ชื่อ-สกุล นางปภากร มะณีแสง
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา วิทยาศาสตร์ทั่วไป 4 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ครูที่ปรึกษานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/12
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 14 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ว21252 ระดับชั้น ม 1 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป 4 ระดับชั้น ม 6 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม 6/12 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมยุวกาชาด ระดับชั้นม.3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมวิชาการ ม 6 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 30 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 14 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป 4 ระดับชั้นม. 6 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาค้นคว้าอิสระ ระดับชั้นม. 2 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้นม. 6/12 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมยุวกาชาด ระดับชั้นม.3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมวิชาการ ม. 6 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 30 ชั่วโมง/สัปดาห์
ตารางสอนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
ตารางสอนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเรื่อง พันธุกรรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับที่ 12 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อเสริมสร้างทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 รวมถึงทักษะความเข้าใจและการทำงาน รายวิชาสังคมศึกษา เป็นรายวิชามีความเกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างพัฒนาพลเมืองให้มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่ดีต่อสังคมไทยและสังคมโลก
รายวิชาวิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพ ช่วยพัฒนาวิธีคิดแบบมีเหตุผล สร้างสรรค์ วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ตามแนว สะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่เป็นการบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
เพื่อนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง
จากการจัดการเรียนการสอนรายวิทยาศาสตร์ทั่วไประดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนอยู่ในระดับต่ำ ขาดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ไม่แสดงความคิดเห็น และไม่มีการสื่อสารที่ดีกับเพื่อน นอกจากนี้ผู้สอนยังเน้นเนื้อหาการสอนมากกว่าการให้นักเรียนแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริง และหลักสูตรมีเนื้อหามากเกินไปในเวลาที่จำกัด
การพัฒนาสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา ช่วยให้ผู้เรียนช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้กับผู้เรียน โดยเน้นให้ผู้เรียนทำความเข้าใจปัญหาและฝึกการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการที่มีเหตุผลและเป็นระบบ โดยเฉพาะ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นบูรณาการ 5 ทักษะ และความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อตอบสนองทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ (Analysis)
1. วิเคราะห์สภาพปัญหาของนักเรียน โดยวิเคราะห์จากแนวโน้มคะแนนย้อนหลังเพื่อศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อนของนักเรียน
2. วิเคราะห์หลักสูตรและแผนการจัดการเรียนรู้ โดยตรวจสอบความสอดคล้องของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลักสูตรสถานศึกษา และแผนการจัดการเรียนรู้ว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่
3. วิเคราะห์ขอบเขตเนื้อหาของรายวิชา เพื่อประยุกต์ใช้ในการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ต่อไป
ขั้นที่ 2 การออกแบบ (Design)
1. ออกแบบสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้
2. ออกแบบกิจกรรมการจัดการโดยใช้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในรูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 3 การพัฒนา (Development)
1. พัฒนาเนื้อหาและสื่อประกอบการเรียนรู้ รวมถึงแบบทดสอบก่อน – หลังการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ที่ออกแบบไว้ และสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ขั้นที่ 4 ดำเนินการ (Implement)
1. ดำเนินการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบสะเต็มศึกษา เพื่อพัฒนาสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์ของผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
ดำเนินการนำแผนการจัดการเรียนรู้
ขั้นที่ 5 ประเมินผล (Evaluation)
มีแนวทางการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
1. ประเมินผลตามจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยมีการประเมินผลระหว่างเรียน (Formative Assessment) ผ่านการสังเกตการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน การแสดงความคิดเห็น การตอบคำถาม และประเมินชิ้นงานในห้องเรียน เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. ประเมินหลังเรียน (Summative Assessment) ประเมินโดยใช้แบบทดสอบวัดผลกลางภาคและปลายภาคเรียน
3. ผลลัพธ์การพัฒนา
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 ผู้เรียนร้อยละ ๗๕ มีผลสัมฤทธิ์วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับ ๓ ขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1 นักเรียนเกิดสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์
แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน
ประจำปีงบประมาณ 2568
รายงานผลการปฏิบัติงานตามข้อตกลง PA
ประจำปีงบประมาณ 2568