🌠 Your Name 🌠

ถูกใช้ในฉากพระอาทิตย์ขึ้นตอนเปิดเรื่อง ตัวตึกตั้งสูงตระหง่านอยู่ในเขตชิบุยะ กรุงโตเกียว มีความสูงเป็นอันดับสามของโตเกียว (240 เมตร) ยอดอาคารมีการติดตั้งนาฬิกาไว้จึงกลายเป็นหอนาฬิกาที่สูงที่สุดในโลก ทั้งนี้ภายในตัวอาคารไม่มีร้านอาหารหรือสถานที่ท่องเที่ยวใดๆ และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปภายในอาคาร ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะไปตามรอยก็สามารถถ่ายรูปเก็บบรรยากาศได้
จากข้างนอกตึกก็เพียงพอแล้ว

เป็นฉากที่ทาคิพระเอกของเรื่องเดินไปส่งรุ่นพี่มิกิที่สถานีหลังออกเดทและหยุดยืนก่อนที่จะโทรหามิซึฮะนางเอกก่อนจะเกิดจุดพลิกผัน
ของเรื่อง ใครอยากไปตามรอยยืนเท่ๆ อย่างทาคิก็สามารถเดินไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้

บันไดนี้ห่างจากสะพานคนเดินข้ามของสถานีรถไฟชินะโนมาชิ (Shinanomachi station) เพียงสิบนาทีเท่านั้น เป็นฉากที่ทาคิและมิซึฮะเดินสวนกันแต่ต่างฝ่ายต่างจำกันไม่ได้ และฉากนี้ยังถูกเอามาใส่ในโปสเตอร์อีกด้วย นอกจากจะได้ตามรอยแล้วจะแวะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่
ศาลเจ้าซูกะกันต่อก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวทีเดียว

ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดงที่ชินจูกุย่านใจกลางธุรกิจของโตเกียว มีลักษณะโดดเด่นของวงกลมล้อมกลางสี่แยกไฟแดง ในเรื่องปรากฏสถานที่นี้ในวิดีโอตัวอย่างแรกของ Your Name พร้อมเพลงประกอบ คุณสามารถเดินเล่นแวะถ่ายรูปแสงไฟยามค่ำคืนสวยๆ ได้จากจุดนี้

ถูกใช้เป็นต้นแบบของเมืองอิโตมิ (Itomori) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมิทซึวะ สถานที่สำคัญที่จะทำให้ทาคิและมิทซึวะสามารถเข้าถึงความจริงได้ และยังเป็นฉากไคล์แมกซ์ของเรื่องโดยเป็นที่ตั้งของแท่นบูชาเทพเจ้าที่ทำให้ทาคิย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตก่อนที่เมืองอิโตมิ จะเจออุกาบาตพุ่งชนและเป็นสถานที่แรกที่ทั้งคู่ได้พบกัน
เกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลตั้งอยู่ทางทิศใต้ของฮาชิโจจิมะ ลักษณะของเกาะคล้ายหลุมอุกาบาตขนาดใหญ่ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เกาะเขตร้อนอันลี้ลับของญี่ปุ่น” เนื่องจากการเดินทางที่เข้าถึงยาก มีประชากรประมาณ 200 คน มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชัน

สถานที่จัดเทศกาล Sanno Matsuri หนึ่งในสามของเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14-15 เมษายนของทุกปี
โดยจะมีการจัดการแสดงและกิจกกรมแบบโบราณ ทั้งยังมีความเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะให้พรเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนในครอบครัวดังนั้นหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวแล้วก็อย่าลืมกราบไหว้ขอพรให้กับคนในครอบครัวกันได้
ศาลเจ้าฮิดะถูกใช้เป็นต้นแบบของศาลเจ้าประจำตระกูลมิยามิซุ (Miyamizu) ตระกูลของมิซึฮะในเมืองอิโตมิทั้งยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์
ของเมืองในเรื่องด้วย โดยจะมีคุณยายของมิซึฮะดูแลอยู่และเธอกับน้องสาวมิโกะต้องเข้าร่วมพิธีที่สืบต่อมาแต่โบราณ ทั้งนี้ในภาพยนตร์เองก็ได้มีการหยิบยกเอากิจกรรม Takayama ซึ่งเป็นกิจกรรมของศาลเจ้าฮิดะมาใส่ประกอบเรื่องไว้ด้วยเช่นกัน

เป็นอีกหนึ่งฉากสำคัญที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองอิโตมิ สถานที่ที่ทาคิในร่างมิซึวะพบเห็นและสร้างความทรงจำไว้แล้วนำไปวาดรูปเพื่อตามหาความจริงเกี่ยวกับเมืองในเวลาต่อมา ตั้งอยู่ในใจกลางของจังหวัดนางาโนะ ถือเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด
มีความยาวรอบทะเลสาบประมาณ 15.9 กิโลเมตร
กิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือการชมเทศกาลพลุกลางทะเลสาบในช่วงฤดูร้อนโดยจะมีการแสดงดอกไม้ไฟสวยงามของทุกค่ำคืนในช่วงเทศกาล และอีกหนึ่งไฮท์ไลท์สำหรับฤดูหนาว ในชื่อ โอมิวาตาริ (Omiwatari) ที่แปลว่า “ทางเดินของพระเจ้า”
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่พิเศษและหาชมได้ยากยิ่งจากการทำปฏิกิริยากันระหว่างพื้นน้ำแข็งทะเลสาบและอุณหภูมิที่ลดต่ำลง
ในเวลากลางคืนจนเกิดรอยแยกแตกเสียงดังแทงขึ้นมาคล้ายกับแนวภูเขาน้ำแข็งขนาดย่อม