ชื่อ-สกุล นางรัชสุพร อรัญมิตร
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 และ ม.6
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม. 3/4
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน.....12.....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 และ ม.6 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.3/4 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมแนะแนว ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงติวเข้าระดับชั้น ม.6 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประชุมกรรมการบริหารวิชาการ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน.....12.....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.4 และ ม.6 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.3/4 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมแนะแนว ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม ระดับชั้นม. 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงติวเข้าระดับชั้น ม.6 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประชุมกรรมการบริหารวิชาการ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 20 ชั่วโมง/สัปดาห์
ด้านการจัดการเรียนรู้
ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1. วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเพื่อพัฒนาและจัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560)
2. วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดเพื่อพัฒนาและจัดทำโครงสร้างรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษรอบรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดตามหลักสูตร บริบทสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น
3. เผยแพร่และให้คำแนะนำ นิเทศติดตามในการจัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระฯ โครงสร้างรายวิชา และหน่วยการเรียนรู้ให้กับครูผู้สอนในสถานศึกษา และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
1. วางแผน ออกแบบและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษรอบรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในรูปแบบ Active Learning โดยมีสาระสำคัญประจำหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย ด้านความรู้ ด้านทักษะ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และเนื้อหาสาระการเรียนรู้ ที่สามารถแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิดและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้
ผลของการปฏิบัติงาน ครูผู้สอนเผยแพร่และให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ และนิเทศติดตามในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ active Learning ให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
ผลของการปฏิบัติงาน นักเรียนใช้ภาษาอังกฤษในห้องเรียนมากขึ้น
2. เผยแพร่และให้คำแนะนำนิเทศติดตาม ในการจัดทำแผนการสอน การออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งส่งผลให้คุณภาพผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้สูงขึ้น ให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบ Active learning ในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ชั้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 อย่างเหมาะสมกับศักยภาพผู้เรียน เช่น กิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อนช่วยเพื่อน การแบ่งกลุ่มย่อย
อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ส่งเสริมผู้เรียนให้ได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีกระบวนการคิดและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง และสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้
2. ให้คำแนะนำ นิเทศติดตามการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอนในสถานศึกษา เป็นผู้นำในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดกิจกรรมในรูปแบบ Active Learning และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งผลให้คุณภาพผู้เรียน ให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1. สร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เพื่อแก้ไขปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้
2. จัดแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เลือกใช้แหล่งเรียนรู้เหมาะสมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และศักยภาพผู้เรียน
3. ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาสื่อที่ใช้ในการจัดการสอนให้กับบุคลากรในสถานศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้ ให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. จัดทำและพัฒนาเครื่องมือในวัดและประเมินผลในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. วัดและประเมินผลด้วยวิธีการที่หลากหลายเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ เช่น การทดสอบ การสังเกต การสัมภาษณ์ และนำผลการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ มาใช้แก้ไขปัญหาการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
3. ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การวัดและประเมินผลผู้เรียน เป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1. จัดทำวิจัยในชั้นเรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนและนำผลการศึกษาวิเคราะห์ และสังเคราะห์ มาใช้แก้ไขปัญหาหรือ
พัฒนา คุณภาพการจัดการเรียนรู้ให้สูงขึ้น
2. เผยแพร่งานวิจัยในชั้นเรียนให้กับผู้ที่สนใจ ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับบุคลากรในสถานศึกษาและผู้ที่สนใจได้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1. จัดบรรยากาศห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการและความแตกต่างผู้เรียนเป็นรายบุคคล สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ และสร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
2. ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้กับบุคคลากรในสถานศึกษา
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน.7 จั
1. อบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยที่ดี โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และสามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนได้ เช่นกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมวันสำคัญต่างๆ
2. ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้กับบุคคลากรในสถานศึกษาได้
บรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
หลักสูตรสถานศึกษา
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
แผนการจัดการเรียนรู้และวิจัยในชั้นเรียน
รายงานประเด็นท้าทาย
รายงานผลการดำเนินงานตามข้อตกลง (PA)
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
1. จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้มีข้อมูลเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ แก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ปพ.5 แบบประเมินต่างๆ เป็นต้น
2. ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ นิเทศติดตามการจัดทำเอกสารข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดทำข้อมูลสารสนเทศให้กับบุคลากรในสถานศึกษาได้
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
1. จัดกิจกรรมตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 เช่น กิจกรรมเยี่ยมบ้าน กิจกรรมออมทรัพย์ กิจกรรมสอนซ่อมเสริม กิจกรรมโฮมรูม เป็นต้น มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียนรายบุคคล และประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2. ปฏิบัติหน้าที่ทีมนำในการจัดกิจกรรมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา และเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดกิจรรมดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้กับครูและบุคลากรในสถานศึกษาได้
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
1. ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารวิชาการ เพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
2. ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าโครงการระบบประกันคุณภาพภายใน ดำเนินการพัฒนาแนวทางการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐาน และเป็นผู้นำและเป็นตัวอย่างที่ดีในการขับเคลื่อนงานประกันคุณภาพภายในและงานวิชาการ
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
1. ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ เช่น การสร้างกลุ่ม LINE ผู้ปกครองชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4
2. เป็นแบบอย่างที่ดีในการประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ เช่น เข้าร่วมกิจกรรมภายในชุมชน พบปะผู้ปกครองและชุมชนในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารและสร้างความสัมพันธ์อันดีงานระหว่างโรงเรียนและชุมชน
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
1. จัดทำแผนพัฒนาตนเอง (ID Plan) เพื่อพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
2. เข้าร่วมการประชุม/อบรม/สัมมนา เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา สมรรถนะวิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาและวิธีการสอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์ฯ
3. จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานและผลการประเมินตนเองรายบุคคล (SAR)
4.เป็นแบบอย่างมีดีในด้านสมรรถนะวิชาชีพครู
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
1. เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2. เป็นผู้นำในกิจกรรมชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียนได้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
1. เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2. เป็นผู้นำในกิจกรรมชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียนได้
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนประเด็นท้าทาย เรื่อง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพื่อให้นักเรียนได้ ฝึกทักษะการพูดภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานในการสร้างองค์ความรู้ และให้มีความกล้าในการสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น มีความมั่นใจในการพูดสื่อสารกับครู เพื่อน และชาวต่างชาติ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3 ห้องเรียน นักเรียนจะต้องฝึกฝนทักษะการ ฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำเพื่อให้เกิดความเคยชินไม่ประหม่าในการพูดสื่อสาร โดยเริ่มจากกิจกรรมในห้องเรียน
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเดิมคือ เน้นเนื้อหา ที่เป็นหลักภาษาอย่างเดียว ผู้เรียนไม่สามารถพูดสื่อสารได้ดี และที่สำคัญผู้เรียนไม่กล้าพูด ไม่กล้าแสดงออกทางด้านภาษาอังกฤษเท่าที่ควรจะเป็น ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงในรายวิชาภาษาอังกฤษแต่พูดสื่อสารกับชาวต่างชาติไม่ได้ อายที่จะพูดเพราะเกรงว่าจะพูดไม่ถูกหลักไวยากรณ์ทางภาษา
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารของนักเรียน ในรายวิชาภาษาอังกฤษรอบรู้ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning คือการที่นักเรียนได้แสดงออกด้านภาษาตลอดกิจกรรมในห้องเรียน เช่น กิจกรรมการสอน Role Play การถามเพื่อสืบเสาะหาความรู้ การอ่านเนื้อหาของบทเรียน การแสดงความคิดเห็น การอภิปรายเรื่องที่เรียน การนำเสนอผลงาน ซึ่งล้วนต้องใช้ภาษาอังกฤษในการดำเนินกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนการพูดสื่อสารและการพูดเพื่อแสวงหาความรู้ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เพื่อให้เกิดความเคยชินในการฟังและพูดภาษาอังกฤษ ครู และนักเรียนจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในห้องเรียนมากกว่าร้อยละ 80
2.วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ผู้เรียนควรจะมีสิ่งแวดล้อมที่จูงใจให้ฝึกทักษะทางภาษา โดยเริ่มจากห้องเรียน การพูดสื่อสารในห้องเรียนภาษาอังกฤษ ควรใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ระหว่างครูกับนักเรียน และระหว่างนักเรียนกับนักเรียน รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นักเรียนได้ใช้สื่อนวัตกรรมในการสื่อสาร รวมทั้งการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนที่เน้นให้นักเรียนได้พูดในสถานการณ์จริง รวมทั้งการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เป็นสื่อของเจ้าของภาษา เพื่อนำมาพัฒนาการจัดกิจกรรมในห้องเรียน และจัดให้มีการประเมินผลทั้งก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน เพื่อให้ทราบถึงพัฒนาการทางด้านภาษาของผู้เรียน โดยประเมินครบทุกทักษะ นอกจากนี้ ยังให้นักเรียนได้เข้าร่วมในการการจัดกิจกรรมวันสำคัญทางด้านภาษาอังกฤษ เช่นวันคริสต์มาส หรือการร่วมกิจกรรมอื่นๆที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษ และกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีโอกาสศึกษาต่อในต่างประเทศ
2.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีศึกษา ที่เรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานทุกคน กลุ่มตัวอย่าง ได้ฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษ สามารถพูดตอบโต้ประโยคพื้นฐาน รวมทั้งการใช้ภาษาอังกฤษในการสืบเสาะหาความรู้ในกิจกรรมการเรียนการสอนในห้อง
2.2 เครื่องมือที่ใช้
1.กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบบทบาทสมมติ
2. ชุดบทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ บทอ่านที่น่าสนใจ
3. วิจัยในชั้นเรียนการเรื่อง การพัฒนาการพูดสื่อสารโดยใช้บทบาทสมมติในการสืบเสาะหาความรู้การสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนสตรีศึกษา
2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
1.การให้คะแนนการพูดโดยใช้ตารางการให้คะแนนการพูด และการแสดงบทบาทสมมติ
2. การวัดการพูดสื่อสารและพูดสนทนา ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน
2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
1. นำคะแนนที่ได้จากการวัดก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน มาหาค่าร้อยละ เพื่อดูพัฒนาการพูดในแต่ละครั้งของผู้เรียน
2. เปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนแต่ละคน ตีค่าคะแนนตามตารางการให้คะแนนการพูด
2.5 สถิติที่ใช้
ใช้คะแนนค่าเฉลี่ย และร้อยละ เพื่อดูการพัฒนาการพูดของนักเรียน เปรียบเทียบคะแนนในการพูดกับระดับคะแนนการพูดสนทนา
2.6 อื่น ๆ (ถ้ามี)
การนำเสนอการพูดสนทนาหน้าชั้นเรียน โดยการคัดเลือกจากครูและนักเรียน
3. ผลลัพธ์การพัฒนา
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเป้าหมาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/13 ,6/14 และ 6/15 ได้ฝึกทักษะด้านภาษาอังกฤษอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ใช้ภาษาอังกฤษในการพูดสนทนา ตอบโต้ประโยคพื้นฐาน รวมทั้งการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสืบเสาะหาความรู้ได้เป็นอย่างดี
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ทุกด้านคือทักษะการ ฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษ และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการสืบเสาะหาความรู้ การสื่อสารกับเจ้าของภาษา รวมทั้งการสอบวัดระดับความรู้ และการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น
แบบประเมินเลื่อนขั้นเงินเดือน 1 เมษายน 2568 ถึง 30 กันยายน 2568