วิทยานิพนธ์

วิทยานิพนธ์ 

เรื่องที่ 1 

ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมกับงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก 

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1

Alternative Relationship between the participative leadership and educational quality assurance in small size schools under Sara Buri primary educational service area office 1

CreatorName: ลัดดาวัลย์ สมตน

Address: ปทุมธานี

Organization : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา

Subject keyword: การประกันคุณภาพการศึกษา

ThaSH: ประกันคุณภาพ

Classification :.DDC: TS 156.6

; โรงเรียนขนาดเล็ก

ThaSH: ภาวะผู้นำ

ThaSH: ภาวะผู้นำทางการศึกษา

Description Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 2) ระดับการประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมกับงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในงานวิจัย ได้แก่ ครูผู้สอนโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน 175 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation) ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 อยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน 2) ระดับการประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 อยู่ในระดับมากทั้งโดยภาพรวมและรายด้าน และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมกับงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีความสัมพันธ์กันในทางบวก และอยู่ในระดับสูง (r=0.80)

Abstract: The aims of this research were to investigate 1) participatory leadership level of small size school administrators, 2) the level of quality assurance in the education of small size schools under Sara Buri Primary Educational Service Area Office 1, and 3) the relationship between the participative leadership and educational quality assurance in small size schools under Sara Buri Primary Educational Service Area Office 1. The samples were 175 small size school teachers. The instrument was a set of questionnaire. The statistics used in data analysis were percentage, mean, standard deviation and Pearson's Product Moment Correlation. The result showed that 1) the level of participative leadership in small size schools under Sara Buri Primary Educational Service Area Office 1, as a whole, on all aspects, was at the high level, 2) the level of quality assurance in education in small size schools under Sara Buri Primary Educational Service Area Office 1, as a whole, on all aspects, was at the high level, and 3) the relationship between the participative leadership and educational quality assurance in small size schools under Sara Buri Primary Educational Service Area Office 1 at a statistical significance of .01, with overall relationship in a positive way at the high level (r =0.80).

ลัดดาวัลย์ สมตน. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำแบบมีส่วนร่วมกับงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

เรื่องที่ 2 

ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา กับประสิทธิผลของสถานศึกษา 

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22

The relationship between roles of internal supervition of school administrators and effectiveness of schools under the secondary educational services area office 22

CreatorName: เฉลิมวุฒิ โสมงาม

Address: สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์

Organization : มหาวิทยาลัยนครพนม

Subjectkeyword: ประสิทธิผล

ThaSH: การนิเทศภายใน

Classification :.DDC: 371.203

; ผู้บริหารสถานศึกษา

Description Abstract: ผู้บริหารสถานศึกษามีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นิเทศในสถานศึกษาการนิเทศ เป็นกระบวนการสำคัญในการช่วยเหลือ แนะนำสร้างขวัญกำลังใจพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาและเปรียบเทียบ บทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา จำแนกตามสถานภาพและขนาดของโรงเรียน (2) ศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิผลของสถานศึกษา จำแนกตามสถานภาพและขนาดของโรงเรียน (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผล โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 จำนวน 396 คน กำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางเคร็จซี่และมอร์แกน (Krejcie and Morgan) แล้วทำการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม ประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งออกเป็น 3 ตอน โดยบทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา มีค่าอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง .68 - .90 ความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .99 และประสิทธิผลของ สถานศึกษา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .58 - .93 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .97 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการ วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า (1) บทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 โดยรวม อยู่ในระดับมาก ผลการเปรียบเทียบจำแนกตาม สถานภาพ พบว่า โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลการจำแนกตาม ขนาดของสถานศึกษา โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน (2) ประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22 โดยรวม พบว่า อยู่ในระดับ มาก ผลการเปรียบเทียบ จำแนกตามสถานภาพ โดยรวม พบว่า แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผลการ เปรียบเทียบจำแนกตามขนาดของสถานศึกษา โดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (3) การนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับสูงกับประสิทธิผล ของสถานศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Abstract: School administrators had important roles in being supervisors in schools. Supervision was an important process in helping, suggesting, encouraging morale, improving the quality of education to be effective and more productive. The purposes of this research were (1) to study and compare roles of internal supervision of school administrators classified by status and school-size, (2) to study and compare effectiveness of schools classified by status and school-size, and (3) to study the relationship between roles of internal supervision of school administrators and effectiveness of schools under the Secondary Educational Service Area Office 22. The samples consisted of 396 school administrators and teachers under the Secondary Educational Service Area Office 22 followed Krejcie & Morgan’s table in the sample-size specification, and they were selected by Stratified Random Sampling. The instrument was a five-rating scale questionnaire which was divided into 3 parts by school administrators’ supervision roles with the discrimination between .68-.90 and the reliability of .99; and the effectiveness of schools revealed the discrimination between .58-.93 and the reliability of .97. The statistics employed in data analysis were percentage, mean, standard deviation, t-test, and One-way ANOVA.The results were found that (1) overall roles of internal supervision of school administrators under the Secondary Educational Service Area Office 22 were at the high level. In comparison, overall roles of internal supervision of school administrators classified by status were statistically significant different at the .01 level; whereas the roles of internal supervision classified by school-size were not different both in overall and individual aspects. (2) The overall effectiveness of schools under the Secondary Educational Service Area Office 22 were at the high level. In comparison, overall effectiveness of schools classified by status were statistically significant different at the .01 level; and the comparison of overall effectiveness of schools were statistically significant different at the .05 level. (3) The internal supervision of school administrators reveled the positive relation to the effectiveness of schools at the .01 level of statistical significance.

เฉลิมวุฒิ โสมงาม. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทการนิเทศภายในของผู้บริหารสถานศึกษา กับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 22. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยนครพนม

เรื่องที่ 3 

ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนในกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3

The relationship between transformational leadership with motivation in the performance of teachers in schools in banglamung 2 school cluster under the chonburi primary educational service area office 3

CreatorName: รัชพล สอนใหม่

SubjectThaSH: ภาวะผู้นำทางการศึกษา -- ไทย -- ชลบุรี

Classification :.DDC: 372.1201

ThaSH: ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา -- ชลบุรี

ThaSH: ครูประถมศึกษา -- ความพอใจในการทำงาน -- ไทย -- ชลบุรี

Description Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของ ผู้บริหารสถานศึกษา ระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ปีการศึกษา 2562 จำนวน 136 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็น แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่าเกี่ยวกับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง จำนวน 40 ข้อ มีค่าอำนาจ จำแนกรายข้อระหว่าง .81 - .99 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .99 และแบบสอบถามเกี่ยวกับแรงจูงใจ 21 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง .82 - .99 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .99 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s product moment correlation coefficient) ผลการวิจัยปรากฏดังนี้ 1. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนในกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 3. ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับ แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนในกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาชลบุรี เขต 3 มีความสัมพันธ์กันทางบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01

Abstract: The purpose of this research was to study the relationship between transformational leadership and performance motivation of school teachers in Banglamung 2 School Cluster under the Chonburi Primary Educational Service Area Office 3. The sample used in this research was 136 school teachers teaching in the 2019 academic year. The research instrument was a five-rating-scale questionnaire. The first part was on transformational leadership with the item - discrimination power between .81 - .99, and reliability of .99. The second part asking question about the job motivation of school teachers with the item discrimination between .82 -.99 and the reliability of .99. The statistics used for analyzing the data were percentage, Mean (X), Standard Deviation (SD) and Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient. The findings of the research were as follows: 1. The transformational leadership of school administrators in Banglamung 2 Schools in overall was at a high level. 2. The performance motivation of teachers in Banglamung 2 Schools in overall and each aspect were at a high level. 3. The relationship between transformational leadership and performance motivation of teachers in Banglamung 2 Schools had a positive correlation at a very high level with the .01 level of statistically significance.

รัชพล สอนใหม่. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนในกลุ่มบางละมุง 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 3. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา

วารสาร

เรื่องที่ 1 

ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียน ของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ

Ethical Leadership of School Administrator Affecting School Effectiveness of Sports School Thailand National Sport University

มนต์ชัย ปัญญุเบกษา

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา

ทินกร พูลพุฒ

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา

รวงทอง ถาพันธุ์

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ (2) เพื่อศึกษาระดับประสิทธิผลโรงเรียนของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ (3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาและประสิทธิผลโรงเรียนของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ และ (4) เพื่อสร้างสมการพยากรณ์ปัจจัยภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรที่เป็นผู้สอนวิชาพื้นฐาน ผู้ฝึกสอนกีฬา และเจ้าหน้าที่ สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จำนวน 273 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณแบบมีขั้นตอน ผลการวิจัย พบว่า (1) ระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (2) ระดับประสิทธิผลโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (3) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมและประสิทธิผลโรงเรียนกีฬามีความสัมพันธ์กันเชิงบวกในระดับปานกลางถึงระดับมาก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (4) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลโรงเรียน สามารถอธิบายความผันแปรของประสิทธิผลโรงเรียนของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาได้ร้อยละ 84.00  (R2 = .840)

References

• คำพร กองเตย. (2560). การพัฒนาตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.

• ชูศักดิ์ ตินอาสา. (2560). โมเดลความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬา. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 11(1), 47-55.

• นงลักษณ์ วิรัชชัย, ศจีมาศ ณ วิเชียร และพิศสมัย อรทัย. (2551). การสำรวจและสังเคราะห์ตัวบ่งชี้คุณธรรมจริยธรรม. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม(ศูนย์คุณธรรม.

• เนาวรัตน์ รอดเพียน. (2560). ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานบุคคลของโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีนครินทร์.

• พินัน รัตนสุภา. (2563). การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของโรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช. โรงเรียนกีฬาเทศบาลเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช.

• ศาศวัต กันเทพา. (2560). ศึกษาสภาพการบริหารจัดการโรงเรียนกีฬาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือสังกัดสถาบันการพลศึกษา. วารสารการริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร, 4(14), 50-56.

• สถาบันการพลศึกษา. (2561). คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียนกีฬา สังกัดสถาบันการพลศึกษา 2561. กลุ่มประกันคุณภาพการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน. กองวิจัยและประกันคุณภาพการศึกษา สถาบันการพลศึกษา.

• สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2552). รายงานประจำปี 2552 สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน

• Brown, M. E., Treviño, L. K., & Harrison, D. A. (2005). Ethical leadership: A social learning perspective for construct development and testing. Organizational Behavior and Human Decision Processes, 97, 117–134.

• Hoy, W.K. & Miskel, C. G. (2008). Educational administration: Theory, research and practice. (8th ed.). New York: McGraw-Hill.

• Hoy, W. K. & Miskel, C. G. (2013). Educational administration: Theory, research, and practice. (9th ed.). New York: McGraw-Hill.

• Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

• Northouse, P. G. (2002). Desired characteristics of ethical leader in business, educational, political, and religious organizations. From East Tennessee. A Delphi investigation.

• Yulk, G. A. (2001). Leadership in organizations. (4th ed.). Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.

มนต์ชัย ปัญญุเบกษา และคณะ (2566) ภาวะผู้นําเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลโรงเรียนของโรงเรียนกีฬา สังกัดมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ปีที่ 9 ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม 2566 หน้าที่ 215-228.

เรื่องที่ 2

ความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผล ของสถานศึกษา 

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี

ETHICAL LEADERSHIP CAPABILITIES OF SCHOOL ADMINISTRATORS AFFECTED TO SCHOOL EFFECTIVENESS UNDER THE OFFICE 

OF NONTHABURI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA

อชิรญาณ์ แย้มทับ

สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

กุลชลี จงเจริญ

สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

ชูชาติ พ่วงสมจิตร์

สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

บทคัดย่อ

           การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1) ศึกษาความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี 2) ศึกษาประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสามารถทางภาวะผู้นำ เชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี และ 4) สร้างสมการพยากรณ์ประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี จากความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอยาง ได้แก่ ครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 และเขต 2 จำนวน 338 คน ได้มาโดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน จากนั้นสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้เป็น แบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.96 และ 0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายแบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณโดยวิธีแบบขั้นตอน

          ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) ประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 3) ความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษากับประสิทธิผลของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี มีความสัมพันธ์กันเชิงบวกในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 4) ความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผลสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี ได้แก่ ด้านการคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน (X7) ด้านการปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม (X6) และด้านความไวทางจริยธรรม (X4) โดยมีอำนาจพยากรณ์ร้อยละ 63.10 สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ Y = 1.772 + .298(X7) + .171( X6) + .117( X4) และสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน Z = .450Z7 + .235Z6 + .165Z4

References

• Boonla, D. (2013). Relationship between leadership styles and effectiveness of Schools under the Office of Secondary Educational Service Areas, Area 20. Master’s Degree, Khonkaen University. [in Thai]

• Chongcharoen, K. (2018). Human resource management in education. Nonthaburi: Sukhothai Thammathirat Open University.

• Department of Juvenile Observation and Protection. (2018). Policies of the Department of Juvenile Observation and Protection for the fiscal year 2019-2020. Retrieved July 20, 2019, from http://www.djop.go.th/Djop/images/P-2562%20.pdf [in Thai]

• Dorasamy, N. (2010). From self-interest to public interest: Promoting higher levels of business ethics. Retrieved March 21, 2019, from https://pdfs.semanticscholar.org/9106/f9b3dc4d 22ba9d448457a7421d24ed7558d0.pdf

• Ellig, J. (2014). A guide to writing public interest comments using economic Analysis. Retrieved May 16, 2018, from https://www.mercatus.org/system/files/Ellig-How-PIC-web.pdf

• Esmaelzadeh, F., Abbaszadeh, A., Borhan, F. & Peyrovi, H. (2017). Characteristics of an ethical leader: A qualitative content analysis of Iranian nurses’ experiences. Retrieved June 3, 2018, from http://www.atmph.org/article.asp?issn=1755-6783;year=2017;volume=10; issue=3; spage=684;epage=693;aulast=Esmaelzadeh Ethical Standards Act, B.E. 2562. (2019, 15 April). Government Gazette. Book 136, Chapter 50. pp. 1-10. [in Thai]

• Hannah & Avolio (2010). Moral potency: Building the capacity for character-base leadership. Retrieved September 24, 2018, from https://clc.business. wfu.edu/publications/moral- potency-building-the-capacity-for-character-based-leadership/

• Jongwisarn, R. (2013). Leadership: Research Theory and Ways to Develop. Bangkok: The Publisher of Chulalongkorn University. [in Thai]

• Kazmi, O., Baloch, M., Dar, N., Usman, U., Basheer, S., Ali, M., Ain, Q. & Zuvia. (2014). Challenges in implementing ethical culture in organization. Retrieved June 3, 2018, from https: //www.researchgate.net/publication/263847808_Challenges_in_Implementing_Ethical_Culture_in_Organization

• Kirk, D. & Jones, T. (2014). Effective Schools. Retrieved June 4, 2018, from http://images. pearsonassessments .com/images/tmrs/tmrs_rg/EffectiveSchools.pdf

• Linina, V. & Vevere, I. (2016). Ethical leadership: Meaning and measurement. Latvian retail traders’ perspective. Retrieved February 5, 2018, from https://www.researchgate.net /publication/312558236_Ethical_Leadership_Meaning_and_Measurement_Latvian_Retail_Traders’_Perspective.

• Nonthaburi Provincial Administration Organization. (2018). Annual Report, Nonthaburi Provincial Administrative Organization 2018. Nonthaburi: Nonthaburi Provincial Administration Organization. [in Thai]

• Nonthaburi Provincial Cultural Office. (2017). Nonthaburi Moral Promotion Master Plan No. 1 (2017-2021). Nonthaburi: Nonthaburi Provincial Cultural Office. [in Thai]

• Phetkrachang, C. (2016). Leadership in Ethical Change Organizational culture Organization of learning And Effectiveness of Schools under the Office of Primary Education Area in Nakhon Sawan Province: Route Analysis. Doctoral Dissertation, Chaopraya University. [in Thai]

• Poommai, D. (2014). Study of conditions and guidelines for the development of ethical leadership of School administrators under the local government organization Sukhothai Province. Master of Education, Pibulsongkram Rajabhat University. [in Thai]

• Potberg, C. (2014). Factors contributing to school effectiveness in a disadvantaged community in the Western Cape: A case study. Retrieved February 17, 2018, from http://etd.cput.ac. za/bitstream/handle/20.500.11838/1989/204218926_potberg_c_ded_2014.pdf?sequence=1&isAllowed=y

• Rakbanglaem, C. (2016). Analysis of components of ethical leadership and ethical issues in educational institution administration of nursing college administrators Under the Royal Institute Ministry of Public Health. Doctoral Dissertation, Songkla University. [in Thai]

• Research and Development Center for Educational Innovation for children and special needs people. (2008). Child Rights and Local Planning Program for Children and Youth, 2008. Bangkok: Plain Press. [in Thai]

• Ritbamrung, S. (2013). Creative Leadership of School Administrators Affecting School Effectiveness Under the Office of Secondary Educational Service Area 30. Master’s Degree, Khonkaen University. [in Thai]

• Saleem, F., Naseem, Z., Ibrahim, K., Hussain, A. & Azeem, M. (2012). Determinants of School Effectiveness: A study at Punjab level. International Journal of Humanities and Social Science, 2(14) [Special Issue - July 2012], 242-251. Retrieved May 10, 2018, from http://www. ijhssnet.com/journals/Vol_2_No_14_Special_Issue_July_2012/28.pdf

• Sowapee, K. (2013). Strategic Leadership Affecting School Effectiveness Under the Office of Udon Thani Primary Educational Service Area, Area 3. Master’s Degree, Khon Kaen University. [in Thai]

• Srisaat, B. (2017). Preliminary research (10th ed.). Bangkok: Suwiriyasarn. [in Thai]

• The Office of Nonthaburi Primary Educational Service Area, District 1. (2018). Operation Plan of the Budget 2018 of the Office of Primary Educational Service Area Nonthaburi 1. Nonthaburi: The Office of Nonthaburi Primary Educational Service Area, District 1. [in Thai]

• The Office of Nonthaburi Primary Educational Service Area, District 2. (2018). Operation Plan of the Budget 2018 of the Office of Primary Educational Service Area Nonthaburi 2. Nonthaburi: The Office of Nonthaburi Primary Educational Service Area, District 2. [in Thai]

• The Office of Research Fund. (2017). Mold of the nation and violations of ethics in the teaching profession. Research Community, 16(22), 29. [in Thai]

• The Secretariat of the Council of Education, Ministry of Education. (2017). National Education Plan 2017-2036. Retrieved January 30, 2018, from http://www.lampang.go.th/public60/ EducationPlan2.pdf [in Thai]

• The Teachers’ Council of Thailand. (2019). National Education Plan 2017-2036. Retrieved January 30, 2018, from http://www.lampang.go.th/public60 /EducationPlan2.pdf [in Thai]

• Thongdeewiset, N. (2017). Ethical Conduct of Vachajacheep School Administrators According to the views of teachers at Ayutthaya Wittayalai School Under the Educational Service Area Office of Dhammakaya Education Area 3. Master of Education, Ramkhamhaeng University. [in Thai]

• Thongkamhaeng, K. (2011). Strategies for Developing Moral Leadership for Private School Administrators. Doctoral Dissertation, Chulalongkorn University. [in Thai]

• Tohtaeya, C. (2018). The Moral and Ethics of Islamic Private School Administrators in Nakhon Si Thammarat Province as Perceived by Teachers. Master of Education, Nakhon Si Thammarat Rajabhat University. [in Thai]

• Wang, L., Chiang, J., Plaisent, M. & Bernard, P. (2013). The Factors of School Effectiveness: An Empirical Investigation of Internal and External Factors of Junior High Schools in Taiwan. International Journal of Humanities and Applied Sciences, 2(3), 50-54.

• Whitton, H. (2016). Developing the ‘ethical competence’of public officials -a capacity-building approach. Retrieved February 5, 2018, from https://www.oecd.org/cleangovbiz /Integrity-Forum-16-Howard-Whitton.pdf

อชิรญาณ์ แย้มทับ และคณะ (2566) ความสามารถทางภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อประสิทธิผล ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี. วารสารปัญญาภิวัฒน์ ปีที่ 12 ฉบับที่ 2 กันยายน-ธันวาคม 2563 หน้าที่ 188-200.

เรื่องที่ 3

ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม 

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3

The Ethical Leadership of School Administrators Affect to School Effectiveness in Multicultural Society Under the Pattani Primary 

Educational Service Area Office 3

อับดุลคอเล็บ สาเม๊าะ

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา

บทคัดย่อ

           การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 2) ศึกษาระดับประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 และ 3) ศึกษาภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้  ได้แก่ ครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3  ปีการศึกษา 2564 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie and Morgan ทำการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 220 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามขนาดของสถานศึกษา จากนั้นจึงสุ่มอย่างง่ายโดยการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)

          ผลการวิจัย พบว่า 1) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก  2) ประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก และ 3) ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 มี 3 ตัวแปร ได้แก่ การสรรสร้างความเป็นทีมงาน (X5) การแสดงถึงความเที่ยงธรรม (X3) และการบริการผู้อื่น (X2) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณเท่ากับ .633   ค่าความคลาดเคลื่อนเนื่องจากการพยากรณ์มีค่าเท่ากับ .187 สามารถทำนายประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3 ได้ร้อยละ 40.1 (R2  = .401) และสามารถสร้างสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ = 1.775 + .272 (X5) + .190 (X3) + .127 (X2) และคะแนนมาตรฐาน = .335 (X5) + .319 (X3) + .173 (X2) 

References

• ชุติมา รักษ์บางแหลม, เอกรินทร์ สังข์ทอง, ชวลิต เกิดทิพย์ และชิดชนก เชิงเชาวน์. (2559). “ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรม: หนทางสู่การขับเคลื่อนภาวะผู้นำในสถาบันศึกษา”. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 8 (1): 168-180.

• ธัญวิทย์ ศรีจันทร์, สิริฉันท์ สถิรกุล และปทีป เมธาคุณวุฒิ. (2559). “การวิเคราะห์องค์ประกอบ คุณลักษณะภาวะผู้นำในศตวรรษที่ 21 ของกรรมการองค์กรนิสิตนักศึกษา”. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 29(2): 139-156.

• บุษยพรรณ พรหมวาทย์. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษากับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21.โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 1. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยพะเยา.

• ประยูร พรหมพันธุ์. (2559).“การบริหารงานบุคคลกับคุณธรรมและจริยธรรมในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”. วารสารดำรงราชานุภาพ, 7(23): 70-88.

อับดุลคอเล็บ สาเม๊าะ. (2564). ภาวะผู้นำเชิงจริยธรรมของผู้บริหารที่ส่งผลต่อประสิทธิผลของสถานศึกษาในสังคมพหุวัฒนธรรม 

สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 3. วารสาร อัล-ฮิกมะฮฺ  ปีที่ 11ฉบับที่ 22กรกฎาคม-ธันวาคม2564 หน้าที่ 235-248.

วารสารต่างประเทศ

เรื่อง Inter-school collaboration leaders’ behaviors and underlying leadership styles: The case of China

Abstract

            There has been a sizable increase in studies of leadership in inter-school collaboration (ISC) over the past years. But few studies have focused on leaders’ concrete behavior in ISC settings. Drawing on the Leadership for Learning (LfL) theory, this research explored ISC leaders’ behaviors and then surmised underlying leadership styles. A mixed-method design was used to collect data from China. The results showed that the behaviors of high-rated leaders partly revealed that they adopted a caring-oriented leadership style, which focused on situations, needs, and concerns of members. The behaviors of low-rated leaders somewhat presented a control-oriented leadership style, which emphasized dominating the operation of the organization. This research adds to the growing knowledge body of research on leadership in ISC. It not only has important implications for future research but also provides useful implications for ISC leaders’ practice and policy-making.

บทคัดย่อ

           มีการศึกษาความเป็นผู้นำในการทำงานร่วมกันระหว่างโรงเรียน (ISC) เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มีงานวิจัยเพียงไม่กี่ชิ้นที่มุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมที่เป็นรูปธรรมของผู้นำในการตั้งค่า ISC จากทฤษฎีความเป็นผู้นำเพื่อการเรียนรู้ (LfL) การวิจัยนี้สำรวจพฤติกรรมของผู้นำ ISC จากนั้นคาดเดารูปแบบความเป็นผู้นำที่ซ่อนอยู่ ใช้การออกแบบแบบผสมเพื่อรวบรวมข้อมูลจากประเทศจีน ผลการวิจัยพบว่าพฤติกรรมของผู้นำที่ได้รับคะแนนสูงส่วนหนึ่งเผยให้เห็นว่าพวกเขาใช้รูปแบบความเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นความเอาใจใส่ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์ ความต้องการ และข้อกังวลของสมาชิก พฤติกรรมของผู้นำที่ได้รับคะแนนต่ำค่อนข้างนำเสนอรูปแบบความเป็นผู้นำที่เน้นการควบคุม ซึ่งเน้นการครอบงำการดำเนินงานขององค์กร การวิจัยครั้งนี้เป็นการเพิ่มองค์ความรู้ที่เพิ่มขึ้นของการวิจัยเกี่ยวกับความเป็นผู้นำใน ISC ไม่เพียงแต่มีผลกระทบที่สำคัญสำหรับการวิจัยในอนาคต แต่ยังให้ผลกระทบที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติและการกำหนดนโยบายของผู้นำ ISC

Zheng Fang, Haitao Liu, Jie Gao.  (2024). Inter-school collaboration leaders’ behaviors and underlying leadership styles: The case of China. International Journal of Educational Development. Volume 105, March 2024, 102979