โดยเน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
overview
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีการสร้างความรู้ ทฤษฎีการเรียนรู้ 8 ขั้นของกาเย่ แนวคิดเกี่ยวกับสื่อเทคโนโลยี ในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ และนำความรู้มาปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในชั้นเรียน เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ที่เน้นความแตกต่างระหว่างบุคคลสำหรับนักเรียน ร่วมกับแนวคิดการเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Learning) เป็นแนวคิดทางการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับการใช้งานในชีวิตจริงมากที่สุด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งและสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง ดังนั้นในการศึกษาแนวคิดและ ความหมายของทฤษฎีรูปแบบการจัดการเรียนรู้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อนำมาเป็นกรอบในการ พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้สอนได้จัดเป็นระบบอย่างสัมพันธ์สอดคล้องกับทฤษฎี หลักการเรียนรู้หรือการสอนที่รูปแบบที่พัฒนาขึ้น สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายของผลการเรียนที่คาดหวัง
กิจกรรมในชั้นเรียน รูปแบบการจัดการเรียน
การสอนแบบ LIFPP โดยเน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
กิจกรรมหรือกระบวนการที่ครูออกแบบและดำเนินการภายในห้องเรียน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนให้เกิดความเข้าใจ มีส่วนร่วม และพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสนุกสนาน
กิจกรรมในชั้นเรียนมีเป้าหมายเพื่อ
กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
พัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันและการสื่อสาร
สร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้
ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถลงมือปฏิบัติงานและนำไปใช้งาน
ได้จริง
รูปแบบของกิจกรรมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเนื้อหาวิชา ระดับชั้น และรูปแบบการสอนที่ครูเลือกใช้ กิจกรรมในชั้นเรียนที่นำมาใช้กับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ LIFPP แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของการเรียนรู้และวัตถุประสงค์ของการสอน ได้แก่
การศึกษาหรือแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายนอกเหนือจากเวลาที่กำหนดในห้องเรียนหรือหลักสูตรปกติ ซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านสื่อดิจิทัล หนังสือ วิดีโอ พอดแคสต์ คอร์สออนไลน์ การสัมมนา หรือกิจกรรมเสริมต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะ เพิ่มพูนความรู้ และสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับผู้เรียนตามความสนใจและความต้องการเฉพาะบุคคล ผู้เรียนสามารถศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย ทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งขึ้นและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ปลูกฝังนิสัยใฝ่รู้ รู้จักค้นคว้าและศึกษาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคปัจจุบันที่ความรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
การกระตุ้นผู้เรียนมีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมแรงจูงใจและความสนใจ ในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมี ความกระตือรือร้น ในการศึกษา เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ และช่วยให้พวกเขาสามารถ จดจำและนำความรู้ไปใช้ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนมี ความมั่นใจในตนเอง กล้าคิด กล้าแสดงออก และสามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ การกระตุ้นทำให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถาม การทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ เช่น คำถามตอบเร็ว เกมจำลองสถานการณ์ ที่ผู้สอนไ้ด้พัฒนาขึ้น
ทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุน กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยไม่เน้นการถ่ายทอดความรู้โดยตรงเหมือนครูในรูปแบบดั้งเดิม แต่จะช่วย ชี้แนะแนวทาง กระตุ้นให้ผู้เรียนคิด วิเคราะห์ และค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้สอนโดยตรง แต่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ เช่น การฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ หลังจากที่ผู้เรียนได้เรียนรู้จากกิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมต่าง ๆ ที่ครูสร้างขึ้นกระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือทำจริง เพื่อเสริมสร้างทักษะ ความเข้าใจ และประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติ ซึ่งช่วยให้สามารถนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างของการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ เช่น
การทดลองในห้องปฏิบัติการ
การฝึกทำโครงงาน
การฝึกงานหรือฝึกอาชีพจริง
การฝึกซ้อมทักษะ เช่น การพูดในที่สาธารณะ หรือการเขียนโปรแกรม
การพัฒนาหรือความก้าวหน้าของผู้เรียนในการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และความสามารถในช่วงเวลาหนึ่ง โดยสามารถวัดได้จากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การพัฒนาทักษะ หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้
ชื่อ นามสกุล : นางกานต์สิรี อู่อรุณ
ตำแหน่ง : ครู
วิทยฐานะ : ชำนาญการพิเศษ
สาขาวิชา : คอมพิวเตอร์ธุรกิจและเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
สถานที่ทำงาน : วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี