ข้อมูลทั่วไปของตำบลที่รับผิดชอบ

ข้อมูลทั่วไปของตำบลที่รับผิดชอบ ตำบลพังกาญจน์

สภาพทั่วไป
ลักษณะที่ตั้ง อาณาเขต และการปกครอง

เทศบาลตำบลพนมมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 75 ตารางกิโลเมตรหรือ ประมาณ 46,800 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ของหมู่ที่ 1,2,3, และ 13 ตำบลพนม และหมู่ที่ 1,2,3,4 และ 5 ตำบลพังกาญจน์

มีอาณาเขตติดต่อดังนี้กิโลเมตร มีพื้นที่ 62.723 ตารางกิโลเมตร

อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลพะแสง  อำเภอบ้านตาขุน
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลพนม อำเภอพนม
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลต้นยวน  อำเภอพนม
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลพนม อำเภอพนม

ลักษณะภูมิประเทศ

เทศบาลตำบลพนม ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 71 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 สายสุราษฎร์-ตะกั่วป่า ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 82 กิโลเมตร    

ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม   

ในเขตเทศบาลตำบลพนม มีศาสนสถาน และศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญ  ดังนี้
- ศาสนสถาน มีวัด 3 แห่ง คือ วัดพนม, วัดพังกาญจน์ และวัดจิตพิทักษ์ธรรมาราม และราษฎรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  
- ศิลปวัฒนธรรม งานประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญ ได้แก่ การทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่  งานประเพณีสงกรานต์ งานวันลอยกระทง งานวันกตัญญูตำบลพังกาญจน์  งานสวดกลางบ้าน งานสารทเดือนสิบ งานวันเข้าพรรษา  งานวันออกพรรษา  งานวันมาฆบูชา งานวันอาสาฬหบูชา ฯลฯ

ข้อมูลทั่วไปของตำบลที่รับผิดชอบ ตำบลคลองศก

ตำบลคลองศก เดิมชาวบ้านเรียกว่า"บ้านศก" ก่อนหน้านั้นเรียกว่า"บ้านศพ" เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งรูปร่างคล้ายยักษ์ตนหนึ่งนอนตาย เรียกว่าเขาพันธุรัตน์ สมัยก่อนเป็นหมู่บ้านกลางป่าแต่อุดมสมบูรณ์ ต่อมาเกิดโรคระบาดชาวบ้านตายเป็นจำนวนมาก บ้านศพจึงกลายเป็นบ้านร้าง ต่อมาเปลี่ยนเป็น "คลองศก" เพราะมีลำคลองไหลผ่านเกือบทุกหมู่บ้านในตำบล 

ข้อมูลทั่วไปของตำบลที่รับผิดชอบ ตำบลพนม

ในสมัยก่อนมีการทำมาหากินแถบริมลำคลอง ทั้ง 2 สาย คือลำคลองศกและคลองพนม ซึ่งพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ โดยการปลูกพืชสวนผสมหรือเรียกว่าสวนปู่ สวนย่า ซึ่งประกอบด้วย มะพร้าว เงาะ ลางสาด มังคุด ทุเรียนและการล่าสัตว์ป่าเป็นอาหาร สมัยก่อนการเดินทางจากตำบลพนมเข้าสู่ในเมืองหรือต่างอำเภอใช้คมนาคมทางน้ำ เช่นเรือพาย เรือแจว เป็นหลักส่วนเรือหางยาวหรือเรือยนต์แทบจะไม่มี ถ้าเดินทางไม่ไกลมากนักใช้วิธีการเดินเท้า เพราะในขณะนั้นไม่มีรถสัญจรพื้นเพของคนตำบลพนมจะเป็นคนชาวตำบลพนมโดยกำเนิดมีบางส่วนอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากต่างอำเภอและจังหวัดอื่นโดยมาประกอบอาชีพ และมาทำมาหากินในเขตพื้นที่ การสื่อสารจะใช้ภาษาถิ่นเดิม ขนบธรรมเนียมประเพณี จะยึดประเพณีดั้งเดิมของไทยที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาจนปัจจุบัน  เช่น ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ วันสงกรานต์ วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ประเพณีสารทเดือนสิบ ประเพณีชักพระ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลพนมมีจำนวนหมู่บ้านอยู่ในเขตพื้นที่ จำนวน 9 หมู่บ้าน ได้แก่

• หมู่ที่ 4 บ้านบางสาน                                    • หมู่ที่ 5 บ้านบางโก
• หมู่ที่ 6 บ้านลูกเดือน                                    • หมู่ที่ 7 บ้านแสนสุขประชารักษ์
• หมู่ที่ 8 บ้านเชี่ยวหมอน                               • หมู่ที่ 9 บ้านใหญ่
• หมู่ที่ 10 บ้านสาคลี่                                     • หมูู่ที่ 11 บ้านทุ่งเจริญ
• หมู่ที่ 12 บ้านบางนิล

• ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีจำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบางสาน ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 4
2. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านใหญ่ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 9

• โรงเรียนประถมศึกษา มีจำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. โรงเรียนบ้านบางสาน ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 4
2. โรงเรียนบ้านลูกเดือน ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 6
3. โรงเรียนบ้านใหญ่ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 9

• สถานีอนามัยประจำตำบล/หมู่บ้าน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบางสาน
2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพนม

ข้อมูลของผู้ไม่รู้หนังสือ/ผู้ลืมหนังสือ

         ข้าพเจ้ามีการจัดการเรียนการสอนตามหน้าที่ครูอาสาสมัครฯ  โดยมีจำนวนผู้ไม่รู้หนังสือ/­ผู้หลงลืมหนังสือ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และข้าพเจ้าได้รับผิดชอบสอนนักศึกษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ระดับประถมศึกษา จำนวน 11 คน ชาย 8 คน หญิง 3 คน สถานที่พบกลุ่ม ศกร.ระดับตำบลพนม ตั้งอยู่ภายในวัดคีรีไพรสณฑ์ หมู่ที่ 8 ตำบลพนม อำเภอพนม  จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ระยะเวลาที่เปิดสอน  วันที่ 1พฤศจิกายน  พ.ศ. 2567 ถึง วันที่ 31 มีนาคม  พ.ศ. 2568  รวมการพบกลุ่ม  18 ครั้ง 

ข้อมูลภูมิปัญญา  ภาคีเครือข่าย

ข้อมูลความต้องการเรียนรู้ของคนในชุมชน

ข้าพเจ้าได้สำรวจความต้องการการเรียนรู้ในชุมชน ในการจัดทำเวทีประชาคม ร่วมกับเทศบาลตำบลพนม องค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อนำข้อมูลของแต่ละตำบลมาวางแผนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน และทันสถานการณ์ในห้วงเวลาของการเว้นว่างจากการทำงานอาชีพหลัก และกิจกรรมให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณที่สามารถจะมาส่งเสริมสนับสนุน ตามศักยภาพของชุมชน ตามความต้องการของชุมชน เพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มเป้าหมาย  โดยใช้แบบสำรวจความต้องการการเรียนรู้