วัตถุประสงค์
1. บอกถึงข้อได้เปรียบและข้อเสียเปรียบของวิธีการติดตาได้
2. บอกถึงขั้นตอนต่างๆ ในการติดตาได้อย่างถูกต้อง
3. บอกถึงเหตุผลของการเลือกใช้วิธีการติดตาแบบต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
การติดตาเป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชอีกวิธีหนึ่งที่นำชิ้นส่วนของตา เพียงตาเดียวของต้นพันธุ์หนึ่งมาเชื่อมต่อกับเนื้อเยื่อของต้นอีกพันธุ์หนึ่ง เพื่อวัตถุประสงค์ต้องการเปลี่ยนพันธุ์เดิมจากตาที่จะเจริญเติบโตเป็นกิ่งก้าน และสามารถออกดอกติดผลเป็นพันธุ์ที่ต้องการได้ อาจเรียกการติดตาว่า bud grafting
วิธีการติดตาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าการต่อกิ่งและประสพผลสำเร็จ สูงถึง 90 - 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นวิธีที่นักขยายพันธุ์พืชนิยมเลือกใช้ ในการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นการติดตายังเป็นวิธีการที่ใช้ชิ้นส่วนของ กิ่งพันธุ์ดีในการขยายพันธุ์ต้นใหม่ได้จำนวนมากและยังไม่สิ้นเปลืองกิ่ง พันธุ์ดี ถ้าไม่สามารถหากิ่งพันธุ์ดีได้ในปริมาณมากนัก การติดตาจึงเป็น การประหยัดกิ่งพันธุ์ดีได้มากกว่าการต่อกิ่งเนื่องจากตาเดียวสามารถให้ ต้นใหม่ได้จำนวนมาก เมื่อแผ่นตาเกิดรอยเชื่อมประสานกับต้นตอแล้ว ยังจะให้รอยต่อที่แข็งแรงกว่าการต่อกิ่งบางวิธีด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะแรก หลังจากการเชื่อมต่อแล้วกิ่งพันธุ์ดีจะไม่ฉีกออกง่ายเมื่อ มีลมแรง
การเลือกต้นตอสำหรับการติดตา
สามารถใช้กับต้นที่มีอายุน้อยหรือกิ่งขนาดเล็กกิ่งที่มีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 0.25-1.00 นิ้ว อาจได้มาจากการปักชำกิ่งหรือ ตอนกิ่งก็ได้ แต่นิยมเลือกใช้ต้นตอที่ได้มาจากการเพาะเมล็ดที่มีอายุ ประมาณหนึ่งปีหรือสองปีจะได้ระบบรากแล้วของต้นตอด้วยต้นตอที่มี ความสมบูรณ์จะ มีความแข็งแรงและเกิดการเชื่อมประสานแผลได้ดี กว่าต้นที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี
ควรได้จากกิ่งที่สมบูรณ์มีอายุไม่เกินหนึ่งปี ตาที่จะเลือกมาใช้ควรอยู่ในระยะ พักตัวยังไม่เจริญออกมาเป็นใบอ่อนหรือกิ่งก้านหรือตาที่สมบูรณ์พร้อมที่จะ เจริญเติบโตเป็นกิ่งได้ ตาที่เล็กและไม่สมบูรณ์เพียงพอมักจะใช้ได้ไม่ดี ไม่มี การแตกตาออกมา กิ่งพันธุ์ที่เลือกมาควรอยู่ในสภาพใหม่และสด เมื่อตัดจาก ต้นแล้วควรริดใบออกเหลือไว้เฉพาะก้านใบสำหรับใช้จับขณะทำการติดตา ถ้าตัดมากิ่งจากต้นแม่แล้วควรใช้ในวันนั้น จะทำให้ประสพผลสำเร็จได้ดีกว่า เก็บกิ่งไว้นาน แต่ถ้าจำเป็นต้องเก็บรักษากิ่งพันธุ์ดีไว้จะต้องคงสภาพความสด ไม่ควรอยู่ในสภาพแห้ง จึงใช้กระดาษห่อแล้ว นำใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้ใน สภาพที่มีอุณหภูมิต่ำ
การเลือกตาที่จะนำมาติดนั้นจะต้องเป็นตาใบ (leaf bud) จะมีลักษณะเรียวแหลมกว่า ตาดอก (flower bud) ตำแหน่งของ ตาดอกมักจะอยู่บริเวณโคนกิ่งหรือส่วนปลายกิ่งจึงควรหลีกเลี่ยง ไม่นำมาใช้
ตำแหน่งในการติดตาบนต้นตอควรอยู่ทางด้านทิศเหนือ ของกิ่งถ้าสามารถเลือกได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแดดโดยตรง บริเวณที่ติดตาควรอยู่ระหว่างข้อของกิ่งที่เรียบ อาจสูงจาก ระดับผิวดิน 1-2 นิ้ว ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นตอและวัตถุ ประสงค์ของการติดตาด้วย ต้นตอที่แข็งแรงสมบูรณ์จะช่วย ให้ตาเจริญได้เร็ว หลังจากติดตาได้ 10-14 วัน จึงตัดต้นตอ เหนือตาหรือกรีดเป็นรอยเหนือตาที่ติดไว้เพื่อกระตุ้นให้แตก ตาได้ดีขึ้น
เมื่อตาเริ่มเจริญแล้วให้กรีดวัสดุพันตาออกด้วย ถ้าปล่อยไว้จะทำให้ตาคุดอยู่ อาจตายได้และต้องคอยดูแลตัดยอดของกิ่งที่เจริญขึ้นจากต้นตอเพื่อไม่ให้แย่ง อาหารและบ่มการเจริญของกิ่งพันธุ์ดีที่เจริญจากตาที่ติดไว้ได้ ตาที่เจริญยาว ออกมามีใบมากพอสมควรอาจใช้หลักผูกยึดไว้ในระยะแรกป้องกันการฉีกหักก็ได้
การติดตาให้ประสพผลสำเร็จจะต้องเลือกใช้ต้นตอและกิ่งพันธุ์ดีที่แข็งแรง ผู้ปฏิบัติงานจะต้องมีความชำนาญ สามารถเตรียมแผลบนต้นตอและเฉือนแผ่นตา โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อช้ำหรือเสียหายมากนัก เครื่องมือที่ใช้ในการทำงาน เช่น มีด เฉือนกิ่งต้องสะอาดและคมเพียงพอสำหรับใช้งานได้ดี จึงจะต้องหมั่นทำความ สะอาดและลับมีดเป็นประจำ
การเตรียมต้นตอควรทำไว้ก่อนการเฉือนแผ่นตามาสอดเข้าไปบนกิ่งต้นตอ ที่เตรียมไว้เพราะเนื้อเยื่อแผ่นตาของกิ่งพันธุ์ดีจะได้ไม่แห้ง การทำงานให้รวดเร็จจึง อาจใช้สองคนโดยคนหนึ่งทำหน้าที่เตรียมกิ่งและเฉือนแผ่นตา ส่วนอีกคนหนึ่งทำ หน้าที่พันผ้าพลาสติกให้ จะทำงานได้สะดวกและรวดเร็วภายในหนึ่งวันอาจติดตาได้ มากกว่าหนึ่งพันต้น