ชื่อ-สกุล นางสาวอริสรา แพร่หลวง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
โรงเรียนลาดยาววิทยาคม อำเภอลาดยาว
จังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์
สอนรายวิชา ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ครูที่ปรึกษานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ม.2/8
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานตำแห่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ ซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการสถานศึกษาไว้ดังต่อไปนี้
ตารางสอนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
ตารางสอนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 22 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน จำนวน 15 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชารายวิชา IS ค้นคว้า ม.2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ลดเวลาเรียน ม.2 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
ลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การแก้ไขปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ภาษาไทยเป็นวิชาพื้นฐานที่มีความสําคัญอันเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในหลายๆวิชา ผู้ที่มีทักษะทางภาษาไทยอันได้แก่ การฟัง พูด อ่าน และเขียน จะส่งผลทําให้มีทักษะการเรื่องเรียนวิชาอื่นๆได้ดีการเขียนเรียงความ เป็นงานเขียนที่ผู้เขียนมุ่งถ่ายทอดเรื่องราว ความคิด ทัศนคติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งด้วยสํานวนภาษาที่เรียงขึ้นอย่างมีลําดับขั้นตอน ประกอบด้วยข้อความหลายย่อหน้า มีชื่อเรื่องชัดเจนข้อความในหลายๆย่อหน้านั้นจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อจะให้ข้อเท็จจริง ความรู้ ข้อคิดหรือทําให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามไปกับงานเขียนนั้น ในการเขียนเรียงความผู้เขียนจะต้องมีการวางโครงเรื่อง ค้นความหาข้อมูลและจัดเรียงลําดับความคิดให้สัมพันธ์กับหัวเรื่องเพื่อการเขียนเรียงความได้ตรงตามจุดประสงค์ที่กําหนดไว้ในปัจจุบันพบว่าการเขียนเรียงความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ยังไม่สัมฤทธิ์ผล อันเนื่องมาจากนักเรียนไม่รู้จะเขียนอะไร เขียนสับสนวกวน ส่งผลให้ไม่สามารถการเขียนเรียงความได้ประสบความสําเร็จผู้วิจัยจึงสนใจที่จะพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความโดยใช้ผังความคิดในการวางโครงเรื่องในการพัฒนาความสามารถในการเขียน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. ประเมินทักษะ เรื่อง การเขียนเรียงความ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้แบบทดสอบแบบปรนัย เพื่อวัดความรู้รายบุคคลของผู้เรียน เพื่อค้นหานักเรียนที่มีปัญหาในการเขียนเรียงความ
โดยกำหนดเป้าหมาย ดังนี้
1) ผู้บริหารโรงเรียน ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกระดับ เห็นความสำคัญ มีความตระหนักเกี่ยวกับ การเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียน
2)ครูผู้สอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ในโรงเรียนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถเชื่อมโยงการ จัดการเรียนรู้ให้นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3)นักเรียนมีความเข้าใจในเรื่องการเขียนเรียงความ และสามารถเขียนเรียงความตามองค์ประกอบการเขียนเรียงความได้
2. ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรนักเรียนต้องรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อออกแบบหน่วยตามตัวชี้วัด
3. จัดทำแผนพัฒนาคุณภาพระดับโรงเรียน แผนพัฒนาคุณภาพรายบุคคล เพื่อซ่อมเสริมนักเรียนเป็นรายบุคคลตามสภาพปัญหา
4. ปรับระบบบริหารจัดการในการดำเนินงานจัดการเรียนการสอนของครูทุกคนทุกกลุ่มสาระให้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ และส่งเสริมความรักผิดชอบของนักเรียน
5. จัดแยกกลุ่มนักเรียนที่มีปัญหาในเรื่อง การเขียนเรียงความ แล้วจัดครูเข้าสอนด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ห้องเรียนภาษาพาเพลิน การเรียนตามแนวทาง BBL กิจกรรมเกม การจัดกิจกรรม Active Learning สื่อออนไลน์ประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
1) ให้นักเรียนเข้าถึงสื่อเทคโนโลยีออนไลน์ ในกลุ่ม Facebook เพื่อสร้างความเข้าใจในระบบการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนและเพื่อที่จะสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
2) ครูผู้สอนจัดทำแบบฝึกทักษะ เรื่อง การเขียนเรียงความ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) หลังจากการเรียนในรูปแบบ On-site ในโรงเรียน คุณครูได้ให้ผู้เรียนได้ศึกษาเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาทักษะ เรื่อง การเขียนเรียงความและมอบหมายงานในแบบฝึกทักษะให้สอดคล้องที่นักเรียนศึกษา
4) เมื่อนักเรียน ได้เรียนรู้ด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบเพื่อประเมินความรู้ของนักเรียน
3. มาตรการระดับห้องเรียน/ครูประจำชั้น
1. จัดทำประกาศวาระสำคัญระดับห้องเรียน โดยระบุว่า... “ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะต้องเขียนเรียงความจากประสบการณ์ได้”
2. ศึกษาแนวปฏิบัติ/มาตรการระดับเขตพื้นที่และระดับโรงเรียน
3. กำหนดแนวปฏิบัติในการพัฒนาภาษาไทยระดับห้องเรียนที่เหมาะสม
4. จัดบรรยากาศห้องเรียนให้เป็นห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนการสอน ส่งเสริมการอ่านการเขียน
เช่น จัดป้ายนิเทศส่งเสริมการอ่าน สื่อหรือเกมที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเรียนของนักเรียน
5. ดำเนินการคัดกรองเด็กพิเศษและเด็กปกติ
6. จัดทำข้อมูลสารสนเทศนักเรียนรายคน/รายกลุ่มปัญหา/รายระดับปัญหา
7. จัดหา/จัดทำนวัตกรรม ที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับปัญหาของแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม และกำหนดปฏิทินในการพัฒนาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
8. ออกแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมที่หลากหลาย และจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
9. สังเกต ตรวจสอบ ประเมินพัฒนาการนักเรียนกลุ่มเป้าหมายทุกเดือน
10. บันทึก สรุปรายงานผลต่อผู้อำนวยการโรงเรียนทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง
4. กิจกรรมเพิ่มเติมที่กลุ่มสาระภาษาไทยดำเนินการพัฒนานักเรียนที่มีความสามารถด้านทักษะภาษาไทย มีดังนี้
1. การเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมวันภาษาไทย
2. การเขียนตามคำบอก
3. กิจกรรมอ่านทำนองเสนาะ
4. กิจกรรมเกมคำคม
5. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
5.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความจากประสบการณ์ได้ร้อยละ 80 นักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้การสอน มีการพัฒนาทักษะการอ่าน ตามตัวชี้วัดที่ต้องรู้และตัวชี้วัดที่ควรรู้ และมีผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาภาษาไทยสูงขึ้น
5.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความจากประสบการณ์ได้และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง