>> ประเด็นท้าทาย
เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 5 เรื่อง สถิติและข้อมูล โดยใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
>> ประเด็นท้าทาย
เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 5 เรื่อง สถิติและข้อมูล โดยใช้แบบฝึกทักษะ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
คณิตศาสตร์เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ฝึกให้ผู้เรียน คิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการคิดคำนวณ เนื่องจากผู้เรียนไม่เข้าใจถึงกระบวนการคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน ทำให้การจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังไม่ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในการคิดคำนวณที่ดีขึ้นครูผู้สอนจึงจัดทำแบบฝึกทักษะ เรื่อง สถิติและข้อมูล โดยผู้เรียนสามารถฝึกฝนได้เต็มที่ นอกเหนือจากที่เรียนในเวลาเรียนซึ่งทำให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้าของตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ และต่อยอดการเรียนรู้ในระดับชั้นที่สูงขึ้นได้
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1 ศึกษาเอกสาร ตำรา แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบบทดสอบวัดความความรู้เรื่องสถิติและข้อมูล แล้วกำหนดจุดมุ่งหมายของแบบทดสอบวัดความรู้
2.2 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุงพุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2563 ในเรื่องของ มาตรฐานการเรียน และตัวชี้วัด ของเนื้อหา เรื่อง สถิติและข้อมูล
2.3 ศึกษาการเขียนแผนการสอน และลงมือเขียนแผนการสอนลงในแผนการสอนซึ่งประกอบด้วย สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล โดยสร้างแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติและข้อมูล จำนวน 5 แผน การจัดการเรียนรู้วิเคราะห์สาระการเรียนรู้และเวลาเรียนเป็นรายชั่วโมง
2.4 ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ โดยจัดทำโครงร่างของเนื้อหา และจัดทำแบบฝึกทักษะ เนื้อหาการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติและข้อมูล โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ พร้อมตัวอย่าง แบบฝึกทักษะ และกิจกรรม
2.5 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องสถิติและข้อมูลก่อน – หลัง ใช้แบบฝึกเสริมทักษะของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยสร้างแบบทดสอบชนิดปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ซึ่งครอบคลุม ในแต่ละข้อมีคำตอบที่ถูกต้องเพียง 1 คำตอบ ถ้าตอบถูก กำหนดค่าคะแนนให้ 1 คะแนน และ ถ้าตอบผิดหรือไม่ตอบกำหนดค่าคะแนนให้ 0 คะแนน จำนวน 20 ข้อ ใช้เวลาในการทำ 1 ชั่วโมง โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ 3 ท่าน เพื่อตรวจสอบคุณภาพ
2.6 ให้คุณครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในเนื้อหา การเฉลยของตัวอย่าง แบบฝึกทักษะ และกิจกรรม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ พร้อมทั้งเสนอแนะและสะท้อนผลการจัดกิจกรรมเพื่อนำมาปรับปรุง แก้ไขให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ ให้เหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ผู้เรียน และโรงเรียน
2.7 นำผลการตรวจสอบคุณภาพของแบบฝึกเสริมทักษะโดยผู้เชี่ยวชาญมาปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ จนได้ฉบับสมบูรณ์แล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เคยเรียนเนื้อหา เรื่อง สถิติและข้อมูล และให้นักเรียนเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อปรับปรุง แก้ไข หรือนักเรียนมีความสับสนในข้อความใดให้ดำเนินการปรับภาษาให้เข้าใจง่ายขึ้น
2.8 นำแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง สถิติและข้อมูล ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ทั้งในรูปแบบ ONLINE หรือ ONSITE โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
2.9 บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้ ใน โปรแกรม Microsoft Office และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ หากมีนักเรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินในหัวข้อใด ให้ใช้กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน และการสอนซ่อมเสริมด้วยชุดการเรียนรู้ที่ผู้สอนจัดทำขึ้น สำหรับใช้แก้ไขปัญหาการเรียนรู้ให้นักเรียนได้ศึกษา และทำการทดสอบใหม่ จนกว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ที่เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง สถิติและข้อมูลมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น และผู้เรียนทั้งหมดมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะรายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติและข้อมูล มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง สถิติและข้อมูล โดยใช้แบบฝึกทักษะ มีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ และสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินการ
1. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/5 ก่อนและหลังใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง สถิติและข้อมูล พบว่าหลังการใช้สูงกว่าก่อนการใช้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
2. ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องสถิติและข้อมูล มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง