ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมา งานประเพณีไหลเรือไฟ หรือ เฮือไฟ เป็นประเพณีที่จัดขึ้นทั่วไปในหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยเฉพาะ จังหวัดที่ตั้งอยู่ติดลำน้ำ เช่น แม่น้ำมูล–ชี แม่น้ำโขง เป็นต้น การไหลเรือไฟในภาคอีสานเริ่มต้นครั้งแรก เมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด สันนิษฐานว่าคงมีมาก่อนที่พุทธศาสนาจะเผยแพร่มาสู่ประเทศไทย เพราะสมัยก่อนกษัตริย์ไทยยึดถือพิธีพราหมณ์อยู่ โดยได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียสมัยที่นำอารยธรรม เข้ามาเผยแพร่ในแถบสุวรรณภูมิ พบว่าประเพณีงานบุญโดดเด่นที่จัดขึ้นในภาคอีสานมักผูกพันกับเรื่อง ของไฟเกือบทั้งสิ้น เช่น งานแห่เทียนเข้าพรรษา บุญบั้งไฟ พิธีไหลเรือไฟ เพราะมีความเชื่อว่า “ ไฟ ” เป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า เทพอัคคี มีฐานะรองจากพระอินทร์ สามารถเผาผลาญ สิ่งชั่วร้ายและขจัดความทุกข์ยากให้ดับสลายไปได้ จังหวัดต่างๆ ที่มีการจัดประเพณีไหลเรือไฟ เช่น จังหวัดศรีษะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดนครพนม จังหวัดหนองคาย จังหวัดอุบลราชธานี ฯลฯ มักจัดขึ้น คล้ายคลึงกัน แต่ก็แตกต่างกันในด้านคติ ความเชื่อ จังหวัดอุบลราชธานี มีความเชื่อว่า
- เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท
- เป็นการบูชาพระรัตนตรัยและพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ อันได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคนโม และพระอาริยเมตไตรย
- เป็นการบูชาคุณแม่โพสพ คือ บูชาพานข้าว
- เป็นการบูชาประทีปตามประเพณี
- เป็นการบูชาดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ
ในความเชื่อเรื่อง การบูชาบรรพบุรุษ หรือพกาพรหม ปรากฏตามนิทานชาวบ้านที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งมีกาเผือกสองผัวเมียทำรังอาศัยอยู่บนต้นไม้ในป่าหิมพานต์ใกล้กับ ฝั่งแม่น้ำ วันหนึ่งกาตัวผู้บิน จากรังไปหากินเผอิญหลงทางกลับรังไม่ได้ จึงบินกระเจิดกระเจิงหายไป กาตัวเมียที่กำลังกกไข่อยู่ 5 ฟอง จึงเสียใจจนตายไป และไปเกิดใหม่ในพรหมโลก ชื่อท้าวพกาพรหม
ส่วนไข่ทั้ง 5 ฟอง มีผู้นำไปรักษาไว้ดังนี้ ฟองแรกแม่ไก่เอาไป ฟองที่ 2 แม่นาคเอาไป ฟองที่ 3 แม่เต่าเอาไป ฟองที่ 4 แม่โคเอาไป และฟองสุดท้ายแม่ราชสีห์เอาไป ครั้นเมื่อไข่ครบกำหนดฟักแตก ออกมากลับเป็นมนุษย์ไม่ใช่ลูกกาตามปกติ ครั้นเมื่อทั้ง 5 โตเป็นหนุ่มเห็นโทษของการเป็นฆราวาสและ เห็นถึงอานิสงส์แห่งการบรรพชา จึงได้ลามารดาเลี้ยงออกบวชเป็นฤาษีอยู่ในป่าหิมพานต์ วันหนึ่งฤาษีทั้ง 5 ได้มาพบกันจึงได้ไต่ถามเรื่องราวของกันและกัน และพร้อมใจกันอธิษฐานว่า ถ้าต่อไปจะได้เป็นองค์ สมเด็จพระพุทธเจ้าขอให้ร้อนไปถึงมารดาด้วยแรงอธิษฐานครั้งนั้นได้ร้อนไปถึง ท้าวพกาพรหมต้องเสด็จ จากพรหมโลก จำแลงองค์เป็นกาเผือกบินมาเกาะบนต้นไม้ตรงหน้าฤาษีทั้ง 5 และเล่าเรื่องเดิมให้ฟังและ กล่าวว่า “ถ้าคิดถึงแม่ เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 11 และเดือน 12 ให้เอาด้ายดิบผูกไม้ตีนกาปักธูปเทียนบูชา ลอยกระทงในแม่น้ำเถิด ทำอย่างนี้เรียกว่า " คิดถึงแม่ " เมื่อบอกเสร็จท้าวพกาพรหมก็ลากลับไปจน กลายมาเป็นที่มาของการลอยกระทงและไหลเรือไฟ