หน้าเพจนี้ แสดงการใช้ข้อมูล HSI ในการตรวจสอบการระบาดของเพลี้ยกระโดด สืบเนื่องจากที่เราใช้ HSI 115 band ทำไมถึงไม่ใช้ CCD เพราะว่า CCD มีลักษณะเด่นคือ มีความละเอียดเชิงพื้นที่สูง จำนวนสเปกตรัมที่ต่ำ แค่ 4 band แต่ HSI มีลักษณะเด่นคือ มีความละเอียดเชิงสเปกตรัมที่สูง ดังนั้นถ้าเป็น CCD มันจำแนกข้าวไม่ได้ เพราะว่า ดาต้ามันไม่เหมาะนะครับ เพราะ CCD แค่ 4 band ไม่สามารถจำแนกความแตกต่างของพืืชสายพันธ์เดียวกันได้ เพราะมีแค่ 4 attribute ความก้าวหน้าของ sensor จึงพัฒนาขึ้นมาใหม่ จึงเกิดเป็น new ภาพใหม่ที่เป็น HSI นะครับ ที่สามารถแยกแยะความแตกต่าง ของ ภาพ
ซึ่ง HSI ในงานวิจัยนี้ได้รับการอนุเคราะห์ข้อมูลจาก “โครงการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากดาวเทียม อเนกประสงค์ขนาดเล็ก” โดยได้รับความร่วมมือจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนให้รับสัญญาณภาพถ่ายจาก ดาวเทียม SMMS “HJ-1A” ซึ่งคณะวิศวฯ มีส่วนร่วมในการพัฒนา และยังมีอายุการใช้งานอีก 3 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ” ล่าสุด ได้นำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าว ประเมินพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจาก “เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล” ซึ่งเมื่อปี 2553 เกิดการระบาดของแมลงศัตรูข้าวที่เรียกว่า “เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล” ในเขตพื้นที่ภาคกลางจำนวน 12 จังหวัด สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวกว่า 4 แสนไร่ คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 9 ร้อยล้านบาท (ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการควบคุมและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ซึ่งต่อมาในปี 2554 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติกรอบวงเงินงบฉุกเฉินส่วนกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าว 385 ล้านบาท (มติคณะรัฐมนตรี 3 พฤษภาคม 2554) ในเขตจังหวัดภาคกลาง
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์จัดการและประยุกต์ใช้งานข้อมูลดาวเทียม สถานีรับสัญญาณดาวเทียมจุฬาภรณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้มีการนำภาพถ่ายดาวเทียม SMMS มาประยุกต์ใช้ เพื่อติดตามสถานการณ์ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในพื้นที่ภาคกลาง ด้วยภาพถ่าย Hyper-Spectrum (HSI) ร่วมกับ Spectrum Library โดยในเบื้องต้น คณะผู้วิจัยของศูนย์ฯ ได้มีการลงพื้นที่สำรวจในตำบลโพตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง และตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2554) เพื่อเก็บตัวอย่าง Spectrum ของพื้นที่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โดยการเก็บตัวอย่างนี้ข้าวที่เก็บข้อมูลในการระบาดคือ ข้าวที่มีอายุ 120 วัน
รูป ที่ 1 (ซ้าย) Spectrum ของข้าวที่มีอายุ 120 วัน (ขวา) Spectrum ของข้าวที่มีอายุ 120 วัน ที่เกิดการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ด้วยอุปกรณ์ spectrometer ที่อำเภอท่าวุ้ง และอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (รูปจาก SMMS)
คณะ ผู้วิจัยจากทีม SMMS คณะวิศวฯ ได้นำ Spectrum ที่วัดได้มาวิเคราะห์และประมวลผลร่วมกับภาพถ่าย HSI จากดาวเทียม SMMS ถ่ายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 เพื่อหาพื้นที่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในเขตจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าว โดยจากการประเมินเป็นเฉพาะพื้นที่การเพาะปลูกข้าวที่มีอายุ 120 วันเท่านั้น จะแบ่งได้เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่ยังไม่โดนโรคระบาด 47,443.75 ไร่ และพื้นที่เพาะปลูกที่โดนโรคระบาดแล้ว 8,681.25 ไร่ (วิเคราะห์โดยใช้ Spectrum ที่วัดได้ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ดังแสดงในรูปที่ 1) ซึ่งในช่วงนี้พื้นที่เพาะปลูกในแถบจังหวัดสุพรรณบุรีอยูในช่วงการเตรียมการ เพาะปลูกรอบใหม่ และส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว ภาพที่ได้จึงไม่แสดงพื้นที่เพาะปลูกข้าวในบริเวณดังกล่าวมากนัก ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 2 การประเมินพื้นที่ระบาดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในข้าวอายุ 120 วันในเขตจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม
ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ด้วยภาพถ่าย Hyper-Spectrum ของดาวเทียม SMMS
รูปที่ 3 (ซ้าย) Spectrum ของข้าวอายุ 120 วัน (ขวา) Spectrum ของข้าวอายุ 120 วัน ที่เกิดโรคระบาดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในเขตจังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นค่าที่วัดได้จากภาพถ่าย HSI ของดาวเทียม SMMS (ถ่ายเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 54)
ซึ่งการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ภาค รัฐสามารถที่จะควบคุมและประเมินสถานการณ์ หรือทันต่อเหตุการณ์ได้ด้วยศักยภาพในการใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม SMMS ที่รับภาพถ่ายดาวเทียมได้ทุกวัน รวมถึงการนำไปใช้เพื่อประกอบการประเมินพื้นที่เสียหายและการชดเชยแก่เกษตรกร ได้อีกด้วย
(ข้อมูลอ้างอิงจาก ที่มา: ศูนย์จัดการและประยุกต์ใช้งานข้อมูลดาวเทียม สถานีรับสัญญาณดาวเทียมจุฬาภรณ์ , 27 มิถุนายน 2554)
รูปภาพ HSI 115 band SMMS ขนาด 631X579 พิกเซล
รูปภาพ HSI 115 band SMMS ขนาด 631X579 พิกเซล
ภาพหลังจาก การ map ลงบนแผนที่จริง
ภาพนี้คือถ่ายเมื่อวันที่ 19 พค 54
พิกัด ภาพ
Lat 14.22 กับ Lon 99.87
ดาต้าที่ทาง SMMS เขาให้มี label 3 คลาสมาให้
แค่ ข้าว กับ เพลี้ย และ area อื่นๆ ครับ เพราะเขาสำรวจแค่นี้จริงๆ
เบทจึงนำมา ทำผ่าน excel โดยใส่ไป 3 คลาส
(ใส่เท่าที่ทราบ )
เบท จึงแบ่งได้เป็น
1> ข้าว
2> เพลี้ย
3> พื้นที่ขอบรูปสีดำ
ประมาณ 3 คลาสที่ทาง SMMS มี
ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในนี้ครับ
Dropbox\Kitti\Datamining_course\insect
รายละเอียดภาพอยู่ใน
Dropbox\Kitti\Datamining_course\insect\README.txt
รูปพื้นที่นาข้าว จากการ Classification ของ ศูนย์จัดการดาวเทียม สถานีรับภาพจุฬาภรณ์
รูปพื้นที่ระบาด insect จากการ Classification ของ ศูนย์จัดการดาวเทียม สถานีรับภาพจุฬาภรณ์
เมื่อเปิดไฟล์ insect_3.csv จะ พบ Data ประมาณนี้ครับ
id row col B1 B2 B3 .... B115 insect rice BG
47053 82 154 0 0 0 0 0 0 1
47054 82 155 12 12 33 34 0 0 0
102348 177 444 56 46 79 89 0 1 0
108045 187 351 56 44 99 67 1 0 0
อธิบาย ได้ว่า
insect rice BG
3 ช่องสุดท้ายคือ ผล classified โดยใส่ 1 ลงไปตามข้อมูลเฉลยที่มี
id ที่ 47053 ค่าทุกค่าเป็น 0 จึงเป็น BG --> อันนี้คือขอบ
id ที่ 47054 ค่าทุกค่ามีค่า แต่ไม่มีผล classified เพราะไม่รู้เป็นอะไร --> อันนี้คือ area อื่นๆ ที่ไม่ใช่ rice area และก็ไม่ใช่ insect area ด้วย
id ที่ 102348 ค่าทุกค่ามีค่า มี label ว่า rice --> อันนี้คือ rice area
id ที่ 108045 ค่าทุกค่ามีค่า มี label ว่า insect --> อันนี้คือ insect area
สูตร Tri-co-occurence matrix จะได้ค้นพบ different objects บนภาพถึง 203 clusters
ข้อมูล SMMS 115 Band
ตอนนี้นี้รัน โปรแกรม นับจำนวน clusters แล้ว
ถ้าใช้ สูตร co-occurence matrix จะได้ different objects บนภาพถึง 133 clusters
ถ้าใช้ สูตร Tri-co-occurence matrix จะได้ค้นพบ different objects บนภาพถึง 203 clusters
การที่เราใช้ Tri โดยการเพิ่ม band (bandบน และ bandล่าง) เข้าไป จะทำให้เราได้ จำนวน clusters ที่เพิ่มขึ้น
เพราะ information ที่เราเพิ่มเข้าไป ทำให้ สร้างความแตกต่างได้มากขึ้น จากการใช้ แค่ 1 band ในการ หา
เนื่องจากข้อมูลชุดนี้ ถ่ายที่ระดับความสูงที่สูงมาก ครอบคลุม พื้นที่กว้างมาก จึง ค้นพบ the number of clusters เยอะมาก
การดาวนโหลดข้อมูลภาพ
http://smms.eng.ku.ac.th/
จริงๆ ภาพเอียงๆ อย่างงี้ จะถูกต้องนะครับ
เพราะ ว่า จากข้อมูลในหน้าเว็บ SMMS ที่ตอน ดาวนโหลด มาก็เอียงนะครับ
แต่ ถ้าเราเอาข้อมูลชุดนี้ไปเปิดใน Software ENVI มันก็จะปรับ auto ให้ตรงๆ ได้ครับ
แต่เอียงๆ ข้อมูลมันจะ โอเคกว่า ในเรื่อง ของ พวกพิกัด
เวลา mapping กลับไป google map มันน่าจะถูกต้องครับ
บันทึกปัญหาการใช้ข้อมูล SMMS
เรื่องที่หนึ่ง ว่า หน้าเว็บไม่มีภาพทุกภาพ และทุกเวลาที่ถ่าย
ภาพแต่ละภาพห่างกันประมาณ 3 เดือนครับ
ตามที่แจ้งไป ว่า ข้อมูลที่ sensor ถ่ายได้ ไม่ได้ถ่ายแผ่นเดิม ในแต่ละเดือน
ภาพถ่ายเดือนต่อไป อาจจะเลื่อน นะครับ shift ประมาณนั้นอะครับ
วิธีแก้ปัญหา คงต้อง ต่อภาพเอาเอง เป็น จิกซอ
แบบ ว่า ต่อ ประมาณว่า ภาพ มันไม่ได้ ตำแหน่งเดิมอะครับ
จึงต้องเอาภาพพื้นที่ข้างเคียงมาต่อ เพื่อให้ได้ ภาพเต็ม scene เพื่อจะได้เอาไปเปรียบเทียบได้
ผมยกตัวอย่างภาพมาให้ดูครับ
Layer ที่เป็นภาพที่สีเขียว กับ สีเหลือง คือ ถ่ายคนละ เวลากันครับ
เดือน พค ---> สีเขียว
เดือน กค. ---> สีเหลือง
เรื่องที่สอง lat/log มีค่าเท่าไหร่ เมื่อเราจะนำไปใช้กับ Google map
อันนี้ครับ Lat 14.22 กับ Lon 99.87
โดยกำหนดจุด area ผ่านหน้าเว็บ แล้ว เลือก search ก็จะได้พื้นที่ตำแหน่งนั้นครับ
อันข้างล่างนี้ตัวอย่างภาพครับ
เดือน 19 พค 54 ---> สีเขียว
เดือน 21 กค. 54 ---> สีเหลือง
เดือน 4 ตค. 54 ---> สีชมพู
สังเกตุ ว่าห่างกันประมาณ 3 เดือนครับ
จริงๆการแปลงภาพ
เบทแปลงเอาเอง
ประมาณเวลาดังนี้ครับ
ตอนแรกที่เสียเวลา คือเสียเวลาหาเครื่อง server รัน
แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วครับ
เพราะเบท แบ่ง การทำงาน ออกเป็น 2 ขั้นตอนย่อย
เลยทำให้สามารถรันโปรแกรมได้ที่เครื่อง desktop ของตนเอง ได้
ปกติการแปลง 115 Band เป็น ARFF
จะใช้เวลาราวราว 2-3 ชมครับ
สำหรับข้อมุลดิบไปเป็น ARFF
แต่ถ้ามี การทำ Label หรือ GT ให้ กับ ARFF ด้วย
ตรงนี้จะเสียเวลามาก
เพราะ ต้อง check การ map ของ GT ที่ได้มา ให้ตรงกับจุดที่ original หรือเปล่า
ขั้นตอนตรงนี้ก็อีก 2 ชม ครับ
ส่วนการใช้ข้อมูลเชิงเวลา
ต้อง ใช้จุดเดิม เวลาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
อันนี้ การเตรียมยิ่งยากมาก
แม้จะการันตีว่า ดาวเทียม วนกลับมาถ่ายพื้นที่จุดเดิมก็จริง
แต่คงไม่สามารถ การันตีได้ว่า พิกัด เติม
เช่น สมมติ ถ้าให้ประเทศไทย ระบุพิกัด long และ lat แทน X และ Y
เดือน มกราคม ถ่ายที่พื้นที่พิกัด ค่ากว้าง เริ่มที่ X=51 ถึง X=100 และ ยาว เริ่มที่ Y=51 ถึง Y=100
เดือน กพ ถ่ายพื้นที่เดียวกัน เริ่มที่ X=52 ถึง X=101 และ ยาว เริ่มที่ Y=50 ถึง Y=99
ทั้งสองภาพที่ได้จาก มกราคม และ กพ พื้นที่เดียวกันก็จริง แต่พิกัด คนละพิกัด
เพราะ ดาวเทียม วน มาถ่ายภาพ ไม่ตรงพิกัดเดิมครับ
เพราะมันจะเอียงไปนิดหน่อย แต่พื้นที่เท่ากัน
ตรงนี้ต้องเปิดภาพดูแล้ว มันต่างกัน ครับ
เพราะ ที่เราสนใจ ในการพิจาณาเชิงเวลา ควรจะเป็น จุดเดิม ครับ แต่เวลาเปลี่ยน
แต่ก็ ทำได้ยาก นะครับ
แล้วก็ก็ต้องทำการต่อภาพด้วยครับ
เพราะ ถ้าใช้เดือน มกราคม เป็น ต้นฉบับการเปรียบเทียบ
มาเปรียบเทียบเดือนกับ กพ
มกราคมจะมีค่าจุดพิกัด X,Y 100,100
แต่ขอบเขตจุดของภาพ กพ จะมีแค่ 101,99 ซึ่งไม่มีข้อมูลพิกัด 100,100 ครับ
ต้องเอาภาพพื้นที่ ข้างเคียงมา ต่อ ครับ
หนังสือ อ่านเพิ่มเติมของ Gistda