เนื้อหาบทเรียน

บทที่ 1 พลังงานเสียง

การเกิดเสียง

การเดินทางของเสียง

             อาศัยอากาศเป็นตัวกลางในการเดินทางมาถึงหู ซึ่งแหล่งกำเนิดเสียงจะทำให้อากาศรอบ ๆ สั่นสะเทือนออกไปในทุกทิศทาง ตัวกลางที่ถ่ายทอดเสียงได้ดีที่สุดคือของแข็ง ของเหลว และอากาศหรือแก๊ส ตามลำดับ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเสียงดัง 

 การสะท้อนของเสียง

                    เมื่อเสียงเดินทางไปกระทบสิ่งกีดขวางจะเกิดการสะท้อน โดยจะสะท้อนได้ดีกับวัตถุแข็งและผิวเรียบ เสียงที่สะท้อนกลับมาเรียกว่า เสียงก้อง 

                     ในห้องแสดงดนตรีจะป้องกันการเกิดเสียงก้อง โดยการนำวัสดุดูดกลืนเสียงมาบุผนังห้อง ทำให้ผู้ฟังได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงโดยตรง 

ธรรมชาติของเสียง

ระดับของเสียง

                มีความสัมพันธ์กับความถี่ของเสียง สามารถนำมาสร้างเป็นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด ทำให้เกิดเสียงได้หลายความถี่  ความสามารถในการได้ยินเสียงของสัตว์

  ความดังของเสียง

                    คือ ความรู้สึกได้ยินว่าดังมากหรือดังน้อย มีความสัมพันธ์กับความเข้มเสียง ซึ่งเป็นพลังงานเสียงที่ตกตั้งฉากบนหนึ่งหน่วยพื้นที่ในหนึ่งหน่วยเวลา มีหน่วยเป็นวัตต์/ตารางเมตร ความดังของเสียงจะเพิ่มขึ้นตามความเข้มเสียง และระยะห่างจากแหล่งกำเนิดเสียง

                   มาตรฐานระดับความเข้มเสียงมีหน่วยคือ เดซิเบล (dB) โดยเริ่มจาก 0 dB เป็นเสียงที่ค่อยเกินกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน

                    เสียงกระซิบมีความดังประมาณ 20 dB

                    เสียงสนทนาอยู่ระหว่าง 40–60 dB

                    เกินกว่า 90 dB จะเป็นอันตรายต่อหู หรือผู้ที่ต้องอยู่ในบริเวณที่ดังเกิน 80 dB แต่ไม่ถึง 90 dB เป็นเวลานาน ๆ ก็จะเป็นอันตรายได้เช่นกัน 

อวัยวะรับเสียง

          คือ หู มี 3 ส่วน คือ หูชั้นนอก ได้แก่ ใบหูและรูหู หูชั้นกลาง ได้แก่ เยื่อแก้วหูและกระดูกเล็ก ๆ 3 ชิ้น คือ กระดูกค้อน กระดูกทั่ง และกระดูกโกลน และหูชั้นใน ประกอบด้วย กระดูกก้นหอย 

                   การได้ยินเสียงแต่ละครั้งเริ่มต้นที่หูจะรับการสั่นจากคลื่นเสียง โดยมีใบหูช่วยสะท้อนคลื่นเสียงเข้าไปในรูหู จะทำให้กระดูกค้อน กระดูกทั่ง และกระดูกโกลนสั่น แล้วส่งสัญญาณไปยังกระดูกก้นหอย ซึ่งของเหลวภายในหูจะถูกดันให้เป็นคลื่นจังหวะเดียวกับเสียง และส่งสัญญาณต่อไปยังสมอง 

 เสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญ เรียกว่า มลพิษทางเสียง อันตรายมีดังนี้

                    1. ทำให้หูหนวกเฉียบพลัน เกิดจากได้ยินเสียงดังมาก ๆ ทันที

                    2. ทำให้หูหนวกชั่วคราวหรือหูหนวกถาวร เกิดจากการอยู่ในที่ที่มีเสียงดังมากเป็นเวลานาน ๆ

                    3. รบกวนการพักผ่อนและทำให้เสียสุขภาพ

                    4. ก่อให้เกิดความรำคาญและเสียสุขภาพจิต

                    5. ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 

  การแก้ปัญหา

                   1. ดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี

                   2. ไม่ควรบรรทุกสัมภาระมากไป หรือขับด้วยความเร็วสูงหรือเร่งเครื่องแรง ๆ

                   3. ไม่ควรใช้แตรลมหรือบีบแตรโดยไม่จำเป็น

                   4. ควรใช้เครื่องป้องกันหูหรือใช้สำลีอุดหู รวมทั้งสร้างกำแพงกั้นเสียงหรือปลูกต้นไม้ตามแนวบ้าน