แนวการจัดกิจกรรม
มีแนวทางการจัดกิจกรรมตามวิธีการลูกเสือ (Scout Method) ซึ่งมีองค์ประกอบ 7 ประการ คือ
1. คำปฏิญาณและกฎถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ลูกเสือทุกคนให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิบัติ ตามกฎของลูกเสือ กฎของลูกเสือมีไว้ให้ลูกเสือเป็นหลักในการปฏิบัติไม่ได้“ห้าม” ทำ หรือ “บังคับ” ให้ทำ แต่ถ้า “ทำ” ก็จะทำ ให้เกิดผลดีแก่ตัวเอง เป็นคนดีได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติ เชื่อถือได้ฯลฯ
2.เรียนรู้จากการกระทำเป็นการพัฒนาส่วนบุคคลความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของผลงานอยู่ที่การกระทำ ของ ตนเองทำให้มีความรู้ที่ชัดเจนและสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆด้วยตัวเองได้และท้าทายความสามารถของ ตนเอง
3. ระบบหมู่เป็นรากฐานอันแท้จริงของการลูกเสือเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันการยอมรับซึ่งกันและ กันการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบการช่วยเหลือซึ่งกันและกันซึ่งเป็นการเรียนรู้การใช้ประชาธิปไตยเบื้องต้น
4.การใช้สัญลักษณ์ร่วมกันฝึกให้มีความเป็นหนึ่งเดียวในการเป็นสมาชิกลูกเสือเนตรนารีด้วยการใช้ สัญลักษณ์ร่วมกันได้แก่เครื่องแบบ เครื่องหมายการทำความเคารพ รหัสคำปฏิญาณ กฎ คติพจน์คำขวัญ ธง เป็นต้น วิธีการนี้จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักและภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององค์การลูกเสือโลกซึ่งมีสมาชิก อยู่ทั่วโลกและเป็นองค์กรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโลก
5.การศึกษาธรรมชาติคือ สิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในกิจกรรมลูกเสือ ธรรมชาติอันโปร่งใสตามชนบท ป่า เขาป่าละเมาะและพุ่มไม้เป็นที่ปรารถนาอย่างยิ่งในการไปทำกิจกรรมกับธรรมชาติการปีนเขา ตั้งค่ายพักแรม ในสุดสัปดาห์หรือตามวาระของการอยู่ค่ายพักแรม ตามกฎระเบียบ เป็นที่เสน่หาแก่เด็กทุกคนถ้าขาดสิ่งนี้แล้ว ก็ไม่เรียกว่าใช้ชีวิตแบบลูกเสือ
6. ความก้าวหน้าในการเข้าร่วมกิจกรรมกิจกรรมต่าง ๆที่จัดให้เด็กทำต้องให้มีความก้าวหน้าและดึงดูด ใจสร้างให้เกิดความกระตือรือร้นอยากที่จะทำและวัตถุประสงค์ในการจัดแต่ละอย่างให้สัมพันธ์กับความ หลากหลายในการพัฒนาตนเอง เกมการเล่นที่สนุกสนาน การแข่งขันกันก็เป็นสิ่งดึงดูดใจและเป็นการจูงใจที่ดี
7. การสนับสนุนโดยผู้ใหญ่ผู้ใหญ่เป็นผู้ที่ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้แก่เด็กเพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจใน การที่จะตัดสินใจกระทำสิ่งใดลงไปทั้งคู่มีความต้องการซึ่งกันและกัน เด็กก็ต้องการให้ผู้ใหญ่ช่วยชี้นำ ผู้ใหญ่เอง ก็ต้องการนำพาให้ไปสู่หนทางที่ดีให้ได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องและดีที่สุด จึงเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย