ข้อมูลขอรับผู้ประเมิน

• ชื่อ-สกุล  :   นางเดือนฉาย พรสวัสดิ์

• ตำแหน่ง  :  ครู  วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ 

• กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

• โรงเรียนสตรีศึกษา  จังหวัดร้อยเอ็ด

• สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด

• สอนรายวิชาภาษาไทยระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 

• ครูที่ปรึกษานักเรียนมัธยมศึกษาปีที่  3/9

1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้

          ปัจจุบันจากการสอบถามครูผู้สอนในรายวิชาต่าง ๆของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 3 พบว่านักเรียน ส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านเนื้อหาวรรณคดีจึงส่งผลให้ถอดคำประพันธ์ไม่ได้ และสรุป คิดวิเคราะห์เนื้อหาไม่ถูกต้องตรงตามเนื้อหาวรรณคดี ซึ่งทำให้ครูผู้สอนไม่สามารถวัดความรู้ หรือติดตามความก้าวหน้าของนักเรียนได้ ซึ่งในบางเนื้อหาวิชาอาจมีผลต่อคะแนนเก็บของนักเรียนด้วย ดังนั้นผู้วิจัยซึ่งในฐานะครูผู้สอนและครูประจำวิชาเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนสตรีศึกษา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการพัฒนาการแก้ปัญหาของนักเรียนในเรื่องนักเรียนอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดี

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

          2.1 สร้างความตระหนัก ความสำคัญของการอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดีเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ 

ให้ตัวอย่างการอ่านคิดวิเคราะห์ที่ถูกต้องเหมาะสม ที่หลากหลายวิธี คือ การกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานโดยใช้แบบทดสอบ 

ตามแผนการปฏิบัติงานโดยใช้ปัจจัยให้เหมาะสมบริบทของโรงเรียน S (Strategy+Sufficiency)

          2.2 ฝึกทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์เป็นขั้นตอน โดยใช้แบบทดสอบ  จากเริ่มต้นที่ทำได้ง่ายเสริมแรงบวก ฝึกทำบ่อยๆ หลายๆ รูปแบบและหลากหลายเนื้อหา จัดสนามให้นักเรียนได้แสดงออกหรือส่งประกวดแข่งขัน ใช้สื่อเทคโนโลยีให้นักเรียนได้ศึกษาและสื่อสารกับครูผู้สอน T (Technology) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

          2.3 ผู้เรียนและครูได้ร่วมกันประเมินผลการอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านของผู้เรียนให้คำแนะนำชมเชย มีการศึกษาข้อมูลทบทวนผลการทำงาน R (Research+Review)

     3. ผลลัพธ์การพัฒนา

          3.1 เชิงปริมาณ

               ผู้เรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาภาษาไทย จำนวน   5  ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด  200 คน มีการพัฒนาการอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดี โดยมีคะแนนเก็บผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 50 ของคะแนนเก็บ) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียน

          3.2 เชิงคุณภาพ

                เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาภาษาไทย จำนวน 5 ห้อง  รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด  200 มีความรู้ความเข้าใจ

ในเรื่องที่นักเรียนได้เรียน และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันและสามารถนำทักษะการอ่าน

ไปใช้ประกอบการเข้าศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยยึดหลักนวัตกรรมโรงเรียนสตรีศึกษา STR-GREAT Model ส่งเสริมคุณภาพการทำงานของครู ส่งผลต่อคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน

3. ผลลัพธ์การพัฒนา

       3.1 เชิงปริมาณ

       ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

       นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3  โรงเรียนสตรีศึกษา ปีการศึกษา 2568   และมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดี ระดับดี จำนวน 200 คน

       3.2 เชิงคุณภาพ

       ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รายวิชาภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านสูงขึ้น สามารถนำทักษะการอ่านไปใช้ประกอบการเข้าศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยยึดหลักนวัตกรรมโรงเรียนสตรีศึกษา 

STR-GREAT Model ส่งเสริมคุณภาพการทำงานของครู ส่งผลต่อคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนทางการอ่านคิดวิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดี ระดับดี จำนวน 5 ห้อง