สาระการเรียนรู้
Listening: การฟังบุคคลพูดเกี่ยวกับการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา
Speaking: การพูดสัมภาษณ์บุคคลจากเรื่องที่อ่าน, การพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยว
กับเรื่องที่อ่าน
Reading: การอ่านบทความ (Skill: reading for specific information;
summarising)
Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาที่มีชื่อเสียง
Vocabulary
judge (v): to assess how well sb does in a competion
patterns (n): a group of shapes, lines, colours, etc. in a line or arrangement
drain (v): to use up
exhausted (adj): drained
balance (n): the state of being able to stand in a steady position
tournament (n): a series of contests between a number of competitors, who compete
for an overall prize
typically (adv): in most cases; usually
aerobic (adj): relating to exercise that is good for the heart
day-to-day (adj): daily
significant (adj): notable
routine (n): (of exercise) an activity that you do again and again
Vocabulary
mushers (n) dog sled drivers ( คนขับสุนัขลากเลื่อนผ่านนำ้แข็ง /หิมะ)
•line up (v) take position in readiness for an event ( ประจำตำแหน่ง/ผู้เล่นตัวจริง)
•paw the ground repeatedly move its foot over the ground (animal) (ตะกุยเท้าเตรียมพร้อม)
•be off (v) get started ( เริ่มต้นไปแล้ว)
•onlookers (n) spectators (ผู้เข้าชม, ผู้เห็นเหตุการณ์)
•cheer (v) applaud, shout ‘hurray’( การส่งเสียงเชียร์)
•encourage (v) urge, cheer sb on ( กระตุ้น)
•toughest (adj) hardest, the most difficult ( ยากมาก,ลำบากมาก)
guide (v)  lead, show the way ( นำ, นำทาง)
•on the trail (n)  on a route along a series of paths or roads (เส้นทางการแข่งขัน)
•rest (v) take a break, stop for a while ( พัก, หยุดพัก)
•disciplined (adj) trained to behave/work in a strictly controlled way (วินัย)
•win (v) come first in a competition/race (ชนะ)
•thick fur (n) dense animal hair ( ขน(ของสัตว์)หนาทึบ ,หนาแน่น)
•vets (n) people whose job is to treat sick or injured animals (สัตวแพทย์)
•mail (n) letters and parcels sent via the postal service
•snowmobiles (n) small vehicles used for moving across snow or ice (รถเล็กสำหรับวิ่งบนหิมะ หรือ น้ำแข็ง)
•dying out (v) becoming less common (กำลังจะตาย, อ่อนแรง,ใจจะขาด )
•challenging (adj) needing great effort and determination (ท้าทายความสามารถ)
•crossing (v) travelling over/through sth, e.g. river (การข้าม)
•icy (adj) frozen (หนาวมากซึ่งเป็นน้ำแข็ง)
•valleys (n) low land between hills or mountains (หุบเขา)
•odd-numbered (adj) numbers such as 1, 3, 5, 7, 9 (เลขคี่)
•even-numbered (adj) numbers such as 0, 2, 4, 6, 8 (เลขคู่)
•challenge (n) sth new and difficult which requires effort and determination
(การท้าทาย)
•cope with (v) deal with (จัดการกับ)
•head (v) go or make your way towards somewhere (มุ่งหน้า)
pros and cons (idm) คุณและโทษ, เหตุผลสนับสนุนและเหตุผลค้าน [the advantages and disadvantages of sth]
ตัวอย่าง
We're just weighing up the pros and cons of moving to a bigger house.
http://www.iditarod.com และ http://www.dogsled.com
Last Great Race
· ประวัติการแข่งขันสุนัขลากเลื่อนรายการ Iditarod Trail Sled Dog Race
การแข่งขันสุนัขลากเลื่อนรายการ Iditarod Trail Sled Dog Race ซึ่งจัดขึ้นทุกฤดูใบไม้ผลิในรัฐ อลาสก้า ถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ทรหดที่สุดในโลก ทีมสุนัขลากเลื่อนทีมต่างๆ จะต้องเดินทางบนผืนน้ำแข็งเป็นระยะทาง 1,770 กิโลเมตร นาน 8-15 วัน การชิงชัยรายการนี้ จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่ทรหดยิ่งกว่า นั่นคือการเดินทางโดยใช้สุนัขลากเลื่อนเพื่อขนเซรุ่ม ต้านโรคคอตีบไปยังเมืองโนม รัฐอลาสก้า ในปี พ.ศ. 2468 ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้นไม่ใช่แค่การแข่งขันเพื่อชิงถ้วยรางวัล แต่เป็นการแข่งเพื่อชีวิตของตัวเองด้วย และหากปราศจากการทุ่มเทแรงกายโดยไม่คำนึงถึงตัวเองของสุนัขที่ยิ่งใหญ่หลายสิบตัว รวมทั้งสุนัขลากเลื่อนอีกสองตัวที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงแล้ว ความพยายามนี้ก็คงสูญเปล่า เรื่องราวการผจญภัยเริ่มต้นในฤดูหนาวของปี พ.ศ. 2468 เมื่อเกิดการระบาดของโรคคอตีบที่อันตรายถึงชีวิตในเมืองโนมซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของสหรัฐฯ แหล่งยาต้านโรคที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปประมาณ 1,610 กิโลเมตรในเมืองแองคอริจ เนื่องจากไม่มีถนนและทางรถไฟเชื่อมต่อเมืองทั้งสอง รวมทั้งไม่มีเครื่องบินให้บริการ ผนวกกับสภาพอากาศที่กำลังหนาวเหน็บอย่างรุนแรงในแถบขั้วโลกเหนือ จุดเล็กๆ บนแผนที่จุดนี้จึงเป็นเมืองที่โดดเดี่ยวราวกับอยู่บนดวงจันทร์ การเดินทางวิธีเดียวที่สามารถทำได้คือการใช้สุนัขลากเลื่อนภาชนะบรรจุเซรุ่มหนัก 9 กิโลกรัมถูกขนขึ้นเหนือโดยรถไฟไปยังเมืองเนนานา เมืองเล็กๆ ในรัฐ อลาสก้า ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่รถไฟสามารถไปถึง แล้วในคืนวันที่ 27 มกราคม ยาต้านโรคก็ถูกส่งต่อๆ กันไปยังผู้ควบคุมสุนัขลากเลื่อนเกือบ 24 คน เพื่อมุ่งหน้าเดินทางไปยังเมืองโนมจนสำเร็จ บนเส้นทางอันหนาวเหน็บมีหิมะปกคลุมรวมระยะทาง 1,085 กิโลเมตร มีสุนัขมากกว่า 100 ตัว เข้าร่วมในการเดินทางครั้งนี้ แต่มีอยู่สองตัวเท่านั้นที่มีผลงานโดดเด่น ตัวแรกและเป็นตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ โตโก (Togo) สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ร่างใหญ่ที่เป็นจ่าฝูงของทีมงานลากเลื่อนของ ลีออนฮาร์ด เซปปาลา (Leonhard Seppala) สุนัขตัวนี้ซึ่งหนัก 22 กิโลกรัม กับทีมงานจำเป็นต้องเดินทางไกล 274 กิโลเมตรในสามวัน เพื่อไปให้ถึงจุดที่จะไปรับเซรุ่ม จากนั้นบรรดาสุนัขก็ต้องตะลุยฝ่าเส้นทางอันหฤโหดท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ขาวโพลนภายใต้อุณภูมิ -57 องศาเซลเซียส เซปปาลาไม่อาจมองเห็นเส้นทางได้ จึงต้องวางใจในตัวโตโกให้เป็นผู้ลากเลื่อนไปยังจุดหมาย ขณะที่โตโกนำทีมงานข้ามเขตนอร์ตันซาวน์ที่ไม่น่าวางใจ คณะเดินทางก็ติดอยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกมาจากน้ำแข็งผืนใหญ่ โตโกที่ยังคงสวมบังเหียนหนังและตัวยังติดสายบังเหียนอยู่ก็กระโจนสูงถึง 1.5 เมตร ไปยังแผ่นน้ำแข็งหนาๆ ทำให้สามารถพาตัวเองไปยังจุดที่ปลอดภัยได้ แต่บังเหียนของโตโกเกิดฉีกขาดระหว่างความพยายามครั้งนี้ ทว่าเจ้าตูบก็ยังใช้ฟันคาบบังเหียนขึ้นมาจากน้ำได้ แล้วโตโกก็ใช้ขากรรไกรคาบสายบังเหียนหนังลากเลื่อนพร้อมคณะเดินทางที่อยู่บนแผ่นน้ำแข็งย้อนเข้ามาหาผืนน้ำแข็งใหญ่จนทั้งหมดสามารถเดินทางต่อไปได้ โตโกต้องรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวในการทำงานครั้งนี้ ซึ่งทำให้เจ้าตูบขาเสียไปตลอดชีวิต..ประมาณ 80 กิโลเมตรนอกเมืองโนม เซรุ่มถูกส่งต่อไปยังทีมลากเลื่อนที่ยังสดชื่น นำทีมโดยสุนัขที่ชื่อ บัลโต (Balto) แล้วก็เป็นสุนัขตัวนี้ที่นำตัวยาไปถึงเมืองที่กำลังป่วยไข้ และกลายเป็นสุนัขที่ชื่อดังที่สุด รูปปั้นของบัลโตถูกสร้างตั้งตระหง่านอยู่ในเซ็นทรัลพาร์ค ในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ในปี พ.ศ. 2468 อย่างไรก็ตาม ผู้รู้ต่างเห็นว่า เซปปาลาและโตโกต่างหากที่เป็นพระเอกตัวจริง ถึงแม้โตโกจะกลายเป็นพระรองต่อจากบัลโต แต่โตโกก็ยังสร้างสิ่งที่ตกมาถึงอนุชนรุ่นหลังที่เป็นอมตะยิ่งกว่ารูปปั้นธรรมดา ภายหลังเกษียณจากการเป็นสุนัขลากเลื่อน โตโกก็มาเป็นหนึ่งในบรรดาพ่อพันธุ์รุ่นบุกเบิกของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้สมัยใหม่ แม้จะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2472 แต่ความแข็งแกร่งและความฉลาดของโตโกก็ยังสืบทอดต่อมาในตัวของเหล่าลูกหลานจำนวนมาก
(ที่มา: http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=170398.0
อ้างอิงจากหนังสือ 100 สุนัขผู้พลิกประวัติศาสตร์โลก, 2551)
Grammar in USe
Source: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/60890/-laneng-lan-
ลองสังเกตดูสองประโยคนี้
Lisa writes a letter. ลิซ่าเขียนจดหมาย
A letter is written by Lisa. จดหมายถูกเขียนโดยลิซ่า
จะเห็นว่าสองประโยคนี้สื่อความหมายอย่างเดียวกัน แต่ประโยคแรกประธานเป็นผู้กระทำ นั่นคือ Active Voice ซึ่งเป็นโครงสร้างประโยคที่คุ้นเคยกันตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ส่วนประโยคที่สองประธานเป็นผู้ถูกกระทำเรียกว่า Passive Voice
ดูเหมือนว่าประโยค Passive Voice จะเป็นการเปลี่ยนมาจากประโยค Active Voice โดยการสลับที่จากกรรมมาเป็นประธาน นั่นก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะยังมีเงื่อนไขอื่น ๆ ด้วย
หลักการเปลี่ยนประโยค Active Voice เป็น Passive Voice
1. นำกรรมของประโยค Active ไปเป็นประธานของประโยค Passive
2. ใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง คล้อยตามประธาน
3. เปลี่ยนคำกริยาแท้ให้เป็น V.3
4. นำประธานของ Active ไปเป็นกรรมของ Passive โดยวางไว้หลัง by
ตัวอย่าง
Active: Mom makes tea.
Passive: Tea is made by mom.
อย่างไรก็ตาม ถ้าในประโยคมี กรรมสองตัวคือ กรรมตรง (Direct Object) เป็นสิ่งของ และ กรรมรอง (Indirect Object) เป็นคน เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค Passive มักนำกรรมรอง (คน) มาเป็นประธาน แต่ถ้าจะนำกรรมตรง (สิ่งของ) มาเป็นประธานจะต้อง
ใส่ to ที่หน้ากรรมรอง (คน)
ตัวอย่าง
Active: She gave me the letter.
Passive: I was given the letter by her.
The letter was given to me by her.
ถึงตรงนี้แล้วน่าจะพอเข้าใจโครงสร้างและหลักการเปลี่ยนมาเป็นประโยค Passive Voice กันแล้ว แต่ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 12 Tense เจ้า Passive Voice ก็มีเอี่ยวเข้าไปเกี่ยวกับ 12 Tense เช่นกัน