ข้าพเจ้าขอแสดงเจตน์จำนงในการจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษซึ่งเป็นตำแหน่งและวิทยฐานะที่ดำรงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อำนวยการการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้

  1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยของผู้เรียน ยังพบปัญหาอย่างมากในการคิด วิเคราะห์ และการขาดความใส่ใจในการเรียนภาษาไทยเพราะนักเรียนส่วนใหญ่เห็นความสำคัญน้อยเพราะคิดว่าเป็นวิชาที่น่าเบื่อ ซึ่งแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร เนื่องมาจากบริบทของสิ่งแวดล้อม การเข้าถึงสื่อ/เทคโนโลยีของผู้เรียน จึงส่งผลให้การจัดการเรียนรู้ต่อผู้เรียนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้วิชาภาษาไทยที่ดีขึ้น ครูผู้สอนจึงใช้วิธีเรียนรู้แบบเชิงรุก ด้วยการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ 5 Steps ควบคู่กับการใช้แหล่งเรียนรู้เทคโนโลยี ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาการเรียนของผู้เรียน อันจะส่งผลให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ และในปัจจุบันการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ผู้เรียนสามารถค้นคว้าความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น แหล่งเรียนรู้จากสื่อ ICT คลิปวีดีโอ จากยูทูป ซึ่งมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาที่เป็นทักษะมาก  เพราะเป็นสื่อการสอนที่ช่วยลดภาระของครู ช่วยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะให้ดีขึ้น ส่งเสริมในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล ช่วยเสริมทักษะ รวมทั้งเป็นเครื่องมือวัดผลการเรียนหลังจากเรียนบทเรียนแล้ว ตลอดจนผู้เรียนสามารถทบทวนได้ด้วยตนเอง ผู้เรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียน เพื่อให้กิจกรรมมีความหลากหลาย ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกฝนทักษะได้ทุกเวลาจากเทคโนโลยี

   2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

           2.1 พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้กับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ด้วยการศึกษาตัวชี้วัดตามมาตรฐานการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของกระทรวงศึกษาธิการ      

          2.2 ดำเนินการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ 5 Steps ให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน

             ขั้นตอนที่ 1 การเรียนรู้ตั้งคำถาม หรือขั้นตั้งคำถาม ให้นักเรียนฝึกสังเกตสถานการณ์ ปรากฏการณ์ต่างๆ จนเกิดความสงสัย จากนั้นฝึกให้เด็กตั้งคำถามสำคัญ รวมทั้งการคาดคะเนคำตอบ ด้วยการสืบค้นความรู้จากแหล่งต่างๆ และสรุปคำตอบชั่วคราว 

             ขั้นตอนที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ  เป็นขั้นตอนการออกแบบ/วางแผนเพื่อรวบรวมข้อมูล สารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ รวมทั้งการทดลองเป็นขั้นที่เด็กใช้หลักการนิรภัย (Deduction reasoning) เพื่อการออกแบบข้อมูล

               ขั้นตอนที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้  เป็นขั้นตอนที่เด็กมีการคิดวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การสื่อความหมายข้อมูลด้วยแบบต่างๆ หรือด้วยผังกราฟิก การแปรผล จนถึงการสรุปผล หรือการสร้างคำอธิบาย เป็นการสร้างองค์ความรู้

               ขั้นตอนที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร คือ ขั้นนำเสนอความรู้ด้วยการมใช้ภาษาที่ถูกต้อง ชัดเจน และเป็นที่เข้าใจ อาจเป็นการนำเสนอภาษา และนำเสนอด้วยวาจา

               ขั้นตอนที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม เป็นขั้นตอนการฝึกเด็กให้นำความรู้ที่เข้าใจ นำการเรียนรู้ไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวม หรือเห็นต่อประโยชน์ส่วนรวมด้วยการทำงานเป็นกลุ่ม ร่วมสร้างผลงานที่ได้จากการแก้ปัญหาสังคมอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งอาจเป็นความรู้ แนวทางสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งอาจเป็นนวัตกรรม ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม อันเป็นการแสดงออกของการเกื้อกูล และแบ่งปันให้สังคมมีสันติอย่างยั่งยืน

          2.3 ครูผู้สอนติดตามความก้าวหน้าจากการตรวจแบบฝึกหัด และกระบวนการคิด วิเคราะห์ และนำไปสู่การแก้ปัญหา  การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยี จนสามารถผลิตผลงานหรือนวัตกรรมเป็นผลงานของผู้เรียน

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

       3.1 เชิงปริมาณ

          1. นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนลาดยาววิทยาคม ร้อยละ 90 ที่เรียนในรายวิชาภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์การวัดผลประเมินผล 

               2. นักเรียนมีผลงานที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์องค์ความรู้ด้วยตนเอง อย่างน้อย 1 ชิ้นงาน  

       3.2 เชิงคุณภาพ

               มีการพัฒนาการเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้วยกระบวนการ 5 steps ควบคู่กับกับการใช้แหล่งเรียนรู้เทคโนโลยี