Embedded Files
นักศึกษาแขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม กลุ่มวิชาการจัดการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม ภาคสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
วิศวกรสังคม
#กระบวนการพัฒนาวิศวกรสังคม รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด
...การพัฒนาให้ผลแท้จริงอาจต้องใช้ระยะเวลา 3 ปีปรับปรุงแก้ไข 5 ปีพัฒนา 7 ปีมั่นคง 10 ปีถึงยั่งยืนได้....วิศวกรสังคมมองให้เห็นแก่นแล้วจะพัฒนาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต่อไป...ในอนาคต...
...จากประสบการณ์สอนตลอดระยะเวลา 3 ภาคเรียนการศึกษาทำให้เห็นข้อแก้ไขทั้งคำว่า วิศวกรสังคม ในมุมมองใหม่ของนักศึกษาที่เริ่มเรียนในมิติที่สัมผัสวิชาการกับคำสำคัญที่ว่า "วิศวกรสังคม" เป็น Soft Skill ซึ่งมีทักษะที่ซ่อน 4 ทักษะที่ซ่อนอยู่ในคำว่าวิศวกรสังคม ...ซึ่งนักศึกษาตั้งคำถามจากการเห็นคำว่า วิศวกรสังคม เป็น Soft Skill จริง? เพราะในคำที่ปรากฏน่าจะเป็น Hard Skill มากกว่า ...การต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะว่า วิศวกรสังคม ให้เป็น Soft Skill เป็นระยะเวลา 3 ปี นั้นทำให้ผู้สอน ค่อย ๆ "ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีคิด" ต้องวัดแวววิศวกรสังคมจนบรรลุผล คือ นักศึกษาเข้าใจในเชิงทฤษฎี จากผลนักศึกษาลงทะเบียนเรียน 4000 กว่าคน (ผ่าน A, A- กว่า 65%) ของสำนัก GE ...ถึงแม้ยังขาดผลลัพธ์ที่เป็นการนำไปใช้จริง...ในเชิงปฏิบัติการ แม้ยังไม่เห็นความเด่นชัดหลังจากนักศึกษาก้าวออกจากรายวิชาวิศวกรสังคมไปสู่ชั้นเรียนในศาสตร์เฉพาะ...ของตนก็ตาม...แต่จากนี้คงเป็นอนาคตที่ต้องฉายภาพให้ชัดเจนสำหรับแนวทางการพัฒนาวิศวกรสังคมให้เกิดความยั่งยืนและให้ได้ผลอย่างแท้จริง "...สร้างนโยบายวิศวกรสังคมเป็นเครื่องมือพัฒนาสังคมภายในองค์กรที่มีเอตทัคคะ...พิเศษ" #หน่วยบ่มเพาะวิศวกรสังคม #ศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรสังคม ต้องเกิดขึ้นให้ได้....เพื่อสร้างต้นแบบวิศวกรสังคมให้ได้ผลอย่างแท้จริง!
...ถามว่า ทำยากไหม? ตอบเลยว่า ...ยากมาก...เพราะต้องคิด ทำแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร... คนต้องใช่ งบต้องถึง...พึ่งพาได้...
[วิศวกรสังคมในมุมองของผมได้ผ่านได้แลกเปลี่ยนผู้ทรงคุณวุฒิมาหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านแตกต่างกันไปตามกรอบวิธีคิดของแต่ละคนที่ได้มีความเชี่ยวชาญแต่ละศาสตร์...ทำให้มุมมองวิศวกรสังคม จึงสรุปไว้สั้นๆว่า ผู้มีภูมิความรู้จริงในศาสตร์ของตน เห็นปัญหาจริงที่คนในสังคมแล้วนำศาสตร์ที่มีไปเป็น "กลไก-เครื่องมือ" ในการช่วยเหลือ แก้ปัญหา พัฒนาให้สังคมมีความขัดแย้งน้อยที่สุด มีความสุขและสันติภาพมากที่สุด" (รองศาสตราจารย์ ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด, 12 พค. 2567)
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
นวัตกรรมการพัฒนาสังคมตามแนวพระราชดำริ
กระบวนทัศน์พัฒนาสังคมและวัฒนธรรม
การจัดการโครงการทางสังคมและวัฒนธรรม
วิถีวิศวกรสังคม
...Vlog at Buddhamonthon...Magha Puja...♤♤♤
...ตรวจงานกลุ่ม 7 ...ความโชคดีคือการได้ทำบุญ ร่วมกิจกรรมบุญในพื้นที่พุทธมณฑล ตามความเชื่อของตน participant observation เป็นการแสวงหาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ให้เกิดความรู้ทางพุทธศาสนาไป 4 ระดับความรู้จาก (1) consciousness-วิญญาณ อายตนะ 6 (2) Perception-จำได้หมายรู้ (3) Theory-ความเห็น สรุปรวบยอด ความเห็นในเชิงข้อเท็จจริงตามปรากฏการณ์ (5) superknowledge อภิญญา รู้แจ้ง เป็นความรู้ขั้นสูงสุดของพุทธศาสนา...ultra conscious insight
...เวียนเทียนเวียนใจให้อิ่มบุญ...บุญนี้ไม่มีขายอยากได้จงทำเอง...
#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#ตรวจงานการลงพืนที่ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด
...#ลงพื้นที่ศึกษาเรียนรู้เข้าใจเข้าถึงชุมชน
...ได้เรียนรู้สีที่นำมาทำเสื้อ โดยใช้พืชพันธุ์ต่างๆรอบตัวมาทำเป็นสีย้อมผ้า อย่างเช่น ลูกจาก,มังคุดเมื่อนำมาทำสีเสื้อ เราจะได้สีน้ำตาล คลั่งเมื่อนำมาทำสีเสื้อ เราจะได้สีชมพู ใบหูหวางเมื่อนำมาทำสีเสื้อ เราจะได้สีเหลือง และ สีเขียว
ชุมชนสอนให้เราได้รู้จักกับพืชพันธุ์ “พิลังกาสา” เบอร์รี่ป่าบางกระเจ้า ที่มีสรรพคุณ บำรุงธาตุ บำรุงโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ และ สารฆ่าเชื้ออิโคไล
ชุมชนนี้เป็นชุมชนที่มีการเสริมสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยการสอนให้ชาวบ้านได้รู้จักการพึงพาตนเอง ในการปลูกพืชพันธุ์ผัก,ผลไม้ที่สามารถปลูกเองได้ ไว้ใช้ในการดำรงชีวิต หรือ นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
...ปอ สุภัค ปี 2, แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานเดี่ยวพี่ปี 2 รายวิชา ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ....ภาคเรียนที่ 2/2566 #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...กุฎีจีน หรือ กะดีจีน ชุมชนรินแม่น้ำเจ้าพระยาอันเก่าแก่ฝั่งธนบุรี เต็มไปด้วยกลิ่นอายความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ที่เมื่อมาแล้วไม่ควรพลาด เช่น โบสถ์ซางตาครู้ส(วัดซางตาครู้ส) โบสถ์ประจำชุมชนที่สวยงาม และเป็นโบสถ์ที่มีการเล่นระฆังการิย็องที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งในประเทศ, พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน สถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชนกุฎีจีน, ศาลเจ้าเกียนอันเกง ความเก่าแก่ร่วมร้อยปี แต่ยังคงความสวยงามด้วยงานไม้แกะสลักที่แสนปราณีตและละเอียด และยังมีสถานที่อื่นๆในละแวกชุมชนอีกมากมาย รอให้ผู้ที่ชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ได้มาเยี่ยมชมและสัมผัสกับบรรยากาศที่น่าหลงไหล นอกจากนี้ชุมชนยังมีขนมขึ้นชื่อที่ต้องลองเมื่อได้ไปเยี่ยมเยียนชุมชนแห่งนี้ นั้นก็คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน หนึ่งในขนมจากตำหรับท้าวทองกีบม้า ร้านขนมฝรั่งหลานแม่เป้า ยังคงสืบทอดการทำขนมแบบโบราณดั้งเดิมไว้ เพื่อรักษาความอร่อยของขนมฝรั่งกุฎจีน ขนมประจำชุมชนกุฎีจีนเพื่อให้บุคคลภายนอกได้ทานขนมที่เหมือนต้นตำหรับ...
#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#ชุมชนตรอกวังหลัง (ห้างสรรพสินค้าเดินดิน)
...#ชุมชนศึกษา. ... ตรวจงาน รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด จากการที่ได้ลงไปศึกษาชุมชนตรอกวังหลัง ทำให้ได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชน ประวัติความเป็นมาที่มีมาอย่างยาวนานของชุมชน การประกอบอาชีพของคนในชุมชน และยังทำให้เราได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนอย่างแท้จริง
ชุมชนตรอกวังหลังมีตลาดวังหลังที่เปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าในชุมชนที่มีทั้งอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาจับจ่ายใช้สอยได้และเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่หมู่นักท่องเที่ยวมักจะนิยมกันมา และอีกทั้งชุมชนตรอกวังหลังต้นโพธิ์ เป็นชุมชนต้นแบบในการจัดระเบียบที่อยู่อาศัยชุมชนแออัดอีกด้วย....ปี 2...#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานกลุ่มที่ 11 ...Vlog: ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร...#เอกพัฒน์สวนนันท์
...การพัฒนาที่ดีที่สุด คือ การพัฒนาคน การพัฒนาคนที่ดีที่สุดต้องเริ่มจากวัยเด็ก ถ้าเด็กได้รับการปลูกฝังความดีงาม การรู้จักวินัย การรู้จักพึ่งตนเอง การเรียนรู้อย่างมีความสุข เด็กจะเรียนดี มีความสุข และจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีความรับผิดชอบต่อสังคมที่ดีสืบไป... รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
*ภาพและวีดีโอที่มีภาพน้อง ๆ ที่ศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียนได้รับอนุญาตจากครูผู้ดูแล/ปกครอง ผู้นำชุมชน และน้อง ๆ เรียบร้อยแล้ว และพวกเราตระหนักในคุณค่า ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับน้อง ๆ เด็ก ๆ ทุกคน
นวัตกรรมการพัฒนาสังคมตามแนวพระราชดำริ
ความคิดรวบยอด: รากฐานที่เป็นปรัชญาในการดารงชีวิตด้วยความพอเพียงมีรากฐานสาคัญมากจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่เรียกว่า “มรรค 8” และวัฒนธรรม ประเพณีของไทยซึ่งเป็นพื้นฐานในการกล่อมเกล่าคนในสังคมให้มีวิถีชีวิตเฉพาะคนไทยจนเกิดค่านิยมให้คนไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตน นอกจากนี้สิ่งที่เป็นพื้นฐานสาคัญคือการมีรากฐานที่สาคัญด้วยสภาพสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและสิ่งแวดล้อมที่มีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งมีระบบการปกครองที่ได้รับการพัฒนาจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยซึ่งการส่งผ่านสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทย วิถีไทย ค่านิยมไทยจากยุคสมัยกรุงสุโขทัย (พ.ศ. 1792) ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ (ยุคปัจจุบันพ.ศ.2558) นับกว่า 766 ปี ที่สืบทอดต่อกันมาจนทุกวันนี้
ที่มา: ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด. (2558). เอกสารประกอบการสอน รายวิชาเศรษฐกิจสังคมตามแนวพระราชดาริ. แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม กลุ่มวิชาการจัดการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม ภาคสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
การลงพื้นที่ #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ
...ตรวจงานเดี่ยวรายวิชา "ชุมชนศึกษา" รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ...ปี 2 ภาคเรียนที่ 2/2566 #เข้าไปเข้าใจเข้าถึงชุมชน
...จากข้อมูลที่รับฟังบรรยายประวัติศาสตร์ชุมชน ดูการทำอาหารพื้นบ้านประจำท้องถิ่น เดินชมมัสยิด ทำให้ได้ทำความรู้จักชุมชนมุสลิม ‘แขกแพ’ ที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่แห่งนี้ได้ดียิ่งขึ้น
...มัสยิดบางอ้อนับว่าเป็นมัสยิดที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น และอนุรักษ์ความดั้งเดิมไว้ได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยการบูรณะอาคารมัสยิดครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2554 จึงจำเป็นต้องดีดยกอาคารและปรับปรุงซ่อมแซมส่วนประกอบต่าง ๆ ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์ของกรรมการมัสยิดและคนในชุมชนที่เห็นความสำคัญ และช่วยกันอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์หลังนี้ไว้ได้อย่างดี ตลอดจนความช่วยเหลือด้านงบประมาณจากสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร ปัจจุบันอาคารมัสยิดได้รับรางวัลจากสมาคมสถาปนิกสยาม เป็นอาคารที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์...
#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานกลุ่มที่ 13 #Vlogวิถีวิธีบ้านล่าง รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด
หลังจากที่เราได้ลงชุมชนบ้านล่างได้สัมผัสวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ถึงแม้จะต่างศาสนา แต่ความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชนนั้นยังคงมีอยู่เสมอ แต่ละบุคคลดำเนินชีวิตตามแบบวิถีชีวิตของตนเอง ประเพณีมีความหลากหลาย แหล่งท่องเที่ยวมากมาย สไตล์ไทย อิสลาม
...จุดเด่นที่สำคัญของชุมชนบ้านล่าง มีขนมบดินทร์ โรงเรียนศาสนธรรมวิทยาสวนพลู การท่องเที่ยวทางรถไฟ วงเวียนใหญ่-มหาชัย
#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
กระบวนทัศน์พัฒนาสังคมและวัฒนธรรม
กระบวนทัศน์พัฒนาสังคมและวัฒนธรรม
เกริ่นนำ: คำว่า “คิดออกแล้ว” เป็นพื้นฐานที่ผู้สอนให้นักศึกษาได้มีโอกาสเริ่มต้นในการออกแบบความคิดเชิงระบบที่เป็นความคิดพื้นฐานของกระบวนทัศน์ ซึ่งคำว่า กระบวนทัศน์ (Paradigm) จึงถูกก่อรูปขึ้นจากความคิดของมนุษย์โดยเริ่มต้นจากคำว่า คิดออก คิดได้ คิดเป็น จึงก้าวสู่การคิดเป็นระบบ เป็นขั้นตอน เป็นวิชาการ เป็นกระบวนวิธี เป็นวิธีวิจัย เป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์ เป็นโยนิโสมนสิการ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของความคิด คือ “พุทโธ” (รู้ ตื่น เบิกบาน)” หรือ “การตรัสรู้” ดังนั้นหากย้อนกระบวนทัศน์ จึงเป็นเพียงเส้นทางที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบเท่านั้นแต่มิใช่องค์ความรู้ที่จะนำไปใช้อย่างเป็นรูปธรรมได้ เหมือนถนนที่รองรับรถไปสู่จุดหมาย เหมือนรางน้ำที่ให้น้ำฝนไหลไปสู่โอ่ง เหมือนคลองน้ำชลประทานที่ควบคุมการไหลไปสู่เกษตรกร กระบวนทัศน์จึงเป็นเหมือน “เส้นทางของความรู้ที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ” จึงมีนักวิชาการหลายคนที่เรียกความคิดต่าง ๆ ที่เป็นระบบ ที่เป็นรูปธรรม มีความเป็นเหตุเป็นผล มีความเป็นวิทยาศาสตร์ ใช้เรียกกันว่า “กระบวนทัศน์” นั่นเอง
ที่มา: ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด. (2564). เอกสารคำสอนรายวิชา SDM1201 กระบวนทัศน์พัฒนาสังคมพื้นฐาน. แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม กลุ่มวิชาการจัดการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม ภาคสังคมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
...ตรวจงานวืชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ...ปี 2...
...ชุมชนคลองบางมดเป็นชุมชนที่อยู่มานานหลายปี เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ สะท้อนถึงวิถีของคนริมคลอง อยู่ร่วมกันระหว่างศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม รวมทั้งยังมีคนจีนอาศัยอยู่ในชุมชนนี้อีกด้วย สมัยก่อนชาวสวนได้มีการปลูกส้ม มะพร้าว และพืชผักสวนครัวต่างๆ
...อีกทั้งริมคลองบางมดยังเป็นที่ตั้งของ วัดพุทธบูชา วัดยายร่ม วัดสีสุก และยังมีมัสยิดที่โดดเด่น คือ มัสยิดดาริลหะซัน มัสยิดนูรุ้ลฮุดา และมัสยิดดารุ้ลอิบาดะห์
...มีศาลของคนจีน คือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม มีบ้านเรือนหนาแน่นนริมคลองสองฝั่ง และยังมีตลาดเปิดใน วันเสาร์-อาทิตย์ (ตลาดมดตะนอย)
...สิ่งที่ได้รับจากการลงพื้นที่ชุมชนริมคลองบางมดได้เรียนรู้ถึงวิถีวัฒนธรรมของคนในชุมชน ความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิตริมคลอง การประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้ยังเป็นการอยู่ร่วมกัน #แบบพหุวัฒนธรรม ก็คือคนในชุมชนมีการนับถือศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธ ได้รู้ถึงต้นกำเนิดของริมคลองบางมด การทำการเกษตร ปลูกต้นไม้ เช่น ต้นมะพร้าว ต้นส้ม พืชผักชนิดต่างๆ เช่น ผักกาดขาว ต้นอ่อนผักบุ้ง ผักสลัด รวมถึงได้รับความรู้เรื่องการปลูกผัก ผักแต่ละชนิด การคัดแยะขยะแต่ละประเภท การกักเก็บนํ้าเอาไว้ใช้ การเปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เปิดบ้านให้เป็นร้านอาหาร ...ปนิตา 036 #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานกลุ่มที่10 [1 DAY VLOG] - เพิ่มความปังรับพลังปีใหม่2567 ขึ้นปีใหม่ทั้งทีไปทำบุญเพิ่มพลังตอนรับปีใหม่กัน วันนี้เราเลยพาทุกคนไปทำบุญและแนะนำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯที่ไหนให้ได้ไปตามรอยกันบ้าง ไปดูกันเล๊ยย ...นักศึกษาลงรายละเอียดดีมาก..
#เอกการจัดการวัฒนธรรม กลุ่มวิชาการจัดการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
การจัดการโครงการทางสังคมและวัฒนธรรม
การจัดการโครงการเป็นการเรียนแบบผสมผสานระหว่างทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งมุ่งให้นักศึกษาตั้งทีม คิดออกแบบ วางแผน เขียนโครงร่าง ลงมือปฏิบัติ และเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์เป็นผังภาพกระบวนการจัดการโครงการ
#ขัดเกลาให้แวววาวนักศึกษาเอกพัฒน์สวนุนันทา
...จะรู้ได้อย่างไรว่า "เรามีความรู้" ...ก็อยู่ที่พวกเรารู้จักนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์จริง ๆ กับคนหมู่มาก...คำว่า "ช่วยป้า" เป็นโจทย์ที่ให้นักศึกษาโครงการดุสิตระบือธรรมไปค้นหาช่องทางปัจจุบันที่ง่ายในการสื่อสารไปยังกลุ่มต่าง ๆ เพื่อช่วยป้าโปรโมตผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพภัฏพัฒน์วัดประชาระบือธรรม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร แต่แกนหลักที่อยากเห็นคือ อาจารย์ต้องการฝึกนักศึกษามืออาชีพ...เมื่อได้โจทย์ร่วมคิดเป็นเหตุเป็นผล ร่วมออกแบบ ทำงานเป็นทีมได้ แบ่งหน้าที่ ลงพื้นที่ เขียนโครงการ ออกแบบกิจกรรม ประสานงาน ไปตั้งหลักในชุมชน ไปฉายภาพในสิ่งที่ทำให้อาจารย์ได้เห็นเหมือนกับที่พวกเราเห็น และต้องปิดงานมอบหมายให้ได้ รายงานต้องเป็นคลิป วีดีโอ หนังสั้น ไม่เอาpaper ที่สำคัญอย่าจ้างคนอื่นทำในงานของนักศึกษาเอง...หลายงานที่เราไปพัฒนาสังคม ชุมชน หรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ระยะเวลาสั้นกระบวนการทำงานหรือวิธีการมันสำคัญกว่าความสำเร็จ เพราะการพัฒนาต้องรอเวลาความสำเร็จนาน ฉาบฉวยไม่ได้...
....งานทุกชิ้นไม่มีคำว่าไม่แก้ไข ให้แก้ตัว ไม่แก้ตัว ให้แก้ไข จึงสมบูรณ์... รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด
กระบวนการลงพื้นที่ศึกษาชุมชน
กระบวนการลงพื้นที่ศึกษาชุมชน
#ไทม์ไลน์กระบวนการลงพื้นที่ ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญ เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี #เอกพัฒน์สวนนัน แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#กระบวนการแรกในชั้นเรียน-รับมอบหมายงาน
อาจารย์ผู้สอน (รองศาสตราจารย์ ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด) กำหนดให้นักศึกษาจับกลุ่ม (รวมเพื่อนนักศึกษากันได้ 8 คน) ตั้งไลน์กลุ่มไว้เพื่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลลงพื้นที่ กับเพื่อนและอาจารย์ เกี่ยวกับกระบวนการทำงานลงศึกษา“ชุมชนศึกษา” โดยนักศึกษาเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ซึ่งอาจารย์จะใช้รูปแบบการสอนและติดตามกระบวนการทำงานในชุมชนทั้ง onsite online ondemand onhand ชนิด realtime
#กระบวนการที่ 2 รวมกลุ่มพูดคุยในชั้นก่อนเรียน-นอกชั้นหลังเรียน-ออนไลน์
(1) สมาชิกในกลุ่ม พูดคุย ปรึกษาข้อมูล แลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อออกความคิดเห็นว่าจะลงชุมชนศึกษาในเรื่องอะไร บทสรุปที่ระดมความคิด ได้ศึกษาเรื่อง ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญ เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
(2)เมื่อได้พื้นที่ และประเด็นการศึกษาในชุมชนแล้ว จึงช่วยกันหาข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับชาวมอญเกาะเกร็ดจากเว็บไซต์อห้องสมุดให้ละเอีนดและสมบูรณ์ เพื่อนำเสนออาจารย์ผู้สอน
#กระบวนการที่ 3 ปรึกษาอาจารย์เตรียมการลงพื้นที่
ข้อมูลเพียงพอและยืนยันจากที่ อาจารย์ผู้สอน ได้อนุญาตให้สามารถลงพื้นที่ได้แล้ว พวกเราในกลุ่ม เตรียมโทรศัพท์มือถือในการบันทึกข้อมูลและภาพ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่นติดต่อประธานชุมชนและคนในชุมชนเพื่อทราบข้อมูลเบื้องต้นของชุมชนในปัจจุบัน จึงเริ่มนัดหมาย วัน เวลา และสถานที่เพื่อพบเจอกัน
#กระบวนการที่ 4 ลงพื้นที่จริง (สำรวจพื้นที่ครั้งแรก)
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 (วันมาฆบูชา) เป็นอีกหนึ่งวันทำบุญใหญ่ของชาวมอญ ได้ทำการลงพื้นที่ครั้งแรก นัดเจอกันที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อนั่งรถเมล์ต่อไปนนทบุรี แล้วนั่งวินมอเตอร์ไซต์ไปลงท่าเรือข้ามฟากเกาะเกร็ด แล้วจึงถึงที่หมาย นั่งเรือข้ามฟาก แล้วจึงถึงที่หมาย วัดปรมัยยิกาวาส ทีมนักศึกษาได้เดินสำรวจชุมชนด้วยกันทั้ง 8 คน เก็บภาพประเพณี วัฒนธรรม ของชาวมอญที่เดิมทางมารวมตัวกันเพื่อทำบุญใหญ่ และสำรวจเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม และประติมากรรม ของเจดีย์ขาวชาวมอญ
ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านในตลาด OTOP เพื่อเก็บข้อมูล
(จากการลงพื้นที่ครั้งแรกยังเก็บข้อมูลได้ไม่มากนัก จึงกลับมาเพื่อวาวแผนใหม่และทำแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลในการลงพื้นที่ครั้งต่อไปให้ได้ข้อมูลครบและละเอียดมากกว่าเดิม)
#กระบวนการที่ 5 นำข้อมูลที่ได้รับปรึกษาอาจารย์เพื่อสร้างแบบเก็บข้อมูล
(1) วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 ได้เข้าไปปรึกษา อาจารย์ผู้สอน เพื่อขอคำแนะนำ และอัพเดตข้อมูลที่ได้มาจากการลงพื้นที่ครั้งแรก อาจารย์ผู้สอน ได้ให้นักศึกษามองให้เห็นถึงปัญหา และได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำแบบสอบถามอย่างละเอียดเพื่อการลงพื้นที่ครั้งต่อไป ได้ข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนและมีประสิทธิภาพที่สุด และได้มีการอัพเดตแบบสอบถาม และข้อมูลกับอาจารย์ผู้สอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อความสมบูรณ์
(2) แบบสอบถามเสร็จสมบูรณ์ นักศึกษาได้นัดหมายพูดคุยกันถึงปัญหาจากการลงพื้นที่ครั้งแรกในกลุ่ม และวางแผนนัดหมายในการลงพื้นที่ใหม่ในครั้งที่ 2
#กระบวนการที่ 6 ลงพื้นที่เก็บข้อมูลตามแบบสอบถาม
(1) วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568 ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 นัดหมายสถานที่เดิม เวลาเดิม ได้ทำการแบ่งกลุ่มลงพื้นที่เป็ร 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน กระจายกันไปลงพื้นที่ สำรวจ เและสัมภาษณ์เพื่อขอความรู้จากชาวบ้านในชุมชน รวมไปถึงการ เก็บภาพ ทำคลิป
และจากการลงไปสัมภาษณ์ทางร้านค้าข้างทาง และพระในวัด ได้รับผลตอบรับไปในทางที่ดีมาก ชาวบ้านบางส่วนให้ความร่วมมือ และแบ่งปันข้อมูล รวมไปถึงเเนะนำว่า ควรไปหาความรู้จากใครคนไหนที่เป็นชาวมอญที่ยังเหลืออยู่ในชุมชน (ขั้นตอนนี้ต้องเก็บข้อมูลมากที่สุด)
(2) การเก็บข้อมูลในพื้นที่ต้องมีการถ่ายภาพและอัพเดตรูปภาพข้อมูลเบื้องต้นในไลน์กลุ่ม เพื่ออัพเดตให้อาจารย์ผู้สอนทราบว่าตอนนี้ได้ดำเนินการไปถึงจุดไหนและรอฟังคำเสนอแนะ และปรึกษาอาจารย์เพื่อให้ทราบสิ่งที่ขาดตกไปนำมาเติมให้สมบูรณ์
#กระบวนการที่ 7 ประชุมตรวจสอบข้อมูล สรุปข้อมูลเบื้องต้น
(1) หลังจากลงพื้นที่เสร็จ ได้รวมตัวกันสรุปข้อมูลการลงพื้นที่ พบว่า ในชุมชนเกาะเกร็ดนี้ ยังมีชาวมอญเหลืออยู่ แค่ส่วนมรได้ล้มหายตายจากไป เนื่องจากคนมอญส่วนใหญ่ มีอายุเยอะมากแล้ว และการย้ายถิ่นฐานออกไปอยู่ที่อื่น ได้รับความรู้เกี่ยวกับชาวมอญตั้งแต่ อดีต-ปัจจุบัน เครื่องแต่งการ อาหาร การละเล่น วัฒนธรรม ความเชื่อที่สืบทอดกันมาในปัจจุบัน และสิ่งที่หล่นหายไประหว่างอดีต-ปัจจุบันคือ วัฒนธรรม การแต่งกาย ความเชื่อ และภาษา เนื่องจากลูกหลาน เด็กๆสมัยใหม่ หันไปหาเทคโนโลยีหมด และได้นำสิ่งใหม่เข้ามาแทน วัฒนธรรม ทำให้ความเป็นชาวมอญที่ผู้คนเห็นกันในอดีต หายไปในปัจจุบัน เนื่องจาก ผู้คนขาวมอญยุคเก่า ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีชีวิตให้เป็นไปตามปัจจุบัน แต่ยังคงมีวัฒนธรรมการทำบุญใหญ่ที่ชาวมอญทุกพื้นที่จะแต่งตัวมารวมตัวกัน เพื่อทำบุญใหญ่ในแต่ละเทศกาล การลงพื้นที่ในครั้งที่ 2 ได้ข้อมูลมาครบถูกต้องตามที่วางแผน
#กระบวนการที่ 8 สรุปขั้นตอนการทำงานลงพื้นที่และถอดบทเรียน
(1) นำข้อมูลที่จะนำเสนอทั้งหมด มาตรวจสอบรายละเอียดเนื้อหาข้างต้น ตรวจสอบความถูกต้อง ความครบถ้วนของข้อมูล เพื่อนำส่ง อาจารย์ผู้สอน
(2) นำข้อมูลที่ได้สรุปมาแล้ว เขียนไทม์ไลน์ และ นำมาเขียนแบบฟอร์มสัมภาษณ์ เรียบเรียงสรุปข้อมูลเพิ่มเติท และทำคลิปวิดีโอ เพื่อนำเสนออาจารย์ผู้สอน เผยแพร่สู่สาธารณต่อไป
#กระบวนการที่ 9 เรื่องเล่าของผลลัพธ์ที่ได้จากการลงชุมชน (#StudentsVIEW)
จากการลงพื้นที่ศึกษาวิถีชีวิตชุมชนชาวมอญเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม พบว่า ผู้คนในชุมชนใช้ชีวิตแบบประจำวันแบบเดิม และ เดินทางในช่วงวันหยุดก็จะคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากชุมชนตรงนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาวิถีชีวิตและ สินค้า OTOP และการลงพื้นที่ทั้งสองครั้ง เราได้ทราบข้อมูลจากชาวมอญที่อาศัยในพื้นที่ ผู้คนส่วนมากให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์ให้ความรู็กับนักศึกษา บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน สามารถสอบถามข้อมูลจากชาวมอญเกาะเกร็ดได้จำนวน 8 คน
ข้อมูลที่ได้รับได้จากการสำรวจชุมชนเกาะเกร็ด คือ
•ได้ทราบประวัติความเป็นมาข้อมูลของชาวมอญ จากผู้คนที่อาศัยอยู่ และการปรับตัวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
•ปัจจัยในการขับเคลื่อน แหล่งยึดเหนี่ยว สูญรวมความสามัคคีของชาวมอญเกาะเกร็ด ที่นำมาให้มารวมตัวกันทุกๆปี คือ วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมที่สืบทอดกันมา
•ได้พูดคุยกับกลุ่มบุคคลที่ยังคงอนุรักษ์และอยากจะเผยแพร่ วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวมอญเกาะเกร็ด ทั้งด้าน ภาษา อาหาร การแต่งกาย เรื่องความเชื่อ และเครื่องปั้นดินเผาของชาวมอญ
•ได้ทราบถึงบุคคลสำคัญที่นำมาซึ่งความพัฒนาในชุมชนชาวมอญเกาะเกร็ด ให้เป็นที่รู้จัก คือ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
•ได้รับรู้ถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นในชุมชน ที่นำไปสู่ความต้องการของผู้คนในชุมชน และสาเหตุที่ทำให้ผู้คนย้ายถิ่นฐาน ออกจากเกาะเกร็ด ไปตั้งถิ่นฐานใหม่
...แม้ในการลงพื้นที่ครั้งแรกจะเกิดข้อผิดพลาดด้านการวางแผนและได้ข้อมูลมาค่อนข้างน้อย ทางนักศึกษาได้นำความผิดพลาดมาแก้ไขปรับปรุง วางแผนใหม่ให้ดีขึ้น เพื่อการลงพื้นที่ในครั้งที่สอง ได้รับข้อมูลที่ละเอียดและมากขึ้นกว่าเดิม จากข้อมูลที่รวบรวมได้จะช่วยให้เห็นภาพ และสะท้อนวิถีชีวิตของชาวมอญเกาะเกร็ด ให้ผู้คนที่สนใจจะศึกษาต่อได้รับรู้และมองเห็นเป็นภาพชัดเจน และสามารถนำไปศึกษาต่อเพื่อหาแนวทางหรือนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ที่จะนำวิถีชีวิตชาวมอญไปพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
...ทีมทำงาน ปี 2 #ส่งงานอาจารย์เอฟ
...ตรวจงานกลุ่มที่ 8 Vlog: ตลาดน้ำตลิ่งชัน... ได้เดินเที่ยวชมตลาดดูสินค้าของชาวบ้าน ได้สัมผัสบรรยากาศของตลาดและสัมภาษณ์พูดคุยกับตัวแทนร้านค้าบางร้านถามถึงการค้าขาย ถามไถ่แม่ค้าพ่อค้า ร่วมถึงการขายของบนเรือ และคนขับเรือที่ให้บริการกับนักท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาที่อยากให้แก้ใข #พัฒนาสังคมต้องลงพื้นที่ ...ไปให้สัมผัสกับชาวบ้านจริงตลิ่งชันในวันเดียว #ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานกลุ่มที่ 4 #ร่องรอยอดีตจากบางข้าหลวงสู่ชุมชนคลองบางหลวง ....จากกรุงศรีอยุธยาสู่กรุงเทพมหานคร...
...ชุมชนคลองบางหลวง เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชุมชนคลองบางหลวงถือเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชุมชนแห่งนี้ได้...#วัดแววนักพัฒน์ทักษะวิศวกรสังคม... แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…ตรวจงานนักศึกษา My SEP #เอกพัฒน์สวนสุนันทา #รู้จักประมาณตน ;))
…“การใช้ชีวิตแบบ Slow Life" ก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลค่ะ
เพราะความหมายที่แท้จริงแล้ว ไม่ใช่การใช้ชีวิตแบบทำอะไรเชื่องช้าหรือล้าหลัง แต่คือการสร้างความสมดุลในการวางแผนใช้ชีวิต ไม่ต้องวิ่งตามวัตถุนิยม ไม่ต้องตามกระแส โดยยึดหลักความพอเพียง รู้จักประมาณตน วางแผนการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ ตั้งใจทำงานศึกษาหาความรู้ ก้าวให้ทันโลกอยู่เสมอค่ะ
สุดท้ายนี้ _*เราไม่ต้องยืนให้สูง ไม่ต้องยืนให้เด่น ขอแค่ยืนด้วยตัวเองให้เป็นแล้วไม่ล้มก็พอ*_ ค่ะ“ " (072 สุพัตรา) #ไม่ต้องวิ่งตามวัตถุนิยม
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานนักศึกษา My SEP ใน #วิถีวิธีพอเพียงของนักศึกษา #เอกพัฒน์สวนสุนันทา
"...วัยรุ่นสร้างตัวเป็นวิธีการฝึกฝนตนเองให้รู้จักพึ่งตนเอง หารายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ทุกอย่าง ซึ่งการสร้างตนเองวันนี้จะเป็นเกราะป้องกันเราเองในอนาคตที่เราจะไปทำงานจริง ๆ หลังจากเรียนจบ ดังนั้นการรู้จักพึ่งตนเองด้วยวัยรุ่นสร้างตัวจะเป็นการฝึกการรู้จักใช้เงินที่พอประมาณ การใช้เหตุผลในการดำรงชีวิตและเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในอนาคต...เพื่อน ๆ อย่าลืมฝึกเป็น "วัยรุ่นสร้างตัว" นะคะ...บ๊าย ๆๆ..." [018 จิรประภา]
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานนักศึกษา My SEP ใน #วิถีวิธีพอเพียงของนักศึกษา #เอกพัฒน์สวนสุนันทา
"...วิธีการประหยัดเงินในแบบฉบับของเด็กบ้านไกลที่ต้องนั่งรถขนส่งสาธารณะจากสมุทรปราการ-ไปมอ (มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา) ที่เขตดุสิต ให้ได้ในราคาที่ประหยัดที่สุด ในการเดินทางด้วยรถเมล์ไปมอ 1 ขาในราคาแค่ 30 บาท ซึ่ง 1 อาทิตย์มามอ 2 วัน ก็จะเสียเงินในการเดินทางมามอ แค่ 120 บาทเองค่ะ ด้วยการนั่งรถเมล์ ถ้าไม่หยัดก็จะมีวิธีการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วกว่านี้คือการนั่งรถไฟฟ้า BTS ค่ะ 1 ขาเราต้องเสียเงินถึง 89 บาทเลย ถ้า 1 อาทิตย์มามอ 2 วันก็จะเสียเงินถึง 356 บาทเลย สรุปการนั่งรถเมล์ช่วยประหยัดเงินในการเดินทางถึง 236 บาทค่ะ..." [004 นางสาวอรัญญา]
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ที่นี้...กำแพงเพชร...
#ชุมชนนครชุม #ชุมชนเมืองโบราณ๖๖๗ปี
...จากการลงพื้นที่ศึกษาชุมชน ทำให้รับรู้ถึงวิถีชีวิตคนในชุมชนความเป็นมาของชุมชน ที่มีมาอย่างยาวนาน ๖๖๗ ปี วัฒนธรรม ประเพณีในชุมชน ที่ยังมีให้เห็นในปัจจุบันและอาหารพื้นถิ่นของชุมชนที่แปลกจากที่อื่น
ได้รับรู้ถึงวิถีชีวิตคนในชุมชน การค้าขาย ที่ดึงเอกลักษณ์ของบ้านเรือนแบบเก่า สไตล์ย้อยยุคของชุมชนมาเป็นจุดขายทางการตลาดกระตุ้นรายได้ให้คนในชุมชน (ด้านท่องเที่ยว)
#แหล่งเรียนรู้ “ข้าวตอกอัด” ขนมพื้นถิ่น
ได้สัมผัสรสชาติขนมโบราณที่ไม่เคยกิน ไม่เคยรู้จักมาก่อน ขนมพื้นถิ่นที่แปลก หากินได้ยาก สืบทอดภูมิปัญญารุ่นสู่รุ่นคนในชุมชน
#โบราณสถาน ใกล้ชุมชน
รับรู้ถึงร่องรอยสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ ชุมชน และ พื้นที่ใกล้เคียง
#วัดพระบรมธาตุวัดอารามหลวงใจกลางชุมชน
ได้รับรู้ถึง ความเป็นมาประเพณีครั้งใหญ่จุดเริ่มต้นของชุมชนที่มีมา๖๖๗ปี โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ทั้งความเชื่อ ศาสนา ศาสนศึกษาในชุมชน
รับรู้ถึงวิถีชีวิตคนในชุมชนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ
“ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เหลือก็แบ่งปัน” เป็นแนวคิดวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่พึงพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนของคนในชุมชนนครชุม. #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจปิดงานการลงพื้นที่ภาคเรียนที่ 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ที่นี้พาหุรัด…ประเทศไทย
เรื่องนี้ต้องขยาย….ให้อ่าน-ดู#ชุมชนพาหุรัด
…ผ้าแห่งชีวิต ศาสนา วัฒนธรรม…#พาหุรัดประเทศไทย
…ตรวจงานพี่ปี 2 #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566>>>>>>
>>> จากการลงชุมชนพาหุรัดอย่างแรกเลยคือได้เปิดโลกใหม่ ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทำให้รู้ว่ามีอะไรที่หลากหลายมากมายในชุมชน เพราะพาหุรัดไม่ได้มีแค่การขายผ้าอย่างเดียว บรรยากาศในชุมชนพาหุรัดเหมือนได้ไปที่ประเทศอินเดียจริงๆ ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันทั้งวิถีชีวิต วัฒนธรรม ผู้คน อาหาร ขนม สถานที่สำคัญต่างๆในชุมชน ความเป็นวิถีชีวิตที่ผสมผสานความของความเป็นอินเดีย เพราะชุมชนพาหุรัดส่วนใหญ่จะเป็นคนอินเดียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมามากกว่า20ปี
ความรู้ที่ได้จากการลงชุมชนพาหุรัด ได้รับข้อมูลและความรู้มากมายหลายแขนง ทั้งความเป็นมาของชุมชน สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมทางศาสนา วัดคุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภาหรือวัดซิกข์ และสถานที่ที่เอาไว้เคารพสักการะบูชา ศาลเจ้าพาหุรัดและศาลเจ้าแม่ทับทิม และจุดเด่นของพาหุรัดคือเรื่องของผ้า ชนิดของผ้า เช่นผ้าส่าหรี ผ้ามัสลิน ได้รู้จักเครื่องประดับของประเทศอินเดียที่มีความสวยงามความประณีต และได้ลองสัมผัสรสชาติ อาหารที่มีรสชาติแปลกใหม่ ทั้งปานิปูริ แป้งนานอินเดีย ขนม ราสมาลัย กุหลาบจามุน และซาโมซ่าขนมท่านเล่นของอินเดียที่เป็นเจ้าเก่าแก่ขายมานานกว่า30ปี
>>>ข้อคิด “อย่าตัดสินอะไรจากที่เคยได้ยิน เราต้องลองทำลองสัมผัสด้วยตัวเอง” ซึ่งการลงไปศึกษาชุมชนพาหุรัด ทำให้ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยสัมผัสมากก่อนเพราะเป็นชุมชนที่มีความเป็นอินเดียเกือบ100% ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่มากและท้าทายมาก ทำให้มุมมองเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยคิดว่าถ้านึกถึงคำว่าอินเดีย คือน่ากลัว มีแต่กลิ่นเครื่องเทศแรงๆ การลงชุมชนครั้งนี้ทำให้ ได้เข้าใจ รับรู้ เข้าถึง วัฒนธรรมสิ่งต่างๆของความเป็นอินเดียมากขึ้น ผู้คน อัธยาศัยดี มีน้ำใจ ใจดี ทำให้ได้รับมุมมองใหม่ๆ และเปลี่ยนความคิดของคำว่าอินเดียแบบเดิมๆไปได้มาก สิ่งสำคัญคือขอบคุณพี่ๆจากร้านต่างๆที่ได้ไปสัมภาษณ์ที่ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้สึกประทับใจและดีใจ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้มีโอกาสได้ไปศึกษาชุมชนพาหุรัด
เพราะพาหุรัดมีทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต ผู้คน ศาสนา สถานที่ เสื้อผ้า อาหาร ขนมบรรยากาศ เป็นสถานที่ที่มีครบทุกรสชาติครอบคลุมทุกองค์ประกอบ รวมกันเป็นจุดเดียวคือ“ชุมชนพาหุรัด” #เอกพัฒน์สวนนันท์
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ชุมชนสวนสมเด็จย่า [ตรอกดิลกจันทร์]...
...จากเด็กหาดใหญ่ไปยืนงง ๆ ในดงคนแปลกหน้าใจกลางกรุงเทพมหานคร...ไม่เคยคิดว่าจะได้รับความเมตตาในการให้สัมภาษณ์ เพราะไปคนเดียว ไม่ใช่บ้านเรา ไม่มีญาติหรือคนรู้จักในชุมชน...แต่ภารกิจที่อาจารย์มอบหมายให้มันใหญ่และท้าทายเกินไป...เส้นทางนี้ทำให้น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว...อย่างไรก็ต้องทำสำเร็จ...1 ภาคเรียนเวลาที่แสนนานกับความกลัวที่กำลังถูกความกล้าทำลายล้างให้สิ้นซากจนชนะกลายมาเป็นคลิปรายงานจนสำเร็จ...
...ชุมชนสวนสมเด็จย่า [ตรอกดิลกจันทร์]...
...ตรวจงานพี่ปี 2 รายวิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 ...#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ ...จากอายสู่ความกล้าฆ่าความกลัวไปอย่างสิ้นเชิง....
...#จีนสู่คนไทยจีน...การลงพื้นที่ศึกษาชุมชนในครั้งนี้ ได้สัมผัสถึงความเป็นมาของชุมชนที่มีมาอย่างยาวนาน วิถีชีวิตของผู้คน ได้ค้นหาสิ่งที่อยากรู้จากการสอบถาม สังเกตและการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม การเปลี่ยนแปลงของชุมชนเก่าแก่ท่ามกลางชุมชนเมือง ความน่าสนใจคือเป็นชุมชนที่มีความป็น พหุวัฒนธรรม การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เคารพความเชื่อ เข้าใจความต่างของกันและกัน มีพื้นที่สีเขียวเป็นศูนย์กลางของชุมชนมีความร่มรื่น ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นย่านธุรกิจเก่า
การเรียนโดยการลงพื้นที่จริงได้ประสบการณ์ในการทำงานด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มต้น [1] เลือกชุมชน [2] วางแผนงาน [3]ระยะเวลาในการไปเก็บข้อมูล [4] การพูดคุยกับคนในพื้นที่
...มีความรู้สึกประหม่าที่ต้องพูดคุยกับคนในพื้นที่เพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูล พอได้ลงมือทำจริงๆแล้วพบว่าถ้าผ่านการทำงานชิ้นนี้ไปได้ก็จะมี #ความกล้า ที่จะทำงานชิ้นอื่น ด้วย #ความมั่นใจ มากยิ่งขึ้น #เอกพัฒน์สวนนันท์
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ไทม์ไลน์การทำงานลงพื้นที่ ศึกษาวิถีชีวิตแม่ค้าตลาดบางน้ำผึ้ง(บางกะเจ้า) #StudentsVIEW
- ขั้นแรกอาจารย์มอบหมายงาน
อาจารย์ผู้สอน (รองศาสตราจารย์ ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด) กำหนดให้นักศึกษาจับกลุ่ม (รวมเพื่อนนักศึกษากันได้ 6 คน) ตั้งไลน์กลุ่มไว้เพื่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลลงพื้นที่ กับเพื่อนและอาจารย์ เกี่ยวกับกระบวนการทำงานลงศึกษา“ชุมชนศึกษา” โดยนักศึกษาเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ซึ่งอาจารย์จะใช้รูปแบบการสอนและติดตามกระบวนการทำงานในชุมชนทั้ง onsite online ondemand onhand ชนิด realtime
- จับกลุ่มคุยกัน สื่อสาร หาข้อสรุปเพื่อนำเสนออาจารย์
(1) สมาชิกในกลุ่มได้พูดคุยปรึกษาข้อมูล ออกความคิดเห็น แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันว่าจะศึกษาชุมชนไหนในเรื่องอะไร บทสรุปความคิดที่ได้คือ ได้ศึกษาเรื่อง วิถีชีวิตการเป็นอยู่ของแม่ค้าชุนชนตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง(บางกะเจ้า)
(2) ได้หัวข้อเรื่องที่จะศึกษาแล้ว จึงช่วยกันหาข้อมูลและรายละเอียดที่เกี่ยวกับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจากเว็บไซต์ให้มีความละเอียดและสมบูรณ์ เพื่อนำมาเสนอ อาจารย์
(3) หลังจากที่ อาจารย์ ได้อนุมัติให้นักศึกษาสามารถลงพื้นที่ได้แล้ว ทุกคนในกลุ่มจึงเริ่มค้นหาข้อมูลของตลาดว่า เปิด-ปิด วันไหนแล้วจึงเริ่มนัดหมายลงพื้นที่ วัน เวลา และสถานที่เพื่อพบเจอกัน
- ต้องไปให้ลงพื้นที่จริงเพื่อสำรวจข้อมูลเบื้องต้น
(1) พวกเราจึงนัดกันเพื่อสำรวจพื้นที่เป็นครั้งแรกในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 เพื่อที่จะได้ทำการลงพื้นที่ครั้งที่ 1 จึงนัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อนั่ง btsไปที่สถานีบางนาแล้วนั่งแท็กซี่ไปที่วัดบางนานอกเเละเดินไปต่อที่ท่าเรือเพื่อนั่งเรือข้ามฝากไปที่ท่าเรือท่าตาเลื่อนแล้วเราจึงนั่งรถสองเเถวต่อไปที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พอเราถึงที่หมายแล้วทีมนักศึกษาได้เดินสำรวจ เก็บภาพข้อมูลและสอบถามคร่าวๆเกี่ยวกับวิถีชีวิตของการเป็นแม่ค้าตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง (แต่ไม่ได้มีการสอบถามอย่างเป็นทางการเพียงแค่สอบถามถึงร้านเก่าแก่และร้านค้าส่วนใหญ่ที่เป็นคนในพื้นที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเท่านั้น)
(2) กลุ่มของเราได้มีการส่งรูปภาพสำหรับลงพื้นที่เพื่ออัพเดตให้ อาจารย์ทราบ และได้ขอคำแนะนำจาก อาจารย์ในเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่รวมถึงอุปสรรคในการเป็นแม่ค้า ในคาบเรียนเพื่อที่จะเอามาคิดและทำแบบสอบถาม แล้วนำส่งให้อาจารย์ดูแล้วได้รับการแข้ไขในบางประการเพื่อ แบบสอบถามที่สมบูรณ์
- จับกลุ่มเล่าเรื่องและตอบข้อซักถามแบบกลุ่มย่อย
(1) เล่าเรื่องให้อาจารย์ฟังเพื่อสร้างแบบสอบถามร่วมกันสมบูรณ์แล้ว นักศึกษาจึงได้มีการพูดคุยและวางแผนการนัดหมายสำหรับการลงพื้นที่ใหม่อีกครั้ง
(2) อัพเดตให้อาจารย์ทราบว่าตอนนี้ได้ดำเนินการไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว และรอฟังคำเสนอแนะจากอาจารย์ และปรึกษากับอาจารย์เพื่อให้ทราบสิ่งที่ขาดตกไป เเละนำมาเติมให้สมบูรณ์
- ลงพื้นที่เก็บข้อมูลครั้งที่ 2
ทางกลุ่มได้มีการนัดหมายอีกครั้งในวันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2568 ลงพื้นที่ครั้งที่2 กลุ่มเราได้นัดหมายกันสถานที่เดิมเเละได้เดินทางไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เเละได้ทำการแบ่งกลุ่มลงพื้นที่ เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 2 คน กระจายกันไปลงพื้นที่เพื่อที่จะไปสัมภาษณ์แม่ค้าพ่อค้าในชุมชน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และรวมถึงการเก็บรูปภาพเเละคลิปวิดีโอ จากการลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์วิถีชีวิตการเป็นแม่ค้าในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พบว่าแม่ค้าพ่อค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แม่ค้าพ่อค้าให้ข้อมูลอย่างดี และแนะนำให้ไปหาร้านที่เป็นผู้ดูแลของตลาดน้ำบางน้ำผึ้งอีกด้วย
- ตรวจสอบข้อมูลและนำเสนออาจารย์
(1) หลังจากที่ลงพื้นที่ในครั้งที่ 2 สำเร็จ ได้มีการอัพเดตกับอาจารย์และ รวมตัวกันสรุปข้อมูลจากการที่ไปลงพื้นที่ พบว่าแม่ค้าในตลาดน้ำบางน้ำผึ้งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนในพื้นที่และเริ่มขายกันมาตั้งแต่ตลาดเริ่มเปิดใหม่ๆตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 จนมาถึงปัจจุบันโดยประมาณ 21 ปี และพบว่าตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเปิดเฉพาะวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะขายดีพิเศษเพราะเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน รวมถึงได้สอบถามเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคพบว่าแม่ส่วนใหญ่(ค่อนข้างมาก)ไม่พบอุปสรรคใดๆ เลยทำให้การลงพื้นที่ในครั้งที่2นั้น ได้ข้อมูลมาตามแบบแผนที่วางไว้ในที่สุด
(2) นำข้อมูลที่จะนำเสนอทั้งหมดมาตรวจสอบรายละเอียด ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ เพื่อนำส่งอาจารย์
(3) นำข้อมูลที่ได้สรุปมาแล้วทั้งหมด มาเขียนเป็นไทม์ไลน์ เรียบเรียงจัดทำคลิปวิดีโอรายงานเพื่อนำเสนอให้กับอาจารย์เผยแพร่ต่อไป
- เล่าเรื่องผลลัพธ์ที่ได้จากการลงชุมชน(มุมมองนักศึกษา)
ด้านเศรษฐกิจ
1. เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านสามารถนำสินค้าการเกษตรและงานหัตถกรรมมาขาย
2. กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้า พ่อค้า และผู้ประกอบการรายย่อย
3. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ เช่น การให้เช่าจักรยาน บริการล่องเรือ คาเฟ่ และร้านอาหาร
ด้านสภาพแวดล้อม
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเป็นตลาดที่เปิดมานานมากแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน โดยตัวตลาดเองมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือ ตลาดตั้งอยู่ในพื้นที่โอบล้อมด้วยคลองและต้นไม้ร่มรื่น ทำให้อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การเดินเที่ยวพักผ่อน ในตัวตลาดจำหน่ายสินค้าหลากหลาย ทั้งอาหารพื้นบ้าน สินค้าแฮนด์เมด ผักผลไม้สด และของที่ระลึกจากชุมชนส่วนพื้นที่รอบตลาดเป็นชุมชนชาวสวน ที่ยังคงใช้เรือและจักรยานเป็นพาหนะหลัก บรรยากาศจึงเงียบสงบและเรียบง่าย และสุดท้ายตลาดมักจะคึกคักในวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันพระเพราะผู้คนจะมาซื้อสินค้าไปไหวพระ
ด้านพื้นที่
ตลาดน้ําบางน้ําผึ้ง ตั้งอยู่ ณ ตําบลบางน้ําผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นชุมชน 1 ใน 6 ตําบลพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าหรือที่ชาวบ้านเรียกขานทั่วไปว่า “กระเพาะหมู”โดยมีลักษณะพื้นที่ที่โดดเด่นดังนี้
ลักษณะทางกายภาพ
-เป็นพื้นที่สามน้ํา คือ น้ําจืด น้ําเค็ม และน้ํากร่อย การเกษตรจะเป็นแบบไร่นาสวนผสมแบบยกร่อง
-ตลาดน้ำจัดเป็นซุ้มยาวกว่า 2 กิโลเมตร ขนานไปกับคลองสายเล็ก ๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา
ความเปลี่ยนเเปลงของที่
-จากการทําศูนย์จําหน่ายสินค้าเกษตร เพื่อเป็นแหล่งจําหน่ายสินค้าเกษตร ของชุมชน สู่การสร้างเป็นตลาดน้ํา เพื่อจะได้เป็นแหล่งจําหน่ายสินค้าทั้งด้านเกษตรและสินค้าท้องถิ่นอื่นๆ ควบคู่ไปกับการเป็น แหล่งท่องเที่ยว
ความท้าทายของพื้นที่
-การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ค้าดั้งเดิมเเละนักท่องเที่ยว
-เนื่องจากระดับน้ำขึ้น-น้ำลง ในคลองบางน้ำผึ้งไม่แน่นอน การค้าขายทางน้ำจึงไม่สะดวก
ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงพื้นที่
ได้ทราบถึงข้อมูลตลาดน้ำบางน้ำผึ้งจากการทำเเบบสอบถามเเล้วไปสัมภาษณ์พ่อค้าเเม่ค้าในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ได้ไปดูวิถีชีวิต ไปศึกษาการค้าขาย ของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เเละการเก็บข้อมูลและสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้
-ได้ข้อมูลจริงจากสถานที่
-พบปัญหาและอุปสรรคที่ไม่สมารถเห็นได้จากเอกสาร
-เข้าใจสภาพเเวดล้อมเเละบริบทของตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
ข้อผิดพลาด
1. การพึ่งพาฤดูกาลมากเกินไป – บางร้านมีรายได้ลดลงในช่วงที่นักท่องเที่ยวบางตา ควรหาช่องทางขายเพิ่มเติม เช่น การขายผ่านออนไลน์
2. การขาดการบริหารจัดการสต็อกสินค้า – บางร้านมีปัญหาสินค้าขาดหรือเหลือมากเกินไป ทำให้เกิดความสูญเสีย
3. การตั้งราคาสินค้าที่ไม่สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า – บางร้านอาจตั้งราคาสูงเกินไปจนลูกค้าลังเล ควรมีทางเลือกที่หลากหลายเพื่อรองรับลูกค้าหลายระดับ
ข้อเสนอแนะ
1. การพัฒนาโอกาสทางการตลาด – ควรมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือโปรโมตร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เช่น การทำคอนเทนต์แนะนำสินค้าหรือการรีวิวตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า
2. การบริหารต้นทุนและราคา – ควรมีการคำนวณต้นทุนและกำไรให้ชัดเจน เพื่อตั้งราคาที่เหมาะสมและแข่งขันได้
3. การพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่าง – ควรเพิ่มจุดเด่นให้สินค้าของตนเอง เช่น การใช้วัตถุดิบจากชุมชน หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดใจ
4. การสร้างเครือข่ายผู้ค้าภายในตลาด – ควรมีการรวมกลุ่มแม่ค้าเพื่อช่วยกันโปรโมตและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
ทีมบางกระเจ้า #ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง สรุปได้ว่า จากการลงพื้นที่ศึกษาวิถีชีวิตของแม่ค้าในตลาดบางน้ำผึ้ง (บางกะเจ้า) ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2568 พบว่าพวกเขามีลักษณะการดำรงชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายเป็นหลัก โดยตลาดแห่งนี้เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น อาหาร และหัตถกรรมที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่
1. รูปแบบการค้าขาย
- แม่ค้าส่วนใหญ่มักเป็นคนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง
- มีสินค้าหลากหลาย เช่น อาหารพื้นบ้าน ผลไม้ สินค้าแฮนด์เมด และของที่ระลึก
- ใช้รูปแบบการขายแบบเปิดหน้าร้านและมีการปรับตัวให้เข้ากับลูกค้า เช่น การใช้สื่อออนไลน์ช่วยประชาสัมพันธ์
2. วิถีชีวิตและความเป็นอยู่
- แม่ค้าต้องเริ่มเตรียมสินค้าแต่เช้าตรู่เพื่อให้พร้อมขาย
- บางคนประกอบอาชีพเสริมควบคู่ เช่น ทำเกษตร หรือรับจ้างอื่น ๆ
- มีการรวมกลุ่มกันเป็นเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือและแลกเปลี่ยนสินค้า
3. ความท้าทายและการปรับตัว
- การแข่งขันสูง เนื่องจากมีร้านค้าหลากหลาย
- รายได้ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า ซึ่งมีความแปรปรวนตามฤดูกาล
- มีการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มยอดขายและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่
สมาชิกกลุ่มนักศึกษา #เอกพัฒน์สวนนัน
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
1. อาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่ม (ซึ่งรวมเพื่อนนักศึกษากันได้ 8 คน) เพื่อลงพื้นที่ศึกษาในหัวข้อราย #วิชาชุมชนศึกษา (รองศาสตราจารย์ ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด)
2. พวกเราในกลุ่มเสนอความคิดเห็นซึ่งส่วนใหญ่ ลงพื้นที่ ณ ตลาดดอนหวาย
3. เมื่อลงความเห็นที่ลงตัว (ตลาดดอนหวาย) ทุกคนจึงช่วยกันหาข้อมูล และรายละเอียดเพิ่มเติมให้ครบสมบูรณ์ เพื่อนำไปเสนออาจารย์
4. หลังจากที่ อาจารย์ได้อนุมัติให้สามารถลงพื้นที่นี้ได้แล้ว พวกเราในกลุ่ม จึงเริ่มนัดหมาย วัน และเวลา สถานที่พบเจอกัน
5. เมื่อถึงวันนัดหมาย พวกเราได้มีการ สนทนาแชทคุยผ่านไลน์กลุ่มเป็นช่วงๆ ครั้งคราว เพื่อเจอกันในจุดนัดพบตามเวลาที่ตกลง
6. ในวันที่ 4 มีนาคม พวกเรานัดเจอกันที่ตลาดดอนหวายเวลา 08:30 น. โดยพวกเราเดินทางรถเมล์สาย 556
7. เมื่อเจอกันครบทุกคน ก็ได้มอบหมายกันในกลุ่ม แบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม สองกลุ่ม 2 คน และอีกกลุ่ม 4 คน เพื่อไปสัมภาษณ์ตามหัวข้อคำถามที่ทางเราได้เตรียมไว้
8. กลับมาสรุปผลกันในไลน์กลุ่ม พบว่า ได้สอบถามแม่ค้ากันทั้งหมด 14 คน และพ่อค้า 1คน
9.ผลที่ออกมา ร้านดังในตลาดดอนหวาย ทุกร้านให้ความร่วมมือและสะดวกที่จะสัมภาษณ์และให้ข้อมูลถึงแม้ บางร้านจะเป็นลูกจ้างแต่ก็ยินดีที่จะให้สัมภาษณ์
10.พวกเรานำข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดรวบรวมเก็บไว้ในอัลบั้ม LINE กลุ่มแล้วแจกแจงงานให้ทุกคนในกลุ่มทำว่าแต่ละคนต้องทำส่วนไหนบ้าง
11. ผลลัพธ์ที่ได้จากลงชุมชน (บทสรุป) ผลลัพธ์การศึกษา พวกเราแบ่งออกเป็นแต่ละด้านดังนี้
ด้านพื้นที่
ตลาดน้ำดอนหวายเป็นตลาดน้ำเก่าแก่ที่มีมาแล้ว 100 ปี
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน โดยมีลักษณะพื้นที่ที่โดดเด่นดังนี้
ลักษณะทางกายภาพ
-เป็นตลาดที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน ทำให้มีศักยภาพด้านการค้า
แล้วก็การคมนาคม
-ซึ่งตลาดไม่ได้อยู่ไกลจากกรุงเทพมากนักมีการเดินทางค่อนข้างสะดวกทั้งขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว
ความเปลี่ยนแปลงงของพื้นที่
-จากตลาดที่มีบ้านไม้เก่าไม่กี่หลังริมแม่น้ำท่าจีน ก็มีการจัดตั้งโซนตลาดใหม่ให้มีการขายพืชผักสวนครัวและผลไม้ ทำให้ตลาดมีของหลากหลายมากกว่าเดิม และใหญ่ขึ้นน่าเดินมากขึ้น
ด้านสภาพแวดล้อม
ตลาดน้ำดอนหวายเป็นตลาดเก่าแก่ในจังหวัดนครปฐมที่มีมานานกว่า 100 ปี รอบข้างก็จะมีแม่น้ำท่าจีนยาวตลอดริมแนวตลาดและยังมีเรือชาวบ้านแถวนั้นพายเรือขายของกันริมแม่น้ำ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เช่นเป็ดพะโล้ ขนมตาล ผลไม้ และขนมไทย เนื่องจากมีของกินที่หลากหลายมีร้านที่ดังและมีการนั่งเรือชมวิวสองข้างทางเลย ทำให้สภาพแวดล้อมของตลาดริมน้ำดอนหวายมีความคึกคักมากในช่วงเสาร์-อาทิตย์มีทั้งชาวไทยชาวต่างชาติ ทุกเพศทุกวัยมาเดินเที่ยวตลาดน้ำดอนหวาย
ด้านเศรษฐกิจ
การค้าขายและธุรกิจในท้องถิ่น
ตลาดน้ำดอนหวายเป็นตลาดที่มีการขายสินค้าหลายประเภท หลากหลายร้าน เช่นพืชผัก ผลไม้ ขนม และอาหารทุกประเภท ส่งผลให้มีการจ้างงานคนในชุมชนมากยิ่งขึ้นทำให้มีรายได้เสริมจากการค้าขายหมุนเวียนในท้องถิ่น
.... #ถอดบทเรียนการศึกษาชุมชนตลาดน้ำดอนหวาย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงพื้นที่
ทำให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตลาดน้ำดอนหวายมากยิ่งขึ้นจากสัมภาษณ์และลงพื้นที่ ทำให้พวกเราได้รู้ถึงวิถีชีวิตของผู้คนริมตลาดน้ำดอนหวาย ว่าในแต่ละวันของ แม่ค้าวัดประจำวันอย่างไรบ้าง มีอุปสรรคอะไรบ้างที่ขัดขวางต่อการค้าขาย ซึ่งบางร้านค้าก็ไม่ได้ให้ตอบแบบสัมภาษณ์เนื่องจากลูกจ้างเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ข้อผิดพลาดจากการลงพื้นที่
ไม่สามารถลงพื้นที่ได้อย่างราบรื่นเนื่องจากวันที่ 4 มีนาคม วันลงพื้นที่เป็นวันธรรมดาและช่วงเช้า ทำให้พ่อค้าแม่ค้าบางร้านไม่ได้มาขายในวันธรรมดา และยังไม่ได้มาเปิดร้านเนื่องจากเป็นเวลาที่ค่อนข้างเช้า แล้วบางร้านแม่ค้าก็ไม่สะดวกดให้ข้อมูลที่จะทำแบบสัมภาษณ์ และบางร้านเป็นลูกจ้างชาวต่างชาติไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านหรือตลาดได้
แนวทางการแก้ไขขข้อผิดพลาด
ในวันลงพื้นที่จะเลือกเป็นวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาที่จะเลือกลงจะเป็นช่วงเที่ยงหรือช่วงบ่ายโมง
ข้อเสนอแนะในอนาคตจากทีมนักศึกษา
-อยากให้แม่ค้าในแต่ละร้านมีความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่เรื่องราวดี ๆ ของตลาดน้ำดอนหวายทั้งในมิติการศึกษาและการประชาสัมพันธ์
-อยากให้ตลาดมีการปรับปรุงทางเดิน บางจุด ของตลาด เพราะถ้าไม่ระมัดระวังอาจจะบาดเจ็บร้ายแรงได้
-อยากให้แม่ค้าในตลาดชักชวนค้ากัลยาณมิตร เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและทำให้ลูกค้าได้มีการตัดสินใจซื้อหรือปฏิเสธซื้อสินค้านั้นด้วยความเต็มใจ
จากการลงพื้นที่ศึกษาวิถีชีวิตแม่ค้าริมตลาดน้ำดอนหวาย
ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 พบว่าบรรยากาศช่วงตอนเช้านั้นมีผู้คนมาเดินค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ว่าพอถึงช่วงเที่ยงคนก็ค่อนข้างที่จะเริ่มคึกคักขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง บางร้านค้าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่บางทีก็ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์เนื่องจากบางทีไม่ใช่เจ้าของร้านแต่เป็นลูกจ้างชาวต่างชาติ พวกเราสามารถสัมภาษณ์ร้านค้าต่างๆได้ครบทั้งหมดจำนวน15 ร้าน เป็นแม่ค้า 14 ร้าน ส่วนอีก1 ร้านเป็นพ่อค้า
ข้อมูลที่ได้รับสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของวิถีชีวิตแม่ค้าริมตลาดน้ำดอนหวาย ได้แก่
- ความสำคัญของตลาดน้ำดอนหวายในฐานะตลาดที่ช่วยเพิ่มรายได้
ให้แก่คนในชุมชน
-ปัจจัยที่มีผลต่อแม่ค้าในตลาดริมน้ำดอนหวาย เช่น วัน วันเสาร์อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ จะมีลูกค้ามาเดินตลาดน้ำดอนหวายมากกว่าวันธรรมดาเป็นจำนวนมากทำให้ยอดขายสูงขึ้น
-พฤติกรรมของ ที่มีทั้งดีและไม่ดี โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์อาทิตย์
และวันนักขัตฤกษ์
ทีมดอนหวาย #เอกพัฒน์สวนนัน
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…ตรวจงานนักศึกษา My SEP #เอกพัฒน์สวนสุนันทา #ใช้จ่ายสมฐานะ
“…พอเพียงคือคำนิยามของชีวิตรู้จักใช้จ่ายในทุกๆเรื่อง เช่น จะซื้อกระเป๋า จะเดินทาง เดินทางยังไงให้ใช้เงินได้น้อยที่สุด เพื่อลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยแบะเกินเหตุ อาจจะไม่เหมาะกับฐานะการเงินและเกินจำเป็นกว่าที่พ่อแม่ให้มาใช้จ่ายเป็นรายสัปดาห์ รู้จักคิดแผนการเดินทางและค่าเดินทางว่าเดินทางแบบไหนมีค่าเดินทาบที่ถูกที่สุดหรือถูกกว่าการเดินทางอีกแบบ เงินที่เหลือจากการเดินทาง สามารถเอามาเก็บออมได้ พอนำเงินออมที่เหลือมารวมกันก็สามารถนำไปซื้อของที่อยากได้…[013 นภัสกร]
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานนักศึกษา My SEP ใน #วิถีวิธีพอเพียงของนักศึกษา #เอกพัฒน์สวนสุนันทา
"...วิธีการปฏิบัติตามหลักความพอเพียง เป็นวิธีการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขเฉพาะศักยภาพของตัวเอง ซึ่งหมวยคิดว่าทุกคนทำได้ พออยู่ พอกิน ไม่อดอยาก ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สามารถช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้ ใช้ชีวิตอย่าสงบสุขไม่เดือนร้อนใครได้ ทำสิ่งง่าย ๆ รอบตัวให้รู้จักคุณค่า มีเหตุผลในการใช้ชีวิต ซึ่งหมวยทำอยู่ประจำ 5 วิธี ได้แก่ ปลูกผัก แยกขยะ ถอดปลั๊ก ซ่อมแซมของใช้ และเก็บออมเพื่ออนาคต..." [017 รุ่งนภา มีคำแหง]
...https://elfhs.ssru.ac.th/phusit_ph/
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...สิ่งที่ได้จากการศึกษาชุมชน ได้เรียนรู้การลงพื้นที่ ได้เห็นภูมิทัศน์ วิถีชีวิตท้องถิ่น การเป็นอยู่ของคนในชุมชน บ้านเรือนในความเป็นไทยอีสาน สัมผัสภูมิปัญญาของชุมชน
ได้ประสบการณ์ เที่ยวชมสินค้าเชิงสาธิต
ชมกระบวนการสร้างสรรค์เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน
ได้พูดคุยกับคนในชุมชน ทราบถึง ประวัติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและ
ได้รับรู้ถึงปัญหาของชุนชนโดยได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนเป็นอย่างดี #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 ภาคเรียนที่ 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ที่นี้บ้านของเรา #เมืองแปดริ้ว
...ตรวจงาน #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566...
~ สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่ #ชุมชนตลาดบ้านใหม่
หลังจากที่ลงพื้นที่แล้ว ก็ได้เรียนรู้ถึงความเป็นมาในชุมชนได้สัมผัสบรรยากาศที่เสมือนได้ย้อนยุคไปสมัยก่อน เพราะในตัวชุมชนยังคงอนุรักษ์บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างที่มีความเก่าแก่ เป็นตำนานที่ในยุคปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นแล้วและในชุมชนมีอาหารหลากหลาย ไม่ใช่เพียงแต่อาหารในปัจจุบันแต่มีแม้กระทั่งของที่ไม่สามารถหาทานได้ที่ไหนอีกแล้ว ตัวชุมชนตั้งติดกับแม่น้ำบางปะกง มีความร่มรื่น ไปที่นี่แล้วไม่เพียงแต่อิ่มท้อง แต่ยังได้อิ่มบุญอีกด้วย
~ สิ่งที่น่าสนใจในชุมชน
เนื่องจากชุมชนบ้านใหม่เป็นชุมชนโบราณมีอายุยาวนานถึง100ปี จึงมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากเช่นในตัวบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นสิ่งที่ชุมชนยังคงอนุรักษ์ไม่ให้ความเป็นชุมชนโบราณเลือนหายไปและนอกจากนั้นชุมชนตลาดบ้านใหม่ยังมีการค้าขายของที่เป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ของกินในชุมชนรับรองถึงความอร่อยเพราะเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทำกันมาอย่างยาวนาน ในชุมชนมีร้านที่มีการค้าขายมาหลายสิบปีเช่น ร้านป้าหนูที่ขายทั้งอาหารคาวหวาน มีรสชาติเป็นเลิศ ร้านกาแฟแป๊ะเอ๊ย เป็นร้านกาแฟที่มีสูตรเฉพาะของทางร้าน มีรสชาติหอมกลมกล่อม ร้านสามแม่ครัว เตาฟืน เป็นร้านที่แม่ครัวสามคนเป็นพี่น้องกัน ร้านนี้เป็นมรดกตกทอดมาหลายต่อหลายรุ่นแต่ความอร่อยยังเดิม ร้านข้าวห่อใบบัว เป็นร้านที่นำข้าวและเครื่องต่างๆมาห่อใส่ใบบัว มีรสชาติอร่อยและในปัจจุบันยังหาทานได้ยาก สุดท้ายแล้วมีของความก็ต้องต่อด้วยของหวานคือ ขนมเต้าส้อ เป็นขนมที่มีทั้งไส้เค็มและไส้หวาน รสชาติอร่อยทานคู่กับกาแฟหรือชายิ่งดี #เอกพัฒน์สวนนันท์
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…บ้านเราเมืองตรัง…
…ล่องใต้แลตรัง…บ้านเกิดที่แสนรัก #เอกพัฒน์สวนนันท์
…กลับบ้านไปทำงานส่ง…ตรวจงานพี่ปี 2 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566…#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
…การได้ไปลงพื้นที่ชุมชนที่ตัวเองเติบโตมานั้น ในตอนแรกก็คิดว่าเรารู้จักชุมชนนี้ดีอยู่แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้นี่เอง ที่ทำให้ฉันได้รับรู้เรื่องราวถิ่นกำเนิดของฉันมากขึ้น รู้ลึกและรู้จริง คนในชุมชนล้วนเป็นญาติกันและได้รับมรดกที่สำคัญที่สุดก็คือ “อาชีพ” อาชีพที่เลี้ยงปากท้องคนในชุมชนมาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูก นั่นก็คือ “ข้าวหลามบ้านหนองบัว” อาหารที่ทานกับอะไรก็อร่อย ทานเป็นของคาวก็ได้หวานก็ดี การลงพื้นที่ในครั้งนี้ดิฉันได้นำกรรมวิธีในการทำข้าวหลามบ้านหนองบัวมาให้ทุกคนได้รับชม นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เผยแพร่วิดิโอนี้…
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานพี่ปี 2 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...การลงพื้นที่ชุมชนเกาะศาลเจ้าในครั้งนี้ ทำให้เราได้เข้าใจและเรียนรู้ชุมชนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต การเป็นอยู่ ความเป็นมาของชุมชน และวัฒนธรรมของชุมชนที่สืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบันทำให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และอนุรักษ์ไว้ รวมถึงการเข้าถึงชุมชนมากขึ้น ในเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นภายในชุมชนจนนำไปสู่การแก้ไขและการพัฒนาโดยมีผู้นำชุมชน และคนในชุมชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความร่วมมือ ทำให้ชุมชนนั้น เป็นชุมชนที่น่าอยู่มากขึ้น เพราะถ้าผู้นำชุมชนหรือคนในชุมชนไม่สนใจ และไม่พร้อมแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น ก็จะทำให้ชุมชนนั้นประสบแต่ปัญหาเดิม ๆ และทำให้ชุมชนนั้น ไม่มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง...#เอกพัฒน์สวนนันท์
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงาน ปี 2 รายวิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ใครจะคิดว่า ย่านใจกลางเมือง บนถนนเจริญกรุง ถนนสายแรกของประวัติศาสตร์ไทย มีตลาดชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งแอบซ่อนอยู่ ตลาดแห่งนี้ยังมีที่มาที่ยาวไกล เป็นชุมชนย่านเก่าครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก้าวแรกที่เข้ามาในชุมชม เราจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ ความเป็นระเบียบชองชุมชนแห่งนี้ นับเป็นพื้นที่ชุมชนเข้มแข็งอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ที่มีรูปแบบในการพัฒนาตนเอง มีนโยบายการสร้างตลาดชุมชนที่น่าสนใจ เรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติได้อย่างดี ตลาดฮาล้าล จึงเป็นอีกหนึ่งความคิดที่ทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยสร้างรายได้ให้เกิดกับชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และส่วนหนึ่งเป็นชาวพุทธ ภายในตลาดแห่งนี้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะระดมพลกันมาเปิดร้านอาหาร จำหน่ายทั้งของคาว ของหวาน และอาหารฮาล้าล ตลอดเส้นทางของชุมชนที่เลียบคลองสายเล็กๆ จะมีบ้านเรือนของชาวชุมชนตั้งอยู่ 2 ฝั่ง มีร้านค้า ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเส้นทาง ไปสัมผัสกับตลาดฮาล้าล ตลาดชุมชนเข้มแข็งแห่งนี้ ท่องเที่ยววิถีไทย เข้าใจและเข้าถึงความเป็นวิถีชุมชน วิถีไทยที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร...
#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ที่นี้....บุรีรัมย์...กลับมาลงพื้นที่ #เข้าไปเข้าใจเข้าถึงชุมชน
#วิถีหาบเร่ การลงพื้นที่บ้านเกิด...#ตลาด5นาที
...เดินทางจากกรุงเทพสู่บุรีรัมย์...
...ตรวจงานเดี่ยว ปี 2 รายวิชา ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566...
...#ชุมชนบ้านบุตาริด ชุมชนที่มีการค้าขายหาบเร่มาเกือบ40ปี มีพ่อค้าแม่ค้ามาของมาตั้งหาบขายที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ คนในพื้นที่เรียกว่า #ตลาด5นาที การหาบเร่เป็นอาชีพที่อิสระทรงคุณค่า อาหารสดสะอาด มีคุณภาพ และยังมีอีก1ไฮไลท์คือลูกชิ้นยืนกินเจ้าดังที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย
...กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอเสื่อกก ส่วนนี้ได้เรียนรู้ในเรื่องของการทำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ(ต้นกก) นำมาทำผลิตภัณฑ์เช่น เสื่อกระเป๋า แจกัน หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งต้นกกนั้นกลุ่มสมาชิกในชุมชนได้ปลูกและนำมาแจกจ่ายแบ่งกันทำผลิตภัณฑ์เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสที่ไม่สามารถออกไปทำมาหากินที่อื่นได้ส่วนนี้จึงเป็นส่วนที่จะทำให้คนในชุมชนได้ฝึกทักษะอาชีพและทักษะทางด้านงานฝีมือจนชำนาญและนำไปขายสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนต่อไป
...ความเป็นอยู่และวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ก็ยังดำรงอยู่ถึงทุกวันนี้ ถ้าอยากลองมาสัมผัสกับวิถีแบบเรียบง่ายสามารถมาเที่ยวมาลองใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายแบบนี้ได้ ผู้คนที่นี่เป็นกันเอง มีรอยยิ้มแจ่มใสพร้อมตอนรับทุกคนที่เข้ามาเสมอ เป็นความสุขที่ไม่เลิศหรูแต่สวยงาม... #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#รักแรกที่หัวตะเข้ | Vlog With Me ตลาดเก่าร้อยปี ย่านลาดกระบัง
...ตรวจงาน ปี 2 วิชา ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566...
...“ตลาดเก่าหัวตะเข้” ตลาดเก่าที่ไม่เก่า จากการได้ลงชุมชนทำให้ได้เรียนรู้และรู้ความเป็นมาของตลาดมากมาย ซึ่งเป็นตลาดที่มีอายุมากกว่า100ปีแต่ปัจจุบันนี้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เดิม ตลาดหัวตะเข้เป็นชุมชนขนาดกลาง มีพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ประชากร 225 หลังคาเรือน ครอบครัว335 ครัวเรือน เป็นครอบครัวขยาย มีประชากร 1,000กว่าคน
...ส่วนมากประชากรรุ่นก่อนๆจะประกอบอาชีพค้าขายก้นเป็นส่วนใหญ่ ตลาดเก่าหัวตะเข้เป็นชุมชนริมครองที่มีความทันสมัยและความน่าสนใจเป็นอย่างมาก บริเวณตลาดมีร้านขายของต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านขายอาหาร คาเฟ่ ขนมหวานไทย และมีกิจกรรมworkshop ให้ทำ เช่น ร้อยสร้อย แหวน กำไล ตกเย็นก็ได้นั่งเรือกับน้องแมวชมวิวต่างๆท่ามกลางพระอาทิตย์ตกดิน และที่พิเศษมากๆคือคนในชุมชนน่ารักและคอยให้ขอมูลที่จะนำไปต่อยอดในการศึกษาได้เป็นอย่างดี
...สุดท้ายนี้อยากจะบอกทุกๆคนว่าตลาดเก่าหัวตะเข้ เป็นแหล่งท่องเที่ยว อีกหนึ่งที่ ที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้มาเที่ยวได้มาพักผ่อนหย่อนใจ
สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเหมือนเป็นรักแรก ที่ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ทำให้ตกหลุมรักเหมือนเดิม.. #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ตรวจงานกลุ่มที่ 2 ...#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ ..[ปี 1]...
...การลงพื้นที่นอกจากไปสัมผัสชุมชนด้วยอายตนะทั้งหกแล้ว ยังต้องรู้จักเข้าหาคน รู้จักการสำรวจ รู้จักการส้มภาษณ์ดูวิธีคิดของกลุ่มผู้นำและวิถีของผู้คนในชุมชนเมือง ...ลงชุมชนไปให้ถึงผู้นำก่อนเพราะผู้นำจะเป็นคนการันตีในการเข้าชุมชนของแขกผู้มาเยือน...ไปหาข้อมูลและโจทย์ใหม่ในพื้นที่ชุมชนเมืองที่บ่งชี้ถึงความหลากหลายและแตกต่างกันให้แหลมคมชัดเจนยิ่งขึ้น...
...เหนื่อยเลยฝึกใช้เครื่องมือดิจิทัลในการมาเสริมพลังการพัฒนาชุมชน #เอกพัฒน์สวนนันท์
รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงาน...กลุ่มที่ 1 พหุสังคมวัฒนธรรมหาได้ในแหล่งท่องเที่ยว .. ฝึกใช้ทักษะวิศวกรสังคมใต้ร่มราชภัฏ…การคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร การประสาน การเก็บข้อมูล ลงพื้นที่ภาคสนาม การจัดการข้อมูล การตัดต่อคลิปเพื่อนำส่งรายงานคลิปดิจิทัล...[วัด คน ท่องเที่ยว ความหลากหลาย]
#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์ .....[ปี1]>> ให้โจทย์ไปโดยให้ไปเป็นนักท่องเที่ยว ใช้โทรศีพท์ในมือให้เกิดประโยชน์ มีความรู้ ฝึกทักษะการสื่อสาร คิดแบบเอกพัฒน์ตามแบบที่พวกเราคิดเอง...
...#เอกพัฒน์สวนนันท์มืออาชีพ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...สายน้ำ วัดวา อาหาร ตลาด ผู้คน ศรัทธา มหาชน...
...การลงพื้นที่...สิ่งที่ได้รับจากการลงพื้นที่ คือได้รู้ถึงวิถีชีวิตชุมชนของชุมชนตลาดน้ำวัดดอนหวาย มีวิถีชีวิตเรียบง่าย เป็นชุมชนการค้า ตลาดน้ำดอนหวาย ถือได้ว่าเป็นแม่แบบของการจัดการวิสาหกิจชุมชน เป็นการให้ชุมชนได้เรียนรู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับทุนชุมชนที่มีอยู่ โดยการร่วมกันวางแผนการผลิต การตลาด ร่วมกันไม่ใช่ต่างคนต่างทำ...
...สิ่งที่น่าสนใจ ที่เราจะเห็น >>>คือ ตลาดน้ำชื่อดังที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เพราะ 'ตลาดดอนหวาย' มีของกินสารพัดให้ตื่นตาตื่นใจคนชอบชิม ทั้งอาหารคาวหวานที่ไม่ใช่แค่เยอะ แต่ยังอร่อยทุกร้าน และเป็นอาหารพื้นบ้านดั้งเดิมอีกด้วยพออิ่มท้องกันแล้ว ก็ต้องไปนั่งเรือล่องแม่น้ำท่าจีน ชมวิวสองฟากฝั่ง สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำ ทำให้ได้เห็นบ้านทรงไทยหลายแบบ บางหลังเป็นอาคารไม้เก่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งหาชมได้น้อยเต็มทีในปัจจุบัน ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ตลาดดอนหวายชุมชนทางการค้าริมน้ำที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยเป็นชุมชนตลาดที่มีการผลิตและจำหน่ายสินค้าจำพวกสินค้าบริโภคเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ชุมชนโดดเด่นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปและสินค้าอาหาร โดยภายในตลาดมีร้านค้าชื่อดังหลายร้านที่เป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ทั้งนี้ชุมชนตลาดดอนหวายได้ตั้งอยู่ภายในเขตวัดคงคารามดอนหวาย ซึ่งวัดแห่งนี้ถือเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญที่อยู่เคียงคู่กับจังหวัดนครปฐมมาอย่างยาวนาน #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566.... แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...>>>ชุมชนบ้านบาตรเป็นชุมชนขนาดเล็กซึ่งผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่มีการประกอบอาชีพทำบาตรเเละสามารถเข้าไปศึกษาขั้นตอนการทำบาตรได้อีกด้วย จึงทำให้ชาวต่างชาติสนใจเเละเข้ามาเยี่ยมชม เกิดเป็นรายได้เล็กน้อยให้กับคนในชุมชน ดิฉันอยากให้ทุกคนได้ช่วยกันอนุรักษ์ความสำคัญของบาตรที่ชาวบ้านบาตรทำเองจากมืออย่างพิถีพิถัน เพราะในกรุงเทพไม่มีที่ไหนจะเป็นสุดยอดของการทำบาตรเท่ากับชุมชนบ้านบาตรเเห่งนี้อีกแล้ว #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566...#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…การลงศึกษาชุมชนทุกครั้ง #เราได้เขามี]
[เราได้]
…สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่ชุมชนริมทางรถไฟตลาดพลู
…ได้ฝึกในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลก่อนที่จะลงพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลความเป็นมาในอดีตว่า ในสมัยก่อนมีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง และในสมัยก่อนบริเวณนี้เคยเป็นแหล่งในการแลกเปลี่ยนสินค้า และมีการค้าขายมาตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบันที่ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป บริเวณนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่มีการค้าขายอยู่ดังเดิม
[เขามี]
…สิ่งที่น่าสนใจ ณ ชุมชนริมทางรถไฟตลาดพลู
…ปัจจุบันชุมชน และบริเวณโดยรอบทางรถไฟเป็นแหล่ง Street food ที่มีคนพลุกพล่าน และมีร้านค้าเพิ่มขึ้นจากในสมัยก่อนมาก ทำให้สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่าย และลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อของที่นี่
…ตรวจงานพี่ปี 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...วิถีชีวิตอีสานบ้านหนองมะทอ...จากอีสานบ้านนาไปอยู่กรุง...จากสวนสุนันทาไปบ้านหนองมะทอ เป็นการเล่าเรื่องการเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดของดิฉันเอง เพื่อให้ได้ทราบถึงการใช้ชีวิตของคนในชนบทว่าเป็นอย่างไรชุมชนบ้านหนองมะทอตั้งอยู่ที่ ตำบลไผ่ใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
...มีทั้งหมด120กว่าครัวเรือน ระยะเวลาในการมีอยู่ของชุมชนไม่แน่ชัดนัก สรุปได้ประมาณ 65-80 กว่าปี ชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกร และ ค้าขาย ชาวบ้านนั้นมักตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อมานึ่งข้าวเหนียว ทำอาหารเพื่อที่จะใส่บาตรในทุกๆเช้า ในยามสายๆชาวบ้านต่างไปทำหน้าที่ของตัวเอง เช่น ไปเกี่ยวหญ้ามาให้วัวที่ตนเองเลี้ยง การทำนา ทำสวน และยังมีประเพณีที่สำคัญในชุมชน ดิฉันจึงอยากใช้พื้นที่นี้ ในการเผยแผ่วิถีชิวิตของชาวบ้านที่นี้ให้มีคนอื่นๆได้รู้จักกับอีสานบ้านของเฮา...#งดงามอีสานบ้านเกิด #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566...#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…ได้เห็นการอยู่อาศัยร่วมกัน การพูดคุยกันของคนในชุมชน มีธนาคารออมเงิน การทำการเกษตร เสาร์อาทิตย์จะมีตลาด ให้ชาวบ้านเข้ามาขายของ การแสดงดนตรีไทย มีนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวต่างชาตินั่งเรือเข้ามาเที่ยวในตลาดชุมชน และได้เข้ามาพักในฮมสเตย์ #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
…ตรวจงานพี่ปี 2 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566…#เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…จากการที่ได้ลงไปศึกษาชุมชน
…ทำให้ได้เห็นถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์โบราณสถานของชุมชนได้เข้าใจความเป็นอยู่ของเศรษฐกิจโดยรอบจากการสังเกตและการสอบถามจากคนในพื้นที่ …วิถีชีวิตการประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ทั้งนี้โบราณสถานยังเป็นสิ่งที่มีมายาวนานหลายร้อยปีและเป็นจุดเด่นของประเทศที่จะช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาศึกษาเรียนรู้เข้าใจและเข้าถึงความเป็นมาของประเทศไทยทำให้คนในชุมชนเกิดความคิดที่อยากจะช่วยกันรักษาอนุรักษ์ไว้นานๆ เพื่อเป็นจุดผลักดันหรือจุดเด่นของชุมชน #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
…ตรวจงาน ปี 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด …ภาคเรียนที่ 2/2566… แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#ชุมชนวัดน้อย วงศ์สว่าง11 #วัดมัชฌันติการาม
…> วัดมัชฌันติการาม (วัดน้อย) ได้สร้างมาเมื่อใดไม่มีประวัติปรากฏชัดเจนจึงยากที่ทราบประวัติความเป็นมาที่ถูกต้อง จากการเล่าสู่กันมาของคนในท้องถิ่น และครั้งนี้เลยได้โอกาสที่จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ วัดมัชฌันติการาม โดยมี ท่านพระอาจารย์ อานนท์ โพธินนฺโท (พระลูกวัด) เป็นผู้ให้ข้อมูล ประกอบกับหลักฐานที่พอจะรวบรวมได้ในปัจจุบัน วัดนี้เริ่มสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นวัดป่าที่ล้อมไปด้วย สวนทุเรียน สวนกล้วย ในสมัยนั้นยังไม่ชื่ออย่างเป็นทางการ แต่เป็นสถานที่ปฏิบัติวปัสสนากรรมฐานของพระธุดงค์ที่ผ่านไปมา จนมาถึงพุทธศักราช 2417 “เจ้าจอมมารดาเที่ยง” เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4 เป็นองค์อุปถัมภ์ในการก่อสร้างศาสนวัตถุต่างๆ เพื่อให้เป็นวัตถุที่ถูกต้องตามพระวินัยและกฎหมายบ้านเมือง การสร้างวัดได้มาสำเร็จบริบูรณ์ในสมัยนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงได้รับเป็นพระธุระในการผูกพัทธสีมาและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วัดมัชฌันติการาม”นั่นเอง…<#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
..ตรวจงานพี่ปี 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่ บางปูสมุทรปราการ อย่างแรกคือทำให้รู้และซึ้งใจตั้งแต่เตรียมตัวเดินทางคือเพื่อนทั้งหมด 4 คน ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยการเดินทางไปลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย ระหว่างเดือนทางมีอุปสรรคในเรื่องของสภาพอากาศเนื่องด้วยเป็นวันที่มีฝนตกตลอดทั้งวัน และตลอดทั้งการเดินทาง แต่เพื่อนๆก็มีความสุข การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้เรียนรู้ถึงวิธีชีวิต บ้านเรือน ของคนวนระแวง เพราะเดินทางโดยรถส่วนตัวและได้มีโอกาสมองบรรยากาศทุกอย่างตลอดจนได้เห็นบ้านเรือนของคนวนชุมชน ว่ามีลักษณะความเป็นอยู่อย่างไร ตอนแรกค่อนข้างกังวลว่าสถานที่ในวันนี้จะเป็นอย่างไร เนื่องด้วยมีฝนตกตลอดทั้งวัน แต่พอไปถึงจริงๆ กลับตรงกันข้าม เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เข้ามาเช็คอิน ณ.สายลมบางปู คาเฟ่ แต่ทางเราไม่สามารถเข้าไปสัมภาษณ์พนักงานได้เนื่องจากพนังงานเป็นประชาชนแฝงหรือต่างด้าว แต่ได้มาเสริตหาข้อมูลพบว่าสถานที่นี้ดังมากเรื่องของจานชามเซรามิก และเป็นสถานที่ที่มีจุดเด่นและยอดฮิตที่จะดึงดูดให้คนมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็ได้เห็นถึงวิถีชีวิต ของคนในชุมชนนั้น โดยที่ตามวิสัยทัศน์ของการเดินทางรอบข้างจะเต็มไปด้วยโรงงานและเห็นเรือตามทะเลจำนวนมาก ทำให้ได้รู้ถึงวิถีชีวิตและการประกอบอาชีพของคนใรพื้นที่ และสถานที่โด่นเด่นเช่น สถานตากอากาศบางปู คือการได้เรียนรู้ถึงแหล่งการอนุรักษ์ป่าไม้ และในขณะเดียวกันได้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของจุดชมวิวที่มีนกนางนวลมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยที่ให้ความสนใจกับสถานที่แห่งนี้ และได้เรียนรู้ถึงประวัติความเป็นมาจากคุณลุงสวงค์ ชูหนู ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในครั้งนี้ด้วย รวมถึงได้เห็นถึงมิตรภาพของเพื่อนทั้ง 4 คน ว่าต่อให้ต้องเจออุปสรรคอะไรบ้างในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพี่อนๆก็ไม่ทอดทิ้งอละท้อแท้ต่ออุปสรรคนั้นเลย ขอบคุณค่ะ #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
…ตรวจงานพี่ปี 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
…สร้างมาเพื่อเป็นเส้นทางสำหรับประชาชนทุกคน เป็นแหล่งเรียนรู้ ที่ติดอ่าวไทยแห่งเดียวของกรุงเทพมหานคร สร้างเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ป่าชายเลน และเพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล…
…สิ่งที่ได้รับ คือ ได้พบแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างมาเพื่อกักเก็บธรรมชาติเหล่านี้ไว้ ได้ทราบวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านระแวกนั้น ที่ช่วยกันดูแลป่าไม้ แถมชาวบ้านยังมีรายได้จากการขายของ เวลาที่นักท่องเที่ยวเข้ามาอีกด้วย #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
…ตรวจงานพี่ปี 2 #เอกพัฒน์สวนนันท์ การสำรวจลงพื้นที่…ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566…แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...บทสรุปของนักศึกษา...การลงพื้นที่ได้รู้ประวัติความเป็นมาของชุมชนบ่อนไก่แล้วยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนในชุมชนบ่อนไก่เป็นชุมชนแออัดทำให้เกิดมีการสร้างกลุ่มอาชีพแม่บ้านเพื่อพัฒนาชุมชนบ่อนไก่และยังก็ได้เรียนรู้สมุนไพรต่างๆสามารถช่วยรักษาเส้นผมและรักษาศีรษะแล้วก็ยังได้เรียนรู้ ขั้นตอนการทำแชมพู่มะกรดใบย่านางและแชมพู่สมุนไพรต่างๆสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันตนเองได้และก็ยังได้เรียนรู้ #การใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันตนเองได้แล้วก็ยังได้รู้เรียนกระบวนการสร้างวิสาหกิจชุมชนบ่อนไก่ใน #หลักSDGs (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) แล้วก็ยังได้เรียนรู้กว่าจะผ่านมาตรฐานวิสาหกิจระดับจังหวัดในประเทศไทย #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 ปิดภาคเรียนที่ 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
....การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รู้จักชุมชนตะเคียนเตี้ยมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องประวัติความเป็นมาของชุมชน ประวัติของบ้านร้อยเสา จากที่แต่ก่อนรู้จักแค่ชื่อชุมชนแต่ไม่เคยได้เข้ามาศึกษาเลย จนได้เข้ามาศึกษาและได้รู้จักวิสาหกิจที่ชุมชนแห่งนี้ จึงได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำพวงมโหตร การทำถุงผ้าจากดอกไม้สด การเพ้นท์สีกะลามะพร้าว ทุกอย่างล้วนเป็นของที่มีอยู่ในชุมชน เป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างเพลิน ใช้จิตนาการ ที่สำคัญประธานชุมชนยังมาต้อนรับและสอนทำด้วยตนเองเลย ประทับใจมากๆค่ะ สุดท้ายถ้ามีโอกาสจะกลับไปเรียนรู้และทำกิจกรรมที่ชุมชนอีกครั้งค่ะ #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานพี่ปี 2 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...สิ่งที่ได้จากการลงพื้นที่ชุมชนตลาดเก่า 100 ปี หนองจอก ประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนทำให้ได้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติภายในชนบทซึ่ง บ้านบางหลังยังคงมีความเค้าเดิมอยู่และบริเวณนี้เป็นจุดตัดกันของลำคลองหลายสาย เช่น คลองแสนแสบ ส่งผลให้พื้นที่นี้กลายเป็นศูนย์กลางชุมชน เป็นสถานที่พบปะ แลกเปลี่ยน ซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ทำให้ได้รู้ถึงผู้คนในชุมชนมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลาด #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานปี 2 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด ภาคเรียนที่ 2/2566 #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
....ณ...ที่แห่งนี้คือชุมชนตลาดนางเลิ้ง ตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัยราชกาลที่5 อีกทั้ง เป็นย่านแห่งศิลปะ วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า อย่าง ละครชาตรี ที่ในปัจจุบัน หาชมได้ยาก #ชุมชนไม่ได้สูญสลายแค่เปลี่ยนรูป หากเรา มองเห็นถึงความสำคัญของชุมชนนั้น ซึ่ง ในชุมชนตลาดนางเลิ้ง มี ศิลปะ วัฒนธรรม มากมาย ให้คนรุ่นใหม่ อย่างเรา ได้ อนุรักษ์ ให้คงอยู่ต่อไป ในฐานะ นักพัฒน์ การมองให้ลึก ถึงแก่นแท้ คุณค่าของแต่ละชุมชน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการพัฒนาต่อไป ยุคสมัยเปลี่ยน รูปแบบการเข้าถึงผู้คนก็เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ยังคงอยู่ คือ คุณค่าของชุมชน ความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน
...การลงพื้นที่ชุมชนตลาดนางเลิ้งในครั้งนี้
ทำให้เราได้ เล็งเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมต่างๆ วิถีชีวิตแบบดั่งเดิม ได้เข้าใจ การใช้ชีวิตของผู้คนในชุมชน ได้ลงพื้นที่ พูดคุยกับพ่อค้าแม่ขายในชุมชน ทำให้เข้าใจได้มากขึ้น เกี่ยวกับชุมชนนี้ ได้เรียนรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม ที่คงอยู่คู่ชุมชนจนถึงปัจจุบัน อย่าง ละครชาตรี มองเห็นถึงปัญหาที่ทุกชุมชนต้องมี อย่างเช่น ปัญหาการจราจรในชุมชน ที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอ และได้ทราบถึงการแก้ไขปัญหา ที่ คุณอริย์ธัช ดีจริงตระกูล(คุณลุงพี่ปืน) รองประธานชุมชนตลาดนางเลิ้ง ได้ให้สัมภาษณ์กับเรา ถึงการบรูณะตลาดนางเลิ้งอีกครั้ง หลังจากนี้ นักพัฒน์แบบหนู ยังคงจะลงพื้นที่ชุมชนนี้ต่อไป เพื่อจะได้เรียนรู้ และเข้าใจได้มากขึ้น ต่อชุมชนนี้ ฝากติดตามคลิปวิดีโอ ของชุมชนตลาดนางเลิ้ง ep ต่อๆไปด้วยนะคะ#นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...การลงพื้นที่ศึกษาชุมชนนางเลิ้งแบบ Vlog ภาคเรียนที่ 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
...ตรวจงานนักศึกษา My SEP ใน #วิถีวิธีพอเพียงของนักศึกษา #เอกพัฒน์สวนสุนันทา
"...การใช้ชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง แบบพออยู่ พอกิน และพอใช้ ทำให้ครอบครัวมีรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และทำให้ครอบครัวมีอาหารไว้บริโภคที่ปลอดภัยไร้สารเคมีและลดการเกิดปัญหาเรื่องสุขภาพ..." [061 นางสาวภัทราวดี นวลจันทร์]
....จากการลงพื้นที่ชุมชนคลองบางพระครู ได้สัมภาษณ์ผู้นำชุมชน (คุณมะลิ) และสิ่งที่ได้จากการพูดคุยคือ การได้เห็นแนวคิดในการปกครองคนในชุมชน การได้รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนในชุมชนนี้ และได้เห็นถึงความรักและเคารพกันในชุม การไม่สร้างปัญหาให้กัน และคนในชุมชนส่วนใหญ่เน้นความเป็นส่วนตัว ชุมชนนี้เลยไม่ค่อยมีปัญหา และการที่เราจะป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อยลง เราต้องพยายามหาเวลาเพื่อพูดคุยกับคนในชุมชนเพื่อตรวจสอบว่าบ้านเรือนไหนที่มีปัญหาหรือมีความผิดปกติ และได้เรียนรู้ถึงความสามัคคีของคนในชุมชน #นักศึกษาเอกพัฒน์สวนนันท์
...ตรวจงานปี 2 ภาคเรียนที่ 2/2566 วิชาชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนันท์ แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
การดำเนินงานโครงการยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 2567 “โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก”
พื้นที่ดำเนินการ ชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการส่งเสริมศักยภาพด้านการพัฒนาผลผลิต ผลิตภัณฑ์ โดยมีรายได้ต่อเนื่องและพ้นเส้นความยากจน ครัวเรือนเกิดความอยู่เย็นเป็นสุข เป็นการเสริมรายได้อีกหนึ่งช่องทางจากอาชีพหลักให้เพียงพอกับรายจ่าย ลดปัญหาหนี้สิน
เป้าหมายที่ 5 การสร้างความเท่าเทียมและความเสมอภาคทางเพศ
- การให้คุณค่ากับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวซึ่งเป็นหนึ่งครัวเรือนเป้าหมาย ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้เพื่อการประกอบอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่เพียงพอเพื่อดูแลครอบครัวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเท่าเทียมทางเพศและการจ้างงานที่มีคุณภาพในสังคม
เป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
- ครัวเรือนเป้าหมายได้นำเอาองค์ความรู้ที่ได้รับจากการถ่ายทอดในด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกี่ยวกับการลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน คือ การจัดทำบัญชีครัวเรือนเพื่อวางแผนการใช้จ่ายให้เพียงพอกับรายได้ เพื่อลดปัญหาการก่อภาระหนี้สิน และการรู้จักประมาณตน เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข
(1) ไทม์ไลน์กาทำงานลงพื้นที่ “ศึกษาศิลปะบนวิถีชีวิตของคนคลองบางหลวง ” กระบวนการแรกในชั้นเรียน รับมอบหมายงานจากอาจารย์ผู้สอน (รองศาตราจารย์ ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด) กำหนดให้นักศึกษาจับกลุ่ม (รวมเพื่อนนักศึกษา ทั้งหมด6คน) ตั้งไลน์กลุ่มไว้เพื่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลในการลงพื้นที่ กับเพื่อนและอาจารย์ เกี่ยวกับกระบวนการทำงานลงศึกษา ”ชุมชนศึกษา“ โดยนักศึกษาเรียนรู้การทำงานเป็นทีม ซึ่งอาจารย์จะใช้รูปแบบการสอนและติดตามกระบวนการทำงานในชุมชนทั้ง onsite online ondemand onhand ชนิด realtime
(2) รวมกลุ่มปรึกษาพูดคุยในชั้นเรียน
1. สมาชิกในกลุ่มพูดคุยปรึกษากันเพื่อร่วมมือออกแบบความคิดเห็นว่าลงชุมชนศึกษาในเรื่องอะไร บทสรุปที่ปรึกษากัน ได้ตกลงศึกษาเรื่อง “ศิลปะบนวิถีชีวิตคนคลองบางหลวง”
2. เมื่อตกลงพื้นที่ และหัวข้อในการศึกษาได้แล้ว ก็ได้กันช่วยรวบรวมข้อมูล และรายละเอียดเกี่ยวกับ ชุมชนคลองบางหลวง จากในเว็บไซต์ต่างๆให้ครบถ้วน เพื่อนำเสนออาจารย์
(3) ปรึกษาอาจารย์ก่อนการลงพื้นที่ หลังจากที่ได้ปรึกษาอาจารย์และได้รับการอนุญาติจากอาจารย์ผู้สอนให้เริ่มลงพื้นที่ได้แล้ว ทางกลุ่มเรา ก็ได้นัดหมายกันลงพื้นที่จริง
(4) ลงพื้นที่จริงครั้งแรก
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 กลุ่มเราได้ทำการลงพื้นที่ครั้งแรกนัดเจอกันที่ mrt บางไผ่ แล้วนั่งรถตุ๊กๆ ต่อเข้าไปในชุมชนคลองบางหลวง เมื่อถึงชุมชนคลองบางหลวง กลุ่มของพวกเราจึงได้เริ่มเดินสำรวจชุมชน เก็บรวบรวมภาพ วิถีชิวิต การอยู่อาศัยของคนในชุมชน ศิลปะและวัฒนะธรรมต่างๆของคนในชุมชน และ หลังจากได้เดิมรวบรวมภาพและเก็บข้อมูล มาได้นิดหน่อย กลุ่มของเราก็ได้เดิมไปเจอกับ คุณลุงบ็อบปี้กำลังนั่งวาดรูปอยู่หน้าร้านของเขา ทสงกลุ่มเราจึงได้ขอสัมภาษณ์บันทึกภาพและวิดิโอ และได้ข้อมูลมานิดหน่อย ระหว่างการเดินทางกลับ ก็ได้ผ่านร้านวาดรูปอีกหนึ่งร้าน ทางเราจึงได้ขอสัมภาษณ์ แต่ทางร้านไม่สะดวกเนื่องจากพึ่งย้ายมาอยู่ที่ชุมชนคลองบางหลวงได้ไม่นาน แต่ทางเจ้าของร้านก็ได้แนะนำกับทางกลุ่มของพวกเราว่าควรไปสัมภาษณ์ซ้อแป้ง ผู้ที่อยู่ชุมชนคลองบางหลวงมานานและขายน้ำอยู่ที่ร้านถัดไปทางกลุ่มของเราจึงได้ ไปขอสัมภาษณ์ซ้อแป้งตามที่เจ้าของร้านรูป ได้แนะนำมา หลังจากที่ได้สัมภาษณ์ซ้อแป้ง ทางกลุ่มเราก็ได้ข้อมูลมาพอสมควรและซ้อแป้งก็ยังได้แนะนำเราให้มาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ใหม่อีกด้วย หลังจากการลงพื้นที่ในวันแรกเรายังเก็บข้อมูลมาได้ไม่มากนักจึงได้ปรึกษาพูดคุยกันเพื่อวานแผน และบทสัมภาษณ์ใหม่เพื่อมาลงพื้นที่ใหม่ในครั้งถัดไป เพื่อให้ได้ข้อมูลและรายละเอียดที่ครบถ้วนมากกว่าเดิม
(5) นำข้อมูลที่ได้รับมาปรึกษาอาจารย์ผู้สอน
1. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. นำข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากการลงพื้นที่ครั้งแรกมาปรึกษาอาจารย์ผู้สอนเพื่อขอคำแนะนำ และหาทางแก้ไขปัญหาที่ได้พบในการลงพื้นที่ครั้งแรก อาจารย์ผู้สอนจึงได้ชี้แนะในการทำแบบสอบถาม เพื่อให้ได้แบบสอบถามที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และได้ให้คำแนะนำต่างๆ เพื่อที่จะได้นำไปปรับใช้ในการลงพื้นที่ครั้งต่อไป
2. เมื่อทำแบบสอบถามสมบูรณ์ ทางกลุ่มเราก็ได้มีการประชุมนัดหมายกันในการลงพื้นที่ครั้งที่ 2
(6) ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 เก็บข้อมูลตามแบบสอบถาม
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ลงพื้นที่ครั้งที่สองตามที่ได้นัดหมายกันไว้ เมื่อไปถึงชุมชนคลองบางหลวงกลุ่มของเราก็ได้ไปยังสถานที่ ที่ซ้อแห้งได้นัดเราไว้ แต่ซ้อแห้งไม่สามารถไปกับกลุ่มเราได้ เมื่อกลุ่มเราได้ไปยังสถามที่แล้วก็ไม่เป็นตามที่คาดการณ์ไว้เพราะไม่สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆได้เท่าที่ควรแต่ทางกลุ่มเราก็ได้พบกับบ้านศิลปิน ซึ่งเป็นร้านที่ดังที่สุดในคลองบางหลวง ทางเราจึงได้ขอไปสัมภาษณ์ และได้นัดวันกับบ้านศิลปิน การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงยังไม่ได้ข้อมูลเท่าที่ควรทางกลุ่มเราจึงต้องปรึกษาและนัดกันมาลงพื้นที่ใหม่ในครั้งถัดไป
(7) ปรึกษาอาจารย์และวางแผนในการลงพื้นที่ครั้งที่ 3
1. วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568หลังจากที่เราได้ลงพื้นที่ครั้งที่ 2 ไปแต่ก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก ทางกลุ่มเราก็ได้ปรึกษาและวางแผนกันเพื่อที่จะได้เตรียมตัวในการไปลงพื้นที่ในครั้งถัดไปซึ่งได้นัดกับทางบ้านศิลปินไว้ แต่เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากบ้านศิลปินต้องการให้กลุ่มเราเอาใบอนุญาตไปให้ทางบ้านศิลปินด้วย ทางเราจึงได้ปรึกษากับอาจารย์ผู้สอนและก็ได้ผลสรุปออกมาว่าไม่สามรถออกใบขออนุญาตได้ทันทางกลุ่มเราจึงอาจจะต้องเปลี่ยนที่สัมภาษณ์ใหม่
2. หลังจากที่พบปัญหาทางกลุ่มของเราก็ได้มีการปรึกษากันและตกลงกันว่าจะเปลี่ยนที่สัมภาษณ์ใหม่ เป็นร้านพึ่งศิล ซึ่งอยู่ในชุมชนคลองบางหลวงเช้นเดียวกับบ้านศิลปิน เราจึงได้มีการนัดวันที่จะขอสัมภาษณ์บ้านพึ่งศิลและทางร้านก็อนุญาตให้เราสัมภาษณ์ได้เราจึงได้ เราจึงได้ปรึกษาและวางแผนกันเพื่อจะได้เกิดข้อผิดพลาดน้อยขึ้นหรือไม่เกิดข้อผิดพลาด
( การลงพื้นที่ครั้งที่3
1. วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 ทางกลุ่มของเราก็ได้เดินทางไปลงพื้นที่ครั้งที่3ตามที่ได้มีการวางแผนกันไว้โดยเริ่มจากการสัมภาษณ์บ้านพึ่งศิลที่เราได้ติดต่อไว้ และจากการที่ได้สัมภาษณ์บ้านพึ่งศิลก็ทำให้เราได้ข้อมูลมาพอสมควร หลังจากได้ทำการสัมภาษณ์ บ้านพึ่งศิลเสร็จแล้วเราก็ได้ทำการสัมภาษณ์ พี่นกร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่คลองบางหลวง ตามแบสัมภาษณ์ที่เราได้เตรียมไว้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน หลังจากสัมภาษณ์พี่นกเสร็จแล้ว ก็ได้ขอสัมภาษณ์พี่ที่ให้เช่าเรือนั่งชมคลองบางหลวง
2. ทางกลุ่มของเราได้มีการถ่ายรูปและอัพเดตรูปภาพและข้อมูลต่างๆในการไปลงชุมชนให้กับอาจารย์ทราบว่าได้ดำเนินการยังไงถึงไหนเพื่อได้รับฟังคำแนะนำจากอาจารย์และข้อเสนอแนะเพื่อให้การลงพื้นที่ครั้งนี้สมบูรณ์
(9) สรุปขั้นตอนการดำเนินงานการลงพื้นที่และถอดบทสรุป
1. นำข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดมาตรวจสอบความถูกต้อง ว่าข้อมูลครบถ้วนเพื่อจะได้นำเสนออาจารย์ผู้สอน
2. นำข้อมูลที่ได้ตรวจสอบแล้ว มาเรียบเรียงเนื้อหา สรุปข้อมูลเพิ่มเติม และทำคลิปวิดิโอเพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ
สมาชิกกลุ่มพี่ปี 2 ไปให้ถึงคลองบางหลวง
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
"ชุมชนนางเลิ้ง เสน่ห์วันวานที่ยังมีชีวิต"
กลางกรุงที่วุ่นวาย ยังมีมุมสงบที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต
บ้านไม้โบราณ ร้านอาหารเก่าแก่ และกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิม
เดินทอดน่องผ่านตรอกซอกซอย สัมผัสความงามที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือน
นางเลิ้ง…ชุมชนที่ยังคงหายใจ พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยเสน่ห์แบบวันวาน
...ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความเชื่อ การนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนล้วนต้องเคารพซึ่งกันและกัน อาทิ สองวัดที่พวกเราได้ไปมากเห็นถึงปรากฏการณ์การนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บริบทของสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นตามแรงศรัทธา ระดับความศรัทธาที่แตกต่างกัน ถึงกระนั้นการไปวัดยังมีเป้าหมายเดียวกันคือ ไปวัดใจ ไปแสวงหาที่พึ่งพาทางจิตใจ ต้องการความสงบ ทำสมาธิให้ตนพ้นทุกข์ตามความเชื่อ... วัดจึงไม่เหมือนกัน ... ตามความเชื่อศรัทธาส่วนบุคคลนั่นเอง
...ซึ่งคำว่า "#วัดอยู่ที่ไหน?" เป็นการคำถามที่ครั้งหนึ่งหลวงปู่ฝั้น หรือ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พบสนทนาธรรมที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร สนทนาธรรมกับในหลวงรัชกาลที่ 9).... "#วัดอยู่ที่ใจ"
...ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมออกแบบ ร่วมลงพื้นที่ ร่วมลงมือปฏิบัติการ ร่วมสรุป ตัดต่อ แก้ไข เผยแพร่... [นักศึกษาปฏิบัติการเองทั้งกระบวนการ]
#เอกพัฒน์สวนนัน รายชื่อสมาชิกกลุ่มนักศึกษา ปี 1 ค่ะ
อาหารการกินของคนสามารถสะท้อนถึงความหลากหลายทางทางวัฒนธรรมด้านอาหารได้อย่างชัดเจน และอนุสาวรีย์ชัยเป็นศูนย์กลางการเดินทางของหลายเส้นทาง หลายเป้าหมายของคนเดินทาง จุดพักรอรถเพื่อเดินทางจะมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องรองท้องไว้ในการเดินทางคือยนีมรอาหาร และที่แห่งนี้เองจะมีความหลากหลายประเภทที่มาจากทั้งอาหารไทยดั้งเดิม อาหารอาเซียน และอาหารนานาชาติ ทำให้เราได้สัมผัสกับมุมมองของพหุสังคมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน...กลุ่มเราเลือกจะไปทดลองกินอาหารว่าเป็นดั่งเช่นที่กล่าวมาหรือไม่?
สมาชิกลุนักศึกษาชั้นปีที่ 1 #ส่งงานอาจารย์เอฟ
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
เสริมเสน่ห์และความสัมพันธ์ให้มั่นคงมูให้รักสมหวัง เติมพลังความรักให้ยั่งยืน #ขอพรความรัก #มูเสริมโชค #พระแม่ลักษมี #พระตรีมูรติ #มูสายมู
“เมื่อรักคือพลังที่ต้องการความมั่งคั่งทั้งทางใจและทางกาย เราจึงขอพรจากพระแม่ลักษมีและพระตรีมูริ เพราะพระองค์ทรงประทานความรักที่มั่นคง ร่ำรวยในความสุขและความสมบูรณ์ ความรักที่ไม่เพียงแค่เติมเต็มหัวใจ แต่ยังสร้างเส้นทางแห่งโชคชะตาให้สวยงามและยั่งยืน ” การขอพรจากพระแม่ลักษมีและพระตรีมูรติไม่เพียงแค่เสริมโชคลาภและความมั่งคั่ง แต่ยังเป็นการขอพรในเรื่องของความรักและความสัมพันธ์ที่มั่นคง พระแม่ลักษมี พระผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ จะช่วยเสริมเสน่ห์และดึงดูดความรักที่ดีให้เข้ามาในชีวิต ขณะที่พระตรีมูรติ พระผู้มีสามพระพักตร์ จะช่วยเสริมความสัมพันธ์ให้แข็งแรงและยั่งยืน เติมเต็มชีวิตรักให้เต็มไปด้วยความสุขและความสมหวัง เมื่อคุณขอพรจากพระแม่ลักษมีและพระตรีมูรติ ด้วยความศรัทธาและความบริสุทธิ์ใจ คุณจะได้รับพลังที่ช่วยให้ความรักของคุณเติบโตและยั่งยืนในทุกมิติของชีวิต
สุดท้ายเเล้ว ความรัก, ความศรัทธา, และเส้นทางของการบูชาไม่จำเป็นต้องจำกัดแค่การขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถขอและเรียนรู้ได้จากทางครอบครัวด้วย ครอบครัวเป็นที่แรกที่เราสามารถได้รับการดูแล รัก และการสั่งสอนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งความเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ดีๆ เส้นทางของการบูชาก็สามารถเริ่มต้นจากความรักที่ครอบครัวมอบให้ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่มั่นคงในการสร้างความศรัทธาและการบูชาที่แท้จริงในชีวิต!!
...ในความเป็นจริง "เราเป็นผู้ตัดสินใจเองทั้งความรัก ความศรัทธา"...ทั้งสิ้น
กลุ่มนักศึกษาชั้นปี 1 #เอกพัฒน์สวนนัน
สมาชิกในกลุ่ม #StudentsVIEW
แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRUคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
#ถนนข้าวสาร #ย่านบางลำพู #เอกพัฒสวนนัน #ssru
📍ถนนข้าวสาร (Khao San Road) ตั้งอยู่ใกล้ย่านบางลำพู นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมามีร้านค้ามากมายไม่ว่าจะเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างตั้งฮั้วเส็ง เปิดบริการสินค้าเกี่ยวกับเย็บ ปัก ถัก ร้อย งานฝีมือ ร้านอาหารต่างๆหลายสัญชาติหรือแม้แต่ที่พัก hotelต่างๆ ทั้งยังมีวัดให้ทุกคนได้สักการะ เช่น วัดบวรนิเวศวิหาร นอกจากนี้ที่นี้ในยามค่ำคืนจะต่างจากตอนกลางวันมากๆ ในยามกลางคืนถนนข้าวสารจะเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารนานาชาติ ทั้งร้านประจำและร้านที่ขายริมถนน (Bangkok Street food) ชาวต่างชาติลองลิ้มชิมรสอาหารไทย อีกทั้งยังมีร้านสำหรับนั่งชิว ผับ บาร์ สถานบันเทิงมากมายที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวทั้งซอยถนนข้าวสาร
ความรู้ที่ได้ จากศึกษา
• ชีวิตผู้คนในถนนข้าวสาร บางลำพู
• ศึกษาหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพ
• ความแตกต่างกลางวันและกลางคืนที่เป็นสเน่ห์ของสถานที่นี้
🍀สมาชิกกลุ่มนักศึกษาปีที่1
...อย่าคิดจิตนาการเพราะการไม่เคยได้เห็น ได้อ่าน ได้ค้นคว้า จงลงไปหาข้อมูลและเรียนรู้ด้วยตนเอง...ไปให้เห็น ไปให้ถึงพื้นที่พืที่จริงศึกษาชุมชน #ปากคลองตลาด
...ไปลงพื้นที่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พบว่าบรรยากาศของตลาดคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ร้านค้าจำนวนมากมีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้าขนาดใหญ่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตาม พวกเราสามารถสอบถามข้อมูลจากแม่ค้า 7 คน และลูกค้า 6 คน
ข้อมูลที่ได้รับสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของตลาด ได้แก่ (1) ความสำคัญของพื้นที่ตลาดปากคลอง-ปากคลองตลาด ในฐานะแหล่งค้าส่งและค้าปลีกดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ (2) ปัจจัยที่มีผลต่อธุรกิจดอกไม้ เช่น เทศกาลสำคัญที่ทำให้ยอดขายพุ่งสูง (3) พฤติกรรมของลูกค้า ที่มีทั้งประจำ (ลูกค้าขาประจำ) และชั่วคราว (ลูกค้าขาจร) โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ลูกค้าเพิ่มขึ้น
...แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านเวลาการสัมภาษณ์เนื่องจากความหนาแน่นของลูกค้า (พวกเรารู้อยู่แล้วว่าต้องเจอปัญหานี้แน่นอน) แต่ด้วยน้ำใจของแม่ค้าที่ต้องมุ่งหมายขายดอกไม้จะแบ่งปันข้อมูลให้กับเหล่านักศึกษาไปด้วย..."นี้คือน้ำใจแม่ค้าปากคลองตลอง" แต่ข้อมูลที่รวบรวมได้ก็ช่วยให้เห็นภาพรวมของตลาดได้ดี และสามารถนำไปใช้ประกอบการศึกษาเกี่ยวกับลักษณะชุมชนและเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม
...การศึกษาชุมชนไม่เคยทิ้ง 1 วิธีการของในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ #เข้าใจเข้าถึงพัฒนา เป็นแนวทางที่ใช้เป็นวิธีการสำหรับนักศึกษาการจัดการพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม
...ทีมนักศึกษาเอกพัฒน์;
วิชา ชุมชนศึกษา รศ.ดร.ภูสิทธ์ ภูคำชะโนด #เอกพัฒน์สวนนัน แขนงวิชาการจัดการพัฒนาสังคม - SDM SSRU คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
Page updated
Report abuse