ชื่อ-สกุล นางสาวอภิชญา สาทวงศ์
ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง วิทยฐาน-
กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา การงานอาชีพ3 ชั้นม.2
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้นม.2/7
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน........13....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา การงานอาชีพ ระดับชั้น ม.2 จำนวน.......9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้นม.2/7 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์0
กิจกรรมยุวกาชาด ระดับชั้นม.2 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมห้องสมุด ระดับชั้นม.1-6 จำนวน........1..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน ....9..... ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน......4.......ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน........4.....ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 37 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู อัตราจ้าง ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของครูอัตราจ้าง คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการปฎิบัติงานช่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการปฎิบัติและเครื่องมือในการทำงานไม่เพียงพอกับนักเรียนที่มีจำนวนมากจึกได้จัดการเรียนการสอนแบบกลุ่ม จากสภาพการจัดการเรียนการสอนรายวิชางานช่างในบ้าน พบว่า การจัดการเรียนการสอนที่เน้นให้ลงมือฝึกปฏิบัติโดยผ่านสื่อกิจกรรมที่น่าสนใจ ทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการปฏิบัติงานช่างได้ในระดับหนึ่ง และการแก้ปัญหาแบบมีลำดับขั้นตอน ซึ่งการปฎิบัติงานและการแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศผู้เทศผู้เรียนเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา
2. จัดทำแผนการสอนที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด
3. ออกแบบกิจกรรม Unplugged Coding
4. นักเรียนศึกษาและเรียนรู้ในการทำแบบทดสอบ
5. ทบทวนความรู้เดิม และเพิ่มเติมความรู้ใหม่
6. สร้างการเรียนรู้ร่วมกันด้วยการแบ่งกลุ่ม (แบบสุ่ม) และกระตุ้นความสนใจด้วยการจัดการแข่งขัน
7. ฝึกปฏิบัติกิจกรรม Unplugged Coding
8. สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ในกิจกรรมในชั้นเรียน
9. สรุปผลการทำงาน และให้นักเรียนส่งผลงานกลุ่ม
10. นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจ
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 ห้อง รวมจำนวนนักเรียน 80 คน ได้รับการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณแบบเป็นขั้นตอนด้วยกิจกรรม
Unplugged Coding รายวิชาวิทยาการคำนวณ เรื่อง แนวคิดเชิงคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รหัสวิชา ง22101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โดยมีเกณฑ์ระดับคุณภาพผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 ห้อง รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 80 คน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาแนวคิดในการทำงาน และ
สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน และนักเรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรม Unplugged Coding มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากขึ้นไป
ประเด็นท้าทาย เรื่องการพัฒนาทักษะการปฎิบัติงานช่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยเอ็ด
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากปัญหาที่พบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 มีผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนเรื่องงานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่นต่ำกว่ามาตรฐานครูผู้สอน
จึงมีการพัฒนากระบวนการ เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่นโดยใช้ชุดการสอนเข้ามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ให้ัสูงขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ศึกษามาตรฐานตัวชี้วัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการพัฒนากิจกรรม งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น โดยใช้วิธีการสอนแบบ Activelearning
วิชาการงานอาชีพ รหัสวิชา ง22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ตามมาตรฐานการเรียนรู้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2560
ออกแบบการเรียนรู้และนวัตกรรมแบบที่เกี่ยวกับการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น โดยใช้วิธีการสอนแบบ Activelearning ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาผู้เรียน และท้องถิ่น
ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่วางไว้
ประเมินผลหลังจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น โดยใช้วิธีการสอนแบบ Activelearning ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568
3. ผลลัพธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่คาดหวัง
เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 โรงเรียนสตรีศึกษา จำนวน 42 คน ร้อยละ 80 ที่เเรียนในรายวิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ตามมาตรฐานของตัวชี้วัด
เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/7 โรงเรียนสตรีศึกษา มีผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาการงานอาชีพ เรื่อง งานประดิษฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากวัสดุในท้องถิ่น ได้อย่างชำนาญ สวยงาม มีกระบวนการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตรงตามสมรรถนะของผู้เรียน ผลงานสอดคล้องกับจุดประสงค์ แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์
แปลกใหม่และเป็นระบบ