ชื่อ-สกุล นางสาวสุคนธ์ทิพย์ พลเยี่ยม
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา คณิตศาสตร์ ชั้นม.2
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.2/12
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน........19....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์ 3 ระดับชั้น ม.2 จำนวน.......12..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน........2.......ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา การศึกษาและสร้างองค์ความรู้ จำนวน .......2.....ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้นม.2/12 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม "เวทคณิต" จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 36 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน........19....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์ 3 ระดับชั้น ม.2 จำนวน.......12..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน........2.......ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา การศึกษาและสร้างองค์ความรู้ จำนวน .......2.....ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้นม.2/12 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม "เวทคณิต" จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 36 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน........19....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์ 3 ระดับชั้น ม.2 จำนวน.......12..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 3 จำนวน........2.......ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา การศึกษาและสร้างองค์ความรู้ จำนวน .......2.....ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้นม.2/12 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม "เวทคณิต" จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 36 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
หลักสูตรสถานศึกษา
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
รายงานผลการวิเคราะห์ข้อสอบ
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค22102
แผนการจัดการเรียนรู้การแยกตัวประกอบพหุนาม
แผนการจัดการเรียนรู้สถิติ
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
รายงานผลการวิเคราะห์ข้อสอบ
รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค22102
แผนการจัดการเรียนรู้การแยกตัวประกอบพหุนาม
แผนการจัดการเรียนรู้สถิติ
รายงานการวิจัยในชั้นเรียน
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์สู่โลกจริง ด้วยการสอนแบบ วิธีการสอนแบบปฏิบัติการ (Laboratory Approach) เรื่อง ปริซึมและทรงกระบอก ( G , A)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากสังคมไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่างๆ แนวโน้มของสังคมในอนาคตเป็นสังคมที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและเป็นสังคมสารสนเทศมากขึ้น ระบบการศึกษาเป็นการเตรียมคนสำหรับสังคมในอนาคต จะต้องเตรียมคนให้เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ รู้จักติดตาม ข้อมูลข่าวสาร วิทยาการใหม่ๆ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและหลากหลาย รู้จักคิด วิเคราะห์ ให้เหตุผลและแก้ปัญหาได้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และใฝ่เรียน ใฝ่รู้ รู้จักเลือกรับวิทยาการต่างๆ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมที่ดีงาม ทั้งในการทำงานละการอยู่ร่วมกัน รู้จักการช่วยเหลือ เกื้อกูลประโยชน์แก่กันโดยไม่เห็นแก่ตัว มีความสามารถและทักษะในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ
เป้าหมายของการสอนคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ สามารถนำความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในชีวิตจริงได้ ทั้งในการแก้ปัญหาและแสวงหาความรู้ต่อไป ปัญหาที่พบในชีวิตจริงจะเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนที่ต้องใช้ความรู้ที่มากกกว่าทักษะการคิดคำนวณ การพัฒนาทักษะที่ปราศจากการประยุกต์ใช้ และการจดจำกฎเกณฑ์ต่าง ๆ โดยปราศจากความเข้าใจ ไม่เพียงพอที่จะนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาได้ ดังนั้น จุดเน้นของการเรียนการสอนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนจากที่เน้นการจดจำข้อมูล ทักษะพื้นฐานเป็นการพัฒนาให้ผู้เรียนได้มีความเข้าใจในหลักการทางคณิตศาสตร์ มีทักษะพื้นฐานที่เพียงพอในการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ต้องเผชิญ จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ผู้เรียนจะต้องได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายที่จะช่วยให้เกิดความเข้าใจจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวของผู้เรียนเอง
การสอนคณิตศาสตร์ให้ได้ผล สามารถช่วยเสริมสร้างให้ผู้เรียนบรรลุจุดมุ่งหมายของการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ได้ดีวิธีหนึ่งคือ การสอนให้ผู้เรียนได้เรียนและรู้จักใช้กลวิธีหรือยุทธวิธีในการแก้ไขปัญหาเมื่อพบโจทย์หรือปัญหาที่ต้องแก้ หรอต้องการหาคำตอบ อันจะเป็นแนวทางให้เขาได้สามารถพัฒนายุทธวิธีเหล่านั้นไปใช้ในการแก้ปัญหาจริงๆในชีวิตของเขาได้ตามสมควรต่อไป
ด้วยเหตุนี้ครูผู้สอนจะต้องหาวิธีสอน หรือวิธีพัฒนาการสอน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และสามารถเชื่อมโยงสู่ชีวิตจริงได้ วิธีการสอนคณิตศาสตร์มีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งในที่นี้ผู้วิจัยได้เสนอวิธีการสอนแบบปฏิบัติการ (Laboratory Approach) เป็นวิธีการสอนแบบหนึ่งที่มีแนวคิดว่า การเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นถ้าให้รู้จริงก็ต้องให้ลงมือปฏิบัติจริง แสวงหาข้อมูล จัดระเบียบข้อมูล พิจารณาหาข้อมูล ค้นคว้าหาวิธีการแก้ปัญหา จนสามารถสรุปเป็นมโนทัศน์ได้
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2567โรงเรียนสตรีศึกษา
กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนสตรีศึกษา อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 4 ห้อง จำนวน ๑๓๘ คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง
2.2 เครื่องมือที่ใช้
1. บทเรียนปฏิบัติการ เรื่องปริซึมและทรงกระบอก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2. แบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่องปริซึมและทรงกระบอก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบเลือกตอบ 2 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
3. แบบวัดความสามารถในการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์สู่ชีวิตจริงที่เรียนโดยวิธีการสอนแบบปฏิบัติการ เรื่องปริซึมและทรงกระบอก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 30 ข้อ
2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ทำการทดสอบก่อนเรียน ด้วยแบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และแบบวัดความสามารถในการถ่ายโยงคณิตศาสตร์จำนวน 30 ข้อ
2. ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบปฏิบัติการ
3. หลังจากการทดลองสิ้นสุดลง จึงทำการทดสอบหลังเรียน ด้วยแบบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และแบบวัดความสามารถในการถ่ายโยงคณิตศาสตร์
2.3 การวิเคราะห์ข้อมูล
1. หาค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนของความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โดยวิธีการสอนแบบปฏิบัติการ เรื่องปริซึมและทรงกระบอก ตามเกณฑ์ ร้อยละ 70
2. เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิธีการสอนแบบปฏิบัติการ เรื่องปริซึมและทรงกระบอก โดยใช้บทเรียนปฏิบัติการ โดยใช้ t-test(Dependent)
2.4 สถิติที่ใช้
2.4.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
เมื่อ แทน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
แทน ผลรวมคะแนนทั้งหมด
n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง
2.4.2 ค่าร้อยละ
P = เมื่อ P แทนร้อยละ
F แทน ความถี่ที่ต้องการแปลงให้เป็นร้อยละ
n แทน จำนวนความถี่ทั้งหมด
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.2 เชิงคุณภาพ