ชื่อ-สกุล นางอรนุช สุวรรณโท
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้น ม.2
ที่ปรึกษานักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/11
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน........19....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา วิทยาศาสตร์ ระดับชั้น ม.2/1 จำนวน...3..... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา วิทยาศาสตร์ ระดับ ชั้นม.2/10-13 จำนวน12ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2/10 จำนวน1ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้จำนวน 9 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาจำนวน4ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน..4..ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 36 ชั่วโมง/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่องการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดคำนวณของผู้เรียน รายวิชาวิทยาศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนสตรีศึกษา เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ โดยใช้รูปแบบโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ สืบเสาะ (inquiry) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ( Active Learning)
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในปีการศึกษาที่ผ่านมา และปัจจุจันการจัดการเรียนการสอนเข้าสู่ภาวะปกติ โรงเรียนสตรีศึกษา จึงได้จัดการเรียนการสอนตามปกติ จากสภาพการจัดการเรียนการสอนรายวิชาวิทยาศาสตร์ พบว่า การจัดการเรียนการสอนจำเป็นต้องเน้นให้ลงมือฝึกปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ โดยผ่านสื่ออุปกรณ์การทดลองซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและต้องลงมือปฏิบัติการทดลอง และคิดคำนวณ จึงจะทำให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดเชิงคำนวณและการแก้ปัญหาแบบมีลำดับขั้นตอน ซึ่งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นั้นเป็นพื้นฐานของการคิดเป็น ทำเป็นและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันแต่ด้วยสภาวะสภาพจริงมีกิจกรรมอื่นๆทีแทรกสอดรบกวนเวลาเรียนอยู่บ่อยๆจึงให้ให้เวลาเรียนภาคทฤษฏี ภาคปฏิบัติยื้อเวลากันและกันส่งผลให้เวลาเรียนไม่ครบสมบูรณ์เท่าที่ควรจึงจำเป็นต้องใช้สื่อออนไลน์เสริมไปพร้อมๆกัน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศผู้เทศผู้เรียนเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา
2. จัดทำแผนการสอนที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด
3. นักเรียนศึกษาเนื้อหากิจกรรมจาก https://proj14.ipst.ac.th
4. นักเรียนศึกษาใบกิจกรรม https://proj14.ipst.ac.th
5. ทบทวนความรู้เดิม ฝึกปฏิบัติการทดลองตามเนื้อหาของหลักสูตรและตัวชี้วัด เพิ่มเติมความรู้ใหม่
6. นักเรียนทำแบบฝึกหัดท้ายกิจกรรมและทดสอบประเมินผลการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด
7. สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ในกิจกรรมในชั้นเรียน
8. สรุปและรายงานผลการทดลอง และให้นักเรียนส่งผลใบกิจกรรมกลุ่ม
9. นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจ
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ห้อง รวมจำนวนนักเรียน 177 คน ได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดเชิงคำนวณแบบเป็นขั้นตอนด้วยกิจกรรม โดยการลงมือฝึกปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ผ่านสื่ออุปกรณ์การทดลองซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและต้องลงมือปฏิบัติการทดลองและฝึกโจทย์การคิดคำนวณ เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 โดยมีเกณฑ์ระดับคุณภาพผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 5 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 177 คน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา แรงและการเคลื่อนที่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ว22101 และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการลงมือฝึกปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ผ่านสื่ออุปกรณ์การทดลอง มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากขึ้นไป