VDO รายงานผลการดำเนินงานการพัฒนางานตามข้อตกลง (PA) ประจำปีงบประมาณ 2568
แบบประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน (1 เมษายน 2568-30 เมษายน 2568)
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้น ม.3 จำนวน 15 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.3/12 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมยุวกาชาด ม.2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 39 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 18 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้น ม.3 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ระดับชั้น ม.4 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.3/10 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/กิจกรรมยุวกาชาด ระดับชั้น ม.2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 10 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 39 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของ วิทยฐานะ ชำการพิเศษ คือ การริเริ่มพัฒนา การจัดการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ของผู้เรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทาย อาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การอ่านเรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การสอนภาษาอังกฤษในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ในปีการศึกษาที่ผ่านมา เกิดปัญหาในชั้นเรียนคือ นักเรียนไม่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ หรือถ้าหากอ่านได้ก็ไม่สามารถจับใจความสำคัญของเรื่อง หรือถ่ายข้อมูลจาก เรื่องที่อ่านออกมาได้ ทำให้เกิดเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ จากปัญหาดังกล่าวทำให้ตระหนักถึง ความสำคัญของการอ่านภาษาอังกฤษ และมีความสนใจที่จะพัฒนาแบบฝึกทักษะเพื่อแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้เรื่องสั้น ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึก พัฒนาทักษะการการอ่าน ภาษาอังกฤษ กระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ ต่าง ๆ ที่เป็น ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น นอกจากนี้จะนำผลที่ได้จากการพัฒนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการวางแผน และ จัดกิจกรรม การเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจากเรื่องสั้นภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน เรื่อง การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เป็นแบบทดสอบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ
2.2 นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเพื่อหาค่า IOC
2.3 ทดสอบก่อนเรียนกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ที่สร้างขึ้น โดยใช้เวลา ๕๐ นาที
2.4 จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจำนวน ๕ เรื่อง โดยใช้เวลาในการสอน ๑๐ ชั่วโมง
2.5 ทดสอบหลังเรียนกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ โดยใช้เวลา ๕๐ นาทีเช่นเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน
2.6 นำผลที่ได้จากการทดสอบก่อนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างมาวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย
2.7 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชาภาษาอังกฤษได้อ่านเรื่องสั้น บทความ ข่าวภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนา ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ สูงขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านที่สูงขึ้น
ตอนที่ 2 : ระดับความสำเร็จในการพัฒนางานที่เสนอเป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
การอ่านเรื่องสั้นภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การสอนภาษาอังกฤษในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ในปีการศึกษาที่ผ่านมา เกิดปัญหาในชั้นเรียนคือ นักเรียนไม่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ หรือถ้าหากอ่านได้ก็ไม่สามารถจับใจความสำคัญของเรื่อง หรือถ่ายข้อมูลจากเรื่องที่อ่านออกมาได้ ทำให้เกิดเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ จากปัญหาดังกล่าวทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านภาษาอังกฤษ และมีความสนใจที่จะพัฒนาแบบฝึกทักษะเพื่อแก้ปัญหาการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้เรื่องสั้น ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกพัฒนาทักษะการการอ่าน ภาษาอังกฤษ กระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน สามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่เป็น ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น นอกจากนี้จะนำผลที่ได้จากการพัฒนาไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการวางแผน และจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 การสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจากเรื่องสั้นภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน เรื่อง การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เป็นแบบทดสอบปรนัย จำนวน ๓๐ ข้อ
2.2 นำไปให้ผู้เชียวชาญตรวจเพื่อหาค่า IOC
2.3 ทดสอบก่อนเรียนกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่สร้างขึ้น โดยใช้เวลา ๕๐ นาที
2.4 จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจำนวน ๕ เรื่อง โดยใช้เวลาในการสอน ๑๐ ชั่วโมง
2.5 ทดสอบหลังเรียนกับกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ
โดยใช้เวลา ๕๐ นาทีเช่นเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน
2.6 นำผลที่ได้จากการทดสอบก่อนและหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่างมาวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ของการวิจัย
2.7 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนที่ใช้แบบฝึกทักษะ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนมีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 75.42 แสดงว่าผู้เรียนทุกคนอ่าน เรื่องสั้น บทความ ข่าวภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปสูงกว่าที่กำหนด
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาการอ่านภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านทสูงขึ้นในระดับที่พึงพอใจมาก
(ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในปีการศึกษา 2568)
ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมต่างๆภายในโรงเรียน