หน่วยที่ 1 พัฒนาการด้านสังคม 3-6 ปี
หน่วยที่ 1 พัฒนาการด้านสังคม 3-6 ปี
.........พัฒนาการด้านสังคม ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจตนเองและผู้อื่น มีการปรับตัวได้อย่างเหมาะสม และสามารถ
อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุข พัฒนาการด้านสังคมเกิดขึ้นตั้งแต่วัยทารก หากทารกได้รับการตอบสนอง
อย่างเหมาะสม จะมีความไว้วางใจผู้เลี้ยงดู ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการด้านสังคมที่สำคัญ เมื่ออายุมากขึ้นเด็กจะ
มีการพัฒนาที่ซับซ้อนมากขึ้น จะเริ่มอยากเล่นกับเพื่อน มีกลุ่มเพื่อนสนิท ได้เล่น ได้แสดงความรู้สึก ได้เรียนรู้ข้อตกลง
กฎเกณฑ์ต่างๆ ของสังคมตามวัยแต่ละช่วงอายุ
1.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 3 ปี
ด้านสังคม การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นยังไม่แน่นอนแล้วแต่อารมณ์ของเด็ก เด็กวัยนี้เป็นวัยที่ชอบเล่นคนเดียว หรือเล่นสมมุติมากกว่าจะเล่นกับคนอื่น ชอบเล่นแบบคู่ขนาน คือ เล่นของเล่นชนิดเดียวกันแต่ต่างคนต่างเล่น ขณะที่เล่นชอบออกคำสั่ง ทำหรือพูดเหมือนกับสิ่งนั้นมีชีวิต รู้จักการรอคอย เริ่มปฏิบัติตามกฎ กติกาง่ายๆ รู้จักทำงานที่ได้รับมอบหมาย เริ่มรู้ว่าสิ่งใดเป็นของคนอื่น
2.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 4 ปี
ด้านสังคม เริ่มเล่นร่วมกับผู้อื่นได้ แต่มักจะเป็นเพศเดียวกันกับตนมากกว่า มักโกรธกันแต่ไม่นานเด็กก็จะกลับมาเล่นกันอีก รู้จักการให้อภัย การขอโทษ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย รู้จักเก็บของเล่น มีมารยาทในการอยู่ร่วมกัน
3.พัฒนาการทางสังคมของเด็กวัยระหว่าง 5-6 ปี
ด้านสังคม เล่นกับเพื่อนโดยไม่เลือกเพศและสามารถฝึกกติกาง่ายๆในการเล่นได้ สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ เล่นหรือทำงานโดยมีจุดหมายเดียวกัน รู้จักไหว้ทำความเคารพเมื่อพบผู้ใหญ่
สรุปพัฒนาการทางสังคม คือ พัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับเด็กเช่นการเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการแบ่งปัน การรอคอย และปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคมที่เด็กได้อยู่อาศัย
พัฒนาการทางด้านสังคมของเด็กปฐมวัยในช่วงเริ่มต้นวัยเด็กยังมีความสัมพันธ์เฉพาะกับคนในครอบครัว และยังยึดติดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่เมื่อเข้าสู่วัย 3-4 ขวบ เด็กเริ่มมีความสัมพันธ์กับคนภายนอกการเลี้ยงดูที่ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสังคมของเด็กปฐมวัยพ่อแม่ควรคำนึงถึงสิ่งต่างๆดังนี้
1.การเล่น
การทำกิจกรรมต่างๆช่วยพัฒนาการทางด้านสังคม เพราะการเล่นทำให้เด็กได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ช่วยให้มีโอกาสฝึกวิธีเข้าสังคมเรียนรู้การที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น นอกจากนั้นถ้าพ่อแม่ได้สังเกตขณะที่เด็กกำลังเล่นหรือทำกิจกรรม พ่อแม่จะสังเกตเห็นว่าเด็กจะเรียนรู้การรอคอย การเล่นเรียนรู้วิธีเล่นกับผู้อื่น เรียนรู้การแบ่งปันของเล่นให้เพื่อนในกลุ่มที่เล่นอยู่ด้วยกัน การแลกเปลี่ยนของเล่น ผลัดเปลี่ยนกันเล่นบ้าง บางครั้งก็เป็นผู้นำในการเล่นเครื่องเล่นหรือของเล่นต่างๆ บางครั้งก็เป็นผู้ตามที่ดี อีกทั้งยังรู้จักรักษากติกาการเล่น รู้จักแพ้ชนะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเตรียมให้เด็กวัยนี้รู้จักปรับตัวในสังคมได้ดีเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
2.การพาเด็กไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ
ทำให้เด็กได้รู้จักสังคมนอกบ้าน ได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน เช่น พาไปเที่ยวสวนสัตว์ ขณะที่เดินดูตามกรงสัตว์ เด็กจะเห็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน การแบ่งปันอาหารกัน ขณะเดียวกันพ่อแม่ได้พูดคุยสอนเด็กถึงการอยู่ร่วมกันของสัตว์ การพึ่งพาอาศัยกัน การแบ่งปัน การเสียสละ ซึ่งเด็กจะได้เห็นด้วยตนเองเป็นการศึกษาจากของจริงเด็กจะค่อยๆเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน การอาศัยซึ่งกันและกัน การแบ่งปัน เป็นการส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมของเด็ก
3.การพาเด็กไปพบญาติพี่น้อง
ลูกๆหลานๆ ในวัยเดียวกันหรือพ่อแม่พาไปบ้านเพื่อน ของพ่อแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเดียวกัน ให้เด็กๆได้อยู่ร่วมกันเพื่อเป็นการฝึกให้รู้จักอยู่ร่วมกับผู้อื่น รู้จักปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น เพื่อเป็นการปูพื้นฐานในการเข้าสังคม และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในวัยต่อมา
การส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสังคม สำหรับเด็กปฐมวัยเริ่มจากครอบครัวให้เด็กได้เล่น หรือ ทำกิจกรรมต่างๆกับผู้อื่น พาเด็กไปเที่ยวให้เด็กรู้จักสังคมนอกบ้าน พาเด็กไปพบญาติพี่น้อง ให้เด็กได้อยู่ร่วมกับเพื่อน เพื่อให้เด็กรู้จักการปรับตัวเข้ากับบุคคลอื่นและอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข
มีทักษะการช่วยเหลือตัวเองที่ดีขึ้น เช่น การทานอาหาร ขับถ่าย แปรงฟัน แต่งตัวด้วยตัวเอง
มีพัฒนาการทางภาษา สามารถสื่อสารบอกความต้องการกับผู้อื่นได้ดีขึ้น
มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวมมากขึ้น เช่น เมื่อเล่นของเล่นเสร็จ ก็นำของเล่นเก็บเข้าที่
มีความยับยั้งชั่งใจ สามารถรอคอยได้ดีขึ้น เช่น เมื่อต้องเล่นสลับตากันกับเพื่อน ก็สามารถรอให้เพื่อนเล่นเสร็จก่อนแล้วตนเองจึง
จะเล่นต่อ
ได้เจอกับอุปสรรค หรือสิ่งที่ไม่ถูกใจ รู้จักแพ้-ชนะ และรู้จักความผิดหวังมากขึ้น เป็นโอกาสที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ และพัฒนาการ
จัดการและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น
รู้จักการเป็นผู้ให้ แบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
เรียนรู้ที่จะปรับตัวในด้านต่างๆเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเหมาะสม