ชื่อ-สกุล นายปณิธิ แก้วนาเหนือ
ที่อยู่ 102 ม.3 ต.นาโพธิ์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
ตําแหน่งครูอัตราจ้าง (GPLS)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
โรงเรียนสตรีศึกษา
สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา สังคมศึกษา ชั้น ม.3 รหัสวิชา ส23103
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.6/17
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
1.1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม
-รายวิชา ประวัติศาสตร์5 ส 23103 จำนวน 0.5 หน่วยกิต
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 ห้อง รวม 9 ชั่วโมง/สัปดาห์
-รายวิชา การศึกษาค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ รหัสวิชา I30201 จำนวน 1 หน่วยกิต
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 1 ห้อง รวม 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1.2 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
-รายวิชาผู้บำเพ็ญประโยชน์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
-รายวิชา ชุมนุม ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
-ประชุม PLC กลุ่มสาระ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
-โฮมรูม ชั้น ม.6/17 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 16 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร-สร้างและพัฒนาหลักสูตร มีการจัดทำรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัว
ชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้ เต็มตามศักยภาพ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้-ออกแบบการจัดการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญ ตามหลักสูตร โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้-จัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสริมผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ เรียนรู้และทำงานร่วมกัน โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้-สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ มีการสร้างและหรือพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน และทำให้ผู้เรียน มีทักษะการคิดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้-วัดและประเมินผลการเรียนรู้ มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้-มีการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน และนำผลการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ มาใช้แก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการจัดการเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน-จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน มีการจัดบรรยากาศที่เหมาะสม สอดคล้องกับความแตกต่างผู้เรียนเป็นรายบุคคล สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน-มีการอบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยที่ดีงาม โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และสามารถ แก้ไขปัญหาผู้เรียนได้
หลักสูตรสถานศึกษา
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
โดยมีข้อมูลเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ แก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
2.1.1 งาน (Tasks) ที่ดำเนินการพัฒนาตามข้อตกลง ใน 1 รอบการประเมิน
1. จัดทำรายงานประวัติผู้เรียนประจำชั้นเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/17
2. จัดทำแบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
2.1.2 ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลงที่คาดหวังให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน สามารถนำข้อมูล สารสนเทศมาใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน
2.1.3 ตัวชี้วัด (Indicators) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนผู้เรียนร้อยละ 90 ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพของผู้เรียน
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียนรายบุคคล
และประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2.2.1 งาน (Tasks) ที่ดำเนินการพัฒนาตามข้อตกลง ใน 1 รอบการประเมินจัดทำรายงานการเยี่ยมบ้าน
2.2.2 ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลงที่คาดหวังให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2.2.3 ตัวชี้วัด (Indicators) ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนครู ผู้ปกครอง ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
1. ร่วมปฏิบัติงานตามค่ำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
2. จัดทำรายงานผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มีการพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้
มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะทักษะการใช้ชีวิตและการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา สมรรถนะวิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาและวิธีการสอน และนำผลการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียน
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่มีผลต่อคุณภาพผู้เรียน
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้คู่มือแบบฝึกความรู้ทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะต้องได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ในวิชาประวัติศาสตร์ ให้เป็นไปตามตัวชี้วัดที่หลักสูตรกำหนด ซึ่งในหลักสูตรแกนกลางของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนสตรีศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้กำหนดตัวชี้วัด รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชาส 23104 เพื่อให้นักเรียนฝึกทักษะสำหรับทบทวนบทเรียนและพัฒนาทักษะการคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มผลสัมฤทธิ์ในวิชาสังคมศึกษาให้สูงขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1) ศึกษาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแกนกลาง และหลักสูตรนักเรียนที่ต้องรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ฯ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อออกแบบหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องตรงตามตัวชี้วัด
2) ศึกษาค้นคว้าเนื้อหาข้อมูลให้ตรงตามตัวชี้วัดเพื่อจัดทำแบบฝึกสมรรถนะหลักทางสังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3) ใช้กระบวนการ PLC เข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหา พัฒนาแบบฝึกสมรรถนะหลักทางสังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ
4) ออกแบบ แบบฝึกทักษะกระบวนการเสริมสร้างความคิด แนวข้อสอบและผังมโนทัศน์ ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจง่าย และนักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ในแบบฝึกประวัติศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
5) จัดทำแบบฝึกประมวลความรู้สังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 ตามที่ได้ออกแบบไว้
6) นำแบบฝึกสมรรถนะหลักสังคมศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปใช้
7) นำผลในการใช้แบบฝึก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 บันทึกข้อมูลคะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เพื่อประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา ที่เรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชาส23103
มีผลการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ร้อยละ90
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา ที่เรียนในรายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส23103
มีทักษะกระบวนการคิดและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ตรงตามสมรรถนะของผู้เรียนในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551