที่ถูกปรุงแต่งโดยธรรมชาติ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผิวพรรณและรักษาริ้วรอย ต้านเชื้อราและแบคทีเรียได้ดี
คุณภาพเมื่อเทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์ ?
การผลิตพัฒนาภัณฑ์ Aromantin เป็นการวิจัยและพัฒนา ให้มีคุณภาพดีกว่าหรือเทียบเท่าเครื่องสำอางเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ หรือเครื่องสำอางที่มีจำหน่ายโดยทั่วไป เมื่อใช้ จะเห็นว่าเนื้อเซรั่ม สามารถให้ความชุ่มชื้น เมื่อใช้ไปแล้วจะเห็นถึงประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจน
ส่วนผสมที่ผ่านการทดสอบ และการวิจัย จากห้องปฎิบัติการคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่าสิ่งที่เป็นส่วนผสมนั้นมันอยู่ในความเข้มข้นที่เกิดประสิทธิภาพจริง และได้ใช้ผลวิจัย มาปรับสัดส่วนของสารต่างๆที่อยู่ในเซรั่มของเราเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจริง
เมือกหอยทาก ที่นำมาผลิต ผลิตภัณฑ์ Aromantin แตกต่างจากเมือกหอยทากที่ผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยี่ห้ออื่นอย่างไร
ผลิตภัณฑ์ Aromantin ทำมาจากเมือกจากแมนเทิล มีสารช่วยดูแลผิวในปริมาณสูง ส่วนเมือกหอยทากที่ผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยี่ห้ออื่นมีส่วนผสมจากเมือกหอยทากที่หลั่งจากแมนเทิลและเมือกที่หลั่งจากเท้า ซึ่งเมือกจากเท้ามีสัดส่วนสารที่ช่วยดูแลผิวปริมาณที่ต่ำ โมเลกุลมีขนาดใหญ่ ทําหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นในระหว่างการเคลื่อนที่ ลักษณะเหนียวหนืด ซึมผ่านผิวหนังได้น้อยหรืออาจจะอุดตันรูขุมขน และผสมในผลิตภัณฑ์ในสัดส่วนที่น้อยมาก
นอกจากนี้ Aromantin ยังผลิตจากเมือกหอยทากเขตร้อน ซึ่งเมือกหอยทากเขตร้อนจะมีคุณสมบัติดีกว่าเมือกหอยทากเขตหนาวเนื่องจากหอยทากต้องเจอสภาวะแวดล้อมที่ไม่ดี มีจุลชีพ และ UV ที่รุนแรง จึงต้องสร้างเมือกเพื่อดูแลรักษาผิวเพื่อดำรงชีวิตอยู่ได้
ผลิตภัณฑ์ BioSerum Aromantin แบรนด์ Signecher มีสารประกอบหลักอะไรบ้าง มีคุณสมบัติอย่างไร
สารประกอบหลักที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย
ไฮยารูลอนิคแอซิด ซึ่งพบอยู่ในเครื่องสำอางเกือบทุกประเภท แต่ใน AROMANTIN เป็นไฮยารูลอนิคแอซิดจากธรรมชาติ จะมีขนาดโมเลกุลตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ โมเลกุลเล็กจะซึมลึกเข้าไปฟื้นฟูสภาพผิว ส่วนโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่บำรุงอยู่ด้านบนเพื่อล็อกความชุ่มชื้น การใช้โมเลกุลหลายๆขนาดเป็นสิ่งสำคัญที่จะดูแลผิว ไม่ไช่เฉพาะไฮยารูลอนิคแอซิดที่มีขนาดเล็กเท่านั้น ขนาดใหญ่ขนาดกลางก็มีคุณสมบัติที่ดีเด่นในการช่วยให้ความชุ่มชื้นและดูแลผิวเช่นกัน เป็นสูตรของธรรมชาติ ธรรมชาติได้กำหนดสูตรโมเลกุลขนาดต่างๆเข้ามาอยู่ในเมือกหอยทาก โดยธรรมชาติได้คัดสรรมาอย่างดี
อัลสันโทอิน จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลใหม่ โดยสารตัวนี้ทำให้หอยทากที่มีบาดแผลสามารถซ่อมแซมบาดแผล และเปลือกที่แตกได้
ไกลโคลิค เป็นกรดอ่อนๆจะซ่วยผลัดเซลผิว ของหอยทาก จึงเป็นสารที่ช่วยผลัดเซลผิวของคน ซึ่งการผลัดเซลผิวนั้น จะทำให้มีการสร้างเซลใหม่ออกมา
เปปไทด์ โปรตีนสายสั้นๆ ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ยังไม่สามารถระบุได้ว่าในเมือกหอยทากมีกี่ชนิด แต่น่าจะมีเป็นร้อยตัว ขึ้นอยู่กับชนิดของเมือกหอยทาก
มิวโคพอลิแซคคาไรด์ เป็น พอลิแซคคาไรด์ ที่สำคัญ เป็นตัวให้ความชุ่มชื้น ซึ่งถ้าโมเลกุล มิวโคพอลิแซคคาไรด์ ใหญ่มากจะมีปัญหาไม่ซึมเข้าผิว แต่มิวโคพอลิแซคคาไรด์ ที่อยู่ในเมือกหอยทากที่มาจาก Mantle จะมีโมเลกุลเล็กสามารถซึมเข้าผิวได้ และไม่ทำให้เกิดการอุดตัน
สารต้านอนุมูลอิสระจากดอกไม้ (Rosa Damascena Flower Water)เนื่องจากเมือกหอยทากมีสารต้านอนุมูนอิสระ ในปริมาณไม่มาก มีอยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่อาจยังไม่เพียงพอ AROMANTIN ได้เพิ่มสารที่เป็นสารต้านอนุมูนอิสระจากดอกไม้ ซึ่งในดอกไม้มีสารพวก flavonoid มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก จะช่วยเสริมฤทธิ์เมือกหอยทากมากขึ้น
ขั้นตอนการเลี้ยงหอยทาง และขบวนการเก็บเมือกหอยทาก ทำอันตรายกับหอยหรือไม่
การเลี้ยงหอยทาก จะให้หอยทางอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ จนถึงอายุที่จะเก็บเมือกได้ การเก็บเมือกจะไม่มีการทำอันตรายใดๆกับหอยทาก สกัดด้วยวิธีการที่นุ่มนวล(Cruelty-free) ปริมาณที่เหมาะสม ให้ได้เฉพาะเมือกจาก "แมนเทิล" เป็นไปตามมาตรฐานที่ได้จดสิทธิบัตรไว้ จะสกัดเมือกจนถึงอายุหอยทากที่เหมาะสม จึงปล่อยให้อยู่และตายตามธรรมชาติ
(Cruelty-free means just that. A product that was created from top-to-bottom, without harming or killing an animal. This harm is the barbaric practice of testing ingredients or finished products on live animals, to ensure the safety of a product.)
ใช้ผลิตภัณฑ์ Aromantin นานเท่าไหร่ จึงจะเห็นผล
ระยะเวลาแต่ละปัญหาขึ้นอยู่กับสภาพผิว จะอยู่ในช่วงประมาณ 2 ถึง 4 สัปดาห์ บางคนเห็นผลช้าบางคนเห็นผลเร็วมาก ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคน
Aromantin ช่วยลดเลือนริ้วรอย ได้อย่างไร
การลดเลือนริ้วรอยเป็นคุณสมบัติเด่นของโฮยารูลอนิคแอซิดที่มีอยู่ในเมือกหอย Aromantin ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าโฮยารูลอนิคแอซิดในเมือกหอยทากในท้องตลาดทั่วไป หรือ โฮยารูลอนิคแอซิดสังเคราะห์ Aromantin จะให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้า เมื่อหน้าชุ่มชื้นริ้วรอยก็จะจางลง ริ้วรอยในที่นี้จะเรียกว่า fine lines เป็นริ้วรอยตื้นๆ ส่วนริ้วรอยลึกๆต้องให้สารลงไปในชั้นผิวที่ลึกขึ้นเพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โฮยารูลอนิคแอซิดที่อยู่ในAromantin มันจะทำงานร่วมกับคอลลาเจนทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวกระชับมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมือกหอยทาก
มีการทดลองกับการแพ้ มีผลลัพท์อย่างไร?
ในส่วนเฉพาะเมือกหอยทากสารสกัด Aromantin มีการทำวิจัยกับคุณหมอผิวหนังที่โรงพยาบาลจุฬา ผ่านการทดสอบว่าไม่แพ้ สารสกัด Aromantin ทำให้คนเกิดการแพ้ ไม่เกิน 2% การแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับเครื่องสำอางแต่คนส่วนใหญ่ต้องไม่แพ้
ดังนั้นนั้นคนที่ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ แต่ก็ควรระวัง แนะนำว่าต้องดูส่วนผสมก่อนว่ามีส่วนผสมที่ทำให้ผู้ใช้แพ้หรือไม่
การแพ้อื่นๆบนผิวจะมีเรื่องของการอักเสบมาเกี่ยวข้อง จะเห็นว่าเมือกหอยทาก แม้กระทั่งตัวสารสกัดจากดอกไม้ที่เป็นส่วนผสม มีคุณสมบัติในการต้านอักเสบ เมื่อมีอาการแพ้สามารถเอามาใช้ร่วมกับยาหรือครีมที่หมอสั่งได้ ไม่ได้เป็นรักษาโดยตรง
ถ้าเป็นฝ้ากระจุดด่างดำริ้วรอยสิว แต่ละปัญหาจะใช้ระยะเวลายาวนานเท่าไหร่ ต้องใช้ต่อเนื่องนานเท่าไหร่จึงเริมเห็นผล?
ระยะเวลาแต่ละปัญหาขึ้นอยู่กับสภาพผิว แต่ผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยที่มีการพัฒนามาหลายตัวแล้วโดยเฉพาะเซรั่มที่มีสารสกัดเข้มข้น จะอยู่ในช่วงประมาณ 2 ถึง 4 สัปดาห์ บางคนเห็นผลช้าบางคนเห็นผลเร็วมาก
เรื่องสิวจะเห็นได้เร็ว เพราะตัว AROMANTIN ช่วยต้านอักเสบ ฆ่าแบคทีเรีย ดังนั้นสิวถ้าอักเสบ จะเห็นผลเร็ว ทำให้สิวไม่กระจาย หรือเกิดขึ้นมากต่อไป
ส่วนฝ้ากระ AROMANTIN จากเมือกหอยทากโดยเฉพาะในส่วนของ mantle สามารถยับยั้งการทำงานของ emzyme tyrosinase ซึ่งเป็น Enzyme กระตุ้นให้เกิดเม็ดสี ทำให้ไม่สามารถไปกระตุ้นให้เกิดฝ้ากระได้ ฝ้ากระจึงค่อยๆดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ คนที่รักษาฝ้ากระต้องใช้อย่างต่อเนื่อง อย่าน้อย 1 เดือนขึ้นไป และทาอย่างสม่ำเสมอ ดูแลผิวไม่ให้โดนกระตุ้นจากแสงรังสี uv รวมถึงใช้ครีมกันแดดร่วมด้วย เพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมาอีก ดังนั้นฝ้ากระ AROMANTIN สามารถช่วยได้ ให้จางลงได้ ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวพรรณด้วย เพราะฝ้ากระสามารถกลับมาได้ง่ายมาก ในขณะที่มันจางใช้เวลายาวนานมาก
สิวอุดตันรักษาได้ไหม?
สิวอุดตัน เมือกหอยทากก็ช่วยได้ จากการที่กรดไกลโคลิคเป็นกรดอ่อนมันผลัดผิวอย่างช้าๆ ผลลัพท์จะค่อยเป็นค่อยไป ผิวแต่ละคนมีการตอบสนองต่อสารสกัดแตกต่างกัน ผิวบางคนใช้แล้วดีมาก บางคนอาจค่อยๆดีขึ้นดีขึ้น ถ้าต้องการความรวดเร็วสิวอุดตันต้องมี BHA หรือ Salicylic Acid ร่วมด้วยเพื่อเร่งการผลัดเซลผิวทำให้หัวสิวถูกดันออกมา แต่สารพวกนี้อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้น AROMANTIN ซึ่งเน้นความเป็นธรรมชาติจึงไม่มีการใส่สารพวกนี้ลงไป
จึงมันใจได้ว่า BioSerum Aromantin ตัวนี้จะเห็นผลโดยเฉลี่ยใน 2 สัปดาห์
กรณีรอยแดงจากสิวเป็นกรณีเดียวกับฝ้ากระไหม?
BioSerum Aromantin ช่วยได้ในระดับหนึ่ง ตัวนี้เน้น Anti-aging ซึ่ง มันให้ความชุ่มชื้น ลบเลือนริ้วรอย ลดการอักเสบ ลดแบคทีเรียที่เกิดสิว ไม่ไช่ตัวแต้มสิวโดยตรง ลบรอยโดยตรง ควรแนะนำให้ใช้ร่วมกับครีมเฉพาะเหล่านั้น
เป็นหลุมสิว Aromantin ช่วยได้ไหม?
Aromantin ประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างเซลใหม่มีการทำวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเซลในจานเลี้ยง เป็น cell culture ที่เพาะเลี้ยงเป็นเซลผิวหนังของคนแต่เอาไปเลี้ยงในจานทดลอง พบว่ามันสามารถกระตุ้นการสร้างเซลใหม่ได้ดีมาก
การทาBioSerum Aromantin จะช่วยสร้างเซลผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เพราะฉะนั้นในเรื่องของหลุมสิว เซรั่มตัวนี้ก็ช่วยได้แต่ต้องให้ใช้ต่อเนื่อง
วิธีการใช้ที่ถูกต้องเป็นอย่างไร?
การที่ใช้เซรั่มที่ถูกต้อง ต้องทำหน้าเราให้สะอาด อย่าให้ปลายหลอดเซรั่มถูกผิวหนังจะติดเชื้อในขวดผลิตภัณฑ์ได้ ลูบไล้ให้ทั่ว ปล่อยให้ซึม serum ต้องการเวลาในการซึม ต้องมีการนวดเพื่อให้มันเข้าไป ไม่ไช่เฉพาะ BioSerum Aromantin เซรั่มทุกตัวที่ใช้เราต้องทำการนวดให้มันซึมก่อนที่จะทาผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป อย่าทาผลิตภัณฑ์ตัวถัดไปทับลงไปทันที ให้ทาทีละตัว พอซึมได้ดีแล้วจึงทาตัวถัดไป
ถ้าใช้เซรั่มหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหลายตัว ต้องดูความข้นของตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ทาตัวที่ใสก่อน ตัวที่เข้มข้นมากกว่า
ถ้าใช้ BioSerum Aromantin นี้แล้วทากันแดดออกจากบ้านเลยได้ไหม?
ถ้าให้ดีควรใช้ครีม moisturizer อีกตัวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น แล้วทากันแดด
เราสามารถพูดได้เต็มปากไหมว่าผลิตภัณฑ์เมือกหอยทากของเราดีที่สุดในโลก?
ไม่ได้ทดสอบกับเมือหอยทากทั้งโลก ดังนั้นอาจยืนยันไม่ได้เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ได้มีการซื้อผลิตภัณฑ์เมือกหอยทากที่มีขายกันอยู่เพื่อทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพ AROMANTIN ซึ่งเป็นเมือกหอยทากจากเขตร้อนที่แรก ที่อื่นจะใช้เมือกหอยทากเขตหนาว ซึ่งเมือกหอยทางเขตร้อนจะดีกว่าเขตหนาว เมื่อดูจากคุณสมบัติของเมือกหอยทากที่อยู่ในเขตร้อนเทียบกับเมือกหอยทากเขตหนาว
ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยากให้การค้าขายและผลิตภัณฑ์ AROMANTIN มีฐานจากวิชาการ ไม่อยากให้มาจากการสื่อสารที่เกินจริง แต่มันเป็นผลลัพท์ที่เห็นจับต้องได้
ถ้าจะอ้างว่าเราเจ้าเดียวที่ทำคนอื่นไม่ทำ ได้คือ
1. เป็นเจ้าเดียวที่เลือกเอาเมือกที่โมเลกุลเล็กจาก mantle เจ้าอื่นเอาเมือกที่หลั่งจากทุกอวัยวะของหอยทากมาผสมกันหมด อันนี้เจ้าเดียวในโลกพูดได้เลย
2. เมือกของเรามีส่วนผสมมากกว่าผลิตภัณฑ์จากเมือกหอยทากยี่ห้ออื่น 30 เท่า ตรงนี้เทียบได้ มีการนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในท้องตลาดมาเทียบเทียบจริง
ทำไมต้องผลิตที่เกาหลี?
ส่วนประกอบต่างๆนอกเหนือจาก AROMANTIN ตัวเซรั่มเบส ครีมเบส เกาหลี ดีกว่า ผลิตภัณฑ์ต้องการให้ลูกค้ามั่นใจว่าเครื่องสำอางมีมาตรฐานสูงจึงต้องผลิตที่เกาหลี
อายุของผลิตภัณฑ์ที่ใช้อย่างมีประสิทธิภาพนานแค่ไหน?
ถ้าผลิตจากเกากลีสามารถอ้างได้ถึง 3 ปี เพราะควบคุมการผลิตได้ดี ส่วนในเมืองไทยยอมให้อ้างได้ 2 ปี อย่างน้อยเครื่องสำอางทั่วไปจะต้องมีประสิทธิภาพอยู่ได้ถึง 2 ปีส่วนเฉพาะเมือกหอยทากอยู่ได้ ถึง 3 ปีขึ้นไป จากการที่ห้องวิจัยเก็บและทำการวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา
BioSerum Aromantin เหมาะกับคนวัยไหนบ้าง?
ผิวเราถูกดูแลอย่างดีตั้งแต่ตอนที่เรามีอายุน้อยๆ ผิวเด็กเป็นผิวที่ดี สารต่างต่างพวก คอลลาเจน อีลาสติน มันสร้างเต็มที่ทำให้ผิวดี พออายุมากขึ้นร่างกายเราจะสร้างสารพวกนี้น้อยลง ผิวก็เหี่ยวย่นแล้วก็ขาด อันนี้ก็เป็นไปตามอายุแตกต่างกันเห็นได้ชัด จะใช้เมื่อไหร่จะดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวเหมือนกัน บางคนผิวแห้งตั้งแต่อายุไม่เยอะมาก ต้องใช้แต่เนิ่นๆ คนที่รู้สึกว่าตัวเองผิวโทรมก็ต้องใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ
ดังนั้น BioSerum Aromantin สามารถใช้ได้ตั้งแต่ เด็กอายุ 14-15 ปี ซึ่งมีปัญหาสิว รวมถึงเพื่อช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีมากขึ้นสำหรับ คนทุกเพศทุกวัย ทุกสภาพผิว
สิ่งที่อยากให้สือสารกับลูกค้าคืออะไร?
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงสถาบันจุฬา สิ่งที่อยากให้ลูกค้ารับรู้คือ AROMANTIN มีหลักฐานเชิงประจักษ์ มีความเป็นวิชาการ และเมื่อมีข้อสงสัยสามารถคำถามเข้ามาที่คณะผู้วิจัยได้AROMANTIN เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ใส่สารเคมีที่เป็นอันตรายเพราะฉะนั้นมันจะค่อยๆดีขึ้น ไม่เห็นผลภายในหนึ่งคืน ซึ่งเป็นไปไม่ได้สำหรับสารสกัดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในเรื่องของริ้วรอย สิว ฝ้า กระ
ลูกค้าที่ใช้แล้วจะมั่นใจในคุณภาพ ชื่อจุฬาก็จะเป็นชื่อที่อ้างได้อย่างมั่นใจ ว่าเราผลิตสิ่งที่มีคุณภาพ ไม่ได้เกินความจริง
ทำไมต้องเมือกหอยทาก มีพืชหรือสัตว์ชนิดอื่นที่ใช้ได้ผลดีเทียบเท่าหรือไม่
ในท้องตลาดจะเห็นว่าส่วนประกอบของเครื่องสำอางมาจากพืชหรือสัตว์ที่เป็นสารสกัดที่เอามาใช้บำรุงผิวได้ เมือกหอยทากมีการพิสูจน์แล้วว่าเมื่อหอยทากประกอบด้วยส่วนประกอบที่ดีต่อผิวมากมาย เมือกหอยทากช่วยดูแลผิวหอยทากหอยทาก ทำให้มันให้มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยล้านปีโดยที่ไม่สูญพันธุ์ โดยใช้เมือกเป็นสารบำรุงผิวและปกคลุมร่างกายจากสิ่งแวดล้อม จาก ศัตรูแบคทีเรีย ไวรัส แสงแดด รวมถึงแสงแสงUV นั่นหมายความว่าเมือกหอยทากช่วยดูแลหอย ให้อยู่ดำรงอยู่ได้หลายร้อยล้านปี เพราะฉะนั้นเมือกหอยทากเป็นหนึ่งในส่วนผสม ช่วยดูแลผิวพรรณที่มาจากธรรมชาติจริง
เมื่อพูดถึง ไฮยารูลอนิคแอซิดส่วนใหญ่ ที่เป็นส่วนผสมจะเป็นไฮยารูลอนิคแอซิดที่สังเคราะห์ขึ้น จะมีขนาดของโมเลกุลใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาทางเคมี แต่ว่าเมือกหอยทากจะมีไฮยาลูโรนิคแอซิดที่ที่มีหลายขนาดของโมเลกุลที่จะช่วยดูแลผิวพรรณ แต่ละขนาดก็มีความสามารถในการบำรุงผิวที่แตกต่างกัน เป็นขนาดที่ธรรมชาติคัดสรรแล้ว ว่าช่วยดูแลผิวพรรณได้เป็นอย่างดี เรายืนยันว่าเมือกหอยทากเป็นแหล่งที่มาจากธรรมชาติที่ดีที่สุด ที่ช่วยดูแลผิวของหอยทากซึ่งมีลักษณะคล้ายผิวของมนุษย์ เพราะฉะนั้นผิวของเราก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเมือกหอยทาก
ส่วนประกอบเครื่องสำอางที่มาจากพืช เช่นสารสกัดจากสาหร่ายทะเลลึก ดาวทะเล จะมีสารบำรุงผิวอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเมือกหอยทาก เป็นสารบำรุงผิวที่ที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะว่าหอยทาก อยู่ในธรรมชาติต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่ที่รุนแรง แต่เขาก็ยังสามารถมีผิวพรรณงดงามแล้วทนต่อสภาพแวดล้อมได้ แสดงว่าเขามีเมือกที่มีประสิทธิภาพสูง
การใช้เครื่องสำอางที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม เป็นระยะเวลานานๆ จะส่งผลเสียต่อผิวหนังของเราอย่างไรบ้าง
สารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอาง ถ้าเป็นเครื่องสำอางที่มีคุณภาพจะต้องใช้ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ถ้าเราใช้มากๆ ก็อาจจะสะสมในผิว ในเครื่องสำอางที่เป็นสารเคมีเป็นส่วนประกอบหลัก การสะสมของสารเคมีก็อาจจะไม่ดีต่อผิว เพราะฉะนั้นเวลาที่เราใช้เครื่องสำอาง จะต้องทำความสะอาดผิวหน้าให้ดี ให้สะอาด เอาเครื่องสำอางออกให้หมดถึงจะเริ่มลงสกินแคร์ เพื่อที่จะได้เอาสิ่งที่มันสะสมหรือสารเคมีที่สะสมออกไปจากผิวหน้าของเราก่อนที่จะใช้สกินแคร์ ส่วนการบำรุงก็อยากจะแนะนำให้ใช้ส่วนผสมหลัก ที่มาจากธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อลดการสะสมของสารเคมีเพราะอย่างเซรั่มเราก็ต้องทุกวัน ถ้ามีส่วนผสมของสารเคมีมาก ก็อาจจะมีโอกาสที่จะสะสมอยู่ในผิวของเราได้แล้วก็เกิดความเสียหายได้เหมือนกัน ดังนั้นควรจะหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนผสมหลัก
ในท้องตลาดมีเครื่องสำอางยี่ห้อไหนบ้างที่เป็นไบโอเซรั่มมาจากธรรมชาติ 100% แบบอโรแมนทิน
ไม่มีไบโอเซรั่ม ที่ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มีส่วนผสมจากธรรมชาติไม่มาก เนื่องจากสารสกัดจากธรรมชาติมีราคาสูง ถ้าใส่ในปริมาณสูงจะมีราคาแพงแต่ BioSerum Aromantin มีสารสกัดจากธรรมชาติในปริมาณค่อนข้างสูง เพราะทางคณะผู้วิจัยจากจุฬาฯ เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบเอง
ต้องบอกว่าอโรแมนทิน เป็นไบโอเซรั่มที่ส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติคือเมื่อกหอยทาก และสารสกัดจากดอกกุหลาบด้วย แต่ไม่ใช่100% เพราะว่าสกินแคร์ที่บำรุงผิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่สามารถทำให้เป็น100% เพราะว่าจะต้องมีตัวทำละลายซึ่งเป็นเคมีด้วย จะต้องมีpreservatives แต่ไม่มากตามที่อย.กำหนดเพื่อที่จะรักษาเซรั่ม ให้อยู่ได้นาน อโรแมนทินสามารถเก็บได้นานเกิน 2-3 ปี ถ้าเราเก็บอย่างดี ไม่โดนแสงไม่โดนความร้อน ถ้าสำอางมาจากธรรมชาติ100% คือเซรั่มที่ต้องทำเองในครัวเรือน การทำแบบนั้นจะเก็บไม่นาน
ดังนั้นก็แนะนำว่าการใช้ไบโอเซรั่ม ให้เลือกให้มีส่วนผสมหลัก แปดสิบเก้าสิบเปอร์เซนต์มาจากธรรมชาติ แต่ว่าคงหลีกเลี่ยงที่จะไม่มีเคมีเลยไม่ได้ เป็นไปได้ในเครื่องสำอางหรือสินค้าที่อยู่ในท้องตลาด
สารสกัดกุหลาบส่งผลต่อผิวและใบหน้าอย่างไร
สารสกัดจากดอกกุหลาบ ก็มีคุณสมบัติคล้ายเมือกจากหอยทาก ช่วยต้านริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ สารสกัดจากดอกกุหลาบ เป็นการส่งเสริมฤทธิ์กันระหว่างเมือกหอยทากกับกับสารสกัดจากกุหลาบ
ใช้ BioSerum Aromantin ตัวเดียว ได้ไหม
แนะนำว่าต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ร่วมด้วย BioSerum Aromantinเป็นตัวแรกที่แนะนำให้ใช้ หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว แล้วตาม moisturizer ตามด้วยครีมกันแดด ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ เนื่องจากส่วนผสมและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน
ถ้าเป็นเด็ก หรืออายุไม่เกิน 20-25 ก็เพียงพอที่จะใช้เพียงเซรั่มหอยทากถ้าอายุเกิน 20-25 ครีมกันแดดและแป้งฝุ่น แต่ถ้าอายุเกิน20-25 ปีแล้วแนะนำว่าควรจะต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ร่วมด้วยด้วย ตอนเช้าใช้เซรั่มเสร็จ เซรั่มมันจะมันจะซึมลึกเข้าไปดูแลผิวข้างใน ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์ จะเคลือบผิวหน้าไม่ให้ความชุ่มชื้นหายไปจากผิวของเราเพราะฉะนั้นควรจะใช้คู่กัน แล้วทาครีมกันแดด ทาแป้ง
ถ้าเป็นเด็ก หรืออายุไม่เกิน 20-25 มีคอลลาเจน อีลาสตินที่ยังสมบูรณ์อยู่ ก็อาจจะไม่ใช้
ส่วนตอนกลางคืน เซรั่มหอยทากเราทาไปจะรู้สึกว่ามันซึมเข้าไปข้างใน เคลือบผิวได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าเรานอนในห้องแอร์แล้วจะรู้สึกว่ามันแห้งไปนิดนึง แนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ ร่วมด้วย ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์ จะมีแบบเนื้อหนักและเนื้อเบา ถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่ได้ต้องการความชุ่มชื้นมาก เลือกที่เนื้อที่บางเบา
ถ้าเกิดเราอายุมากขึ้นก็จะใช้ moisturizer ซึ่งหนักหน่อยอันนี้ก็จะไปช่วยเคลือบผิว ทำงานร่วมกับเซรั่มได้ดีขึ้น
แนะนำว่าใครจะซื้อเครื่องสำอางสกินแคร์อะไรต้องดูส่วนผสม ว่ามันมีสารอะไรที่เป็นอันตราย หรือทำให้ผู้ใช้เกิดอาการแพ้หรือไม่
ความหมายของไบโอเซรั่ม
คำว่า Bio หมายถึงสิ่งในชีวิต จึงหมายถึงเซรั่มที่มีสารสกัดที่มาจากสิ่งมีชีวิต
BioSerum Aromantin มีส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากพืช คือสารสกัดจากกุหลาบ และสารสกัดจากสัตว์ ก็คือเมือกหอยทาก จึงเป็นไบโอเซรั่ม ส่วนผสมหลักมาจากสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ ที่มีปริมาณที่สูงมาก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามที่เราอ้างอิง
ไบโอเซรั่ม ต้องดูว่าส่วนผสมหลักมาจากพืช สัตว์ หรือแบคทีเรีย หรือไม่
ประสิทธิภาพของสารที่เขาอยู่ในเครื่องสำอางจะมีประสิทธิภาพดีได้ แต่จะต้องมีความเข้มข้นอยู่ในช่วงที่มันออกฤทธิ์ได้ ถ้าความเข้มข้น ต่ำเกินไป มันก็จะไม่ได้ผล ไม่ประโยชน์ต่อผิวตามที่อ้างไว้หรือถ้ามากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดการแพ้ได้ เราจะต้องเลือกข่วงของความเข้มข้นของสารสกัดให้เหมาะสม อันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย
ใช้เซรั่ม Aromantin กับครีมบำรุงทั่วไปจะไปลดประสิทธิภาพของเซรั่มหรือเปล่า?
ครีมบำรุง จะไม่ลดประสิทธิภาพของ serum เพราะเซรั่ม ใช้เป็นตัวแรก การใช้เครื่องสำอางแต่ละตัว อย่ารีบทา ตัวแรกที่จะทาคือเซรั่ม เริ่มจากเนื้อเบาก่อน ครีมที่มีเนื้อหนักใช้ทาทีหลัง ถ้าใครใช้โทนเนอร์ก็ทาก่อนเพราะเบากว่าเซรั่ม ทาโทนเนอร์เพื่อกระชับรูขุมขน เสร็จแล้วทาเซรั่ม เซรั่มก็จะซึมเข้าสู่ผิวต้องปล่อยให้เขาซึมก่อน ซึมเข้าไปแล้ว ทาครีมบำรุงครีมบำรุงจะอยู่ข้างบนเท่านั้น เพื่อปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น จะใช้ไม่ปนกันเพื่อไม่ไปลดประสิทธิภาพของกันและกัน แต่แนะนำให้ใช้ร่วมกัน
ทำไมต้องใช้สารสกัดจากสัตว์?
การใช้เมื่อหอยทากเพราะว่ามันมีส่วนผสมที่มีหลากหลายมาก ไม่ได้แค่ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้าง Collagen ซึ่งสารสกัดจากพืชส่วนใหญ่จะทำไม่ได้ ส่วนสารสกัดจากพืชเอาไว้ใช้ป้องกันภัยธรรมชาติอย่างเดียว คือไม่ได้บำรุงผิว พืชไม่ต้องบำรุงผิว สารสกัดส่วนใหญ่ที่มาจากพืชจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มากกว่า จะไม่ครอบคลุมการดูแลผิวซึ่งสารสกัดจากพืชส่วนใหญ่จะเป็นพวกฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) จะช่วยในแง่ของต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยแก้ปัญหาบางส่วน แต่เมือกหอยทาก ช่วยแก้ปัญหาครอบคลุมมากกว่า ด้วยความเข้าใจความรู้อันนี้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ จะครอบคลุมกับการดูแลผิวได้มากกว่า โดยเฉพาะเมื่อเราใช้เมือกซึ่งหอยใช้ดูแลผิวโดยตรง แต่เอามาใช้ดูแลผิวของเราแทน
Aromantin ช่วยเรื่องอาการแพ้ของผิวหนังที่เกิดจากการอักเสบได้ไหม?
พอเวลาแพ้ผิวจะเกิดการอักเสบ สารที่เราใส่เข้าไป rose water รวม ถึงเมือกหอยทาก มีฤทธิ์ในการต้านอักเสบสูงมาก คนที่มีการอักเสบอยู่ จะรู้สึกเลยว่าทาแล้วรู้สึกว่าการอักเสบน้อยลง ดังนั้นใครที่เป็นสิวอักเสบใช้ร่วมกับยารักษาสิว จะรู้สึกว่าการอักเสบบวมแดง มันจะลดลงอย่างรวดเร็ว
ผิววัยรุ่นที่มันไม่ค่อยมีปัญหาอาจไม่จำเป็นต้องใช้เซรั่ม เด็กใช้ได้ไหมมีอันตรายหรือไม่
BioSerum Aromantin ไม่เป็นอันตรายต่อผิว เพราะมีส่วนผสมมาจากธรรมชาติสามารถใช้ได้ ผู้ใช้หลายคนที่ใช้เมือกหอยทากมีอายุต่ำกว่า15 ปี ซึ่งวัยรุ่นชอบเป็นสิวอักเสบ แนะนำให้ใช้คู่กับยาสิว เพราะว่ามันจะช่วยลดการอักเสบได้ดีมาก ส่วนวัยผู้ใหญ่เน้นประสิทธิภาพในการเป็น anti-aging
คำแนะนำในการเก็บรักษาในที่ยังคงประสิทธิภาพสูงสุด
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกยี่ห้อไม่ควรจะโดนแสงเพราะฉะนั้นถ้าเราตั้งทิ้งไว้ในที่ที่โดนแสงไม่ดีแน่นอน แล้วก็อยากจะให้อุณหภูมิไม่เกิน30 องศา ถ้าเกิดไม่ได้ใช้นานๆซื้อตุนไว้ก็แนะนำให้เข้าตู้เย็นไม่ต้องแช่แข็ง แล้วก็ทยอยใช้ทีละขวด แต่ว่าขวดที่ใช้ไม่ต้องแช่ก็ได้ ขวfที่ยังไม่ได้ใช้อยากยืดอายุให้มีประสิทธิภาพคงเดิมแนะนำให้ใช้ตู้เย็น แต่ถ้าบ้านเปิดแอร์ตลอดไม่ต้องแช่ตู้เย็นก็ได้ ที่อุณภูมิที่ 10 กว่าองศาเก็บได้เป็นปี โดยที่ประสิทธิภาพจะไม่ได้ลดลงไป เมืองไทยพอหน้าร้อนมันร้อนเกิน30 องศา ก็ให้ระวังนิดนึงเพราะว่าBioSerum Aromantinเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เราใส่สาร preservative น้อยมาก พอเป็นสารสกัดจากธรรมชาติเข้มข้นด้วยถ้าเราเก็บไม่ดี ก็อาจจะมีกลิ่นได้ง่ายหรือเสียประสิทธิภาพ
การใช้แซรัมที่ถูกวิธีใช้อย่างไร
การหยดโดยตรงที่ผิวหน้า ข้อดีคือคือมันไม่ซึมเข้าที่มือ ถ้าเราใช้มือก็ซึมเอาเซรั่มลงไป เซรั่มส่วนหนึ่งจะหายไป การหยดที่ใบหน้าโดยตรงก็ทำได้แต่อย่าให้ปลายหัวที่หยดไปโดนผิว เนื่องจากที่ผิวมีแบคทีเรียเยอะการสัมผัสผิวทำให้แบคทีเรีย จากผิวหน้าอาจเข้าไปในขวดเซรั่ม อาจทำให้บูดได้
Aromantin สามารถเทียบได้กับแบรนชั้นนำทั่วไปไหม
Aromantin มีคุณภาพทัดเทียม หรือ ดีกว่าเครื่องสำอางชั้นนำ เมื่อใช้ไปแล้วจะเห็นถึงประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจน และได้ผลลัพธ์ดีหรือดีกว่าเครื่องสำอางชั้นนำ เนื่องจากมีการวิจัยที่ห้องปฎิบัติการ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อน นำสารที่ดีต่อผิวจากธรรมชาติ มาปรับสัดส่วนของสารต่างๆ ให้มีความความเข้มข้นที่เหมาะสมทำให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณสูงสุดเพราะว่ามีการวิเคราะห์ดูส่วนผสมของของพวกเคาน์เตอร์แบรนด์อยู่เป็นประจำ แต่ว่าที่เครื่องสำอางแบรนชั้นนำมีราคาแพงเพราะ ค่าการตลาดทำให้มีราคาสูงไม่ใช่ตัวเซรั่มหรือราคาส่วนประกอบมีราคาสูงกว่า
ควรใช้เซรั่มหลายตัวไหม
แนะนำว่าถ้าใช้BioSerum Aromantin เพียงพอ เพราะว่าเซรั่มของเราเข้มข้นและการดูแลล้ำลึกข้างใน เซรั่มตัวนี้เอาอยู่แล้ว ควรใช้คู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ เซรั่มหลายตัวนั้นไม่จำเป็นสำหรับ BioSerum Aromantin เพราะเราเข้มข้นจริง ดูแลรักษาผิวได้ดีจริง
สามารถใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ได้หรือไม่
สามารถใช้ระหว่างการตั้งครรภ์ได้ เพราะผลิตภัณฑ์ ไม่มีส่วนผสมของ alcohol , silicone , paraben , sls , sles , retinol , salicylic acid และ ไม่มีสารเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและร่างกาย