ต้นเหตุของอุบัติเหตุ (Causes of Accidents) H.W. Heinrich ได้เล่าเรียนถึงมูลเหตุที่ก่อกำเนิดอุบัติเหตุในงานที่เกี่ยวข้องกับด้านอุตสาหกรรมต่างๆในปี คริสต์ศักราช 1920 ผลการศึกษาเรียนรู้ สรุปได้สิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญมี 3 ประการ ตัวอย่างเช่น
ต้นเหตุที่เกิดขึ้นมาจากคน (Human Cause) มีปริมาณเยอะที่สุดหมายถึง88% ของการเกิดอุบัติเหตุทุกคราว ได้แก่ การทำงานที่ผิดจำต้อง ความพลั้งพลาด ความเลินเล่อ การมีนิสัยถูกใจเสี่ยงสำหรับในการปฏิบัติงานฯลฯ
สาเหตุจากการออกแบบที่ผิดจำเป็นต้องสมควร ตัวอย่างเช่น ด้านขั้นตอนการผลิต
ด้านวิศวกรรม ด้านการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงไม่เป็นตามหลักวิชาการ (Health, Safety, Environmental impact,Energy) ฯลฯ
สาเหตุจากการผลิต จัดตั้งผิดจำต้องสมควร อาทิเช่นด้านวิชาความรู้สำหรับในการจัดตั้งไม่ละเอียด
ด้านการไม่เล่าเรียนลักษณะการทำงานของเครื่องจักรที่จัดตั้ง วิชาความรู้ด้านติดเครื่อง การหยุดเครื่องฉับพลัน ระบบนิรภัยที่จำเป็นต้อง เครื่องไม้เครื่องมือช่วยกรณีรีบด่วน
การใช้แรงงานรวมทั้งการบำรุงรักษา ได้แก่ การตรวจเช็คตามช่วงเวลาต่างๆการสอบเทียบเคียงเครื่องไม้เครื่องมือวัด การบำรุงรักษา การบูรณะ ฯลฯ
ต้นเหตุที่เกิดขึ้นมาจากความบกพร่องของเครื่องจักร (Mechanical Failure) มีปริมาณเพียงแค่ 10%ของการเกิดอุบัติเหตุทุกหน ดังเช่น ส่วนที่มีอันตรายของเครื่องจักรที่ไม่มีเครื่องปกป้อง เครื่องจักรเครื่องไม้เครื่องมือหรือเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆทรุดโทรมขาดตกบกพร่อง รวมทั้งการวางแผนผังโรงงานไม่เหมาะสม สิ่งแวดล้อมสำหรับเพื่อการดำเนินงานไม่ปลอดภัย ฯลฯ
ต้นสายปลายเหตุที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ (Natural Disaster) มีปริมาณเพียงแต่ 2 % เป็นต้นเหตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ นอกจากการควบคุมได้ ดังเช่น แผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำหลาก ฟ้าผ่า กำเนิดพิกัดที่วางแบบรองรับ ฯลฯ
การผลิตความปลอดภัยสำหรับเพื่อการปฏิบัติงาน
ส่วนสำคัญของการทำงานเป็นการช่วยกันสร้างความปลอดภัยสำหรับในการดำเนินงานโดยวิธีการป้องกัน(Passive หรือ Prevention) ไม่ให้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การฝึกอบรมให้ความรู้ความเข้าใจ ความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกก่อนเข้าดำเนินการการตำหนิดตามวัดผลการกระทำสำหรับการดำเนินงานของบุคลากร แล้วก็สิ่งแวดล้อมที่ทำงาน แล้วก็โดยแนวทางคุ้มครองปกป้อง (Active หรือ Protection) อย่างเช่น การนำเอาเครื่องไม้เครื่องมือด้านนอกมาคุ้มครองป้องกันอวัยวะ ปกปิดสินค้า และก็ปกคลุมเครื่องจักรที่จำเป็นจะต้องต่อการกระทำงาน เพื่อผ่อนหนักให้เบาลงเพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยสำหรับเพื่อการดำเนินการอย่างมีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องยึดหลักการ 3E คือการใช้วิชาความรู้ทางด้านวิชาการ ด้านวิศวกรรมศาสตร์-(Engineering- E)เป็นในด้านการออกแบบ แล้วก็คำนวณเครื่องจักร วัสดุ ที่มีภาวะการใช้แรงงานที่ปลอดภัยที่สุด การต่อว่าดตั้งเครื่องคุ้มครองป้องกันอันตรายให้แก่ส่วนที่ขยับเขยื้อน หรืออันตรายของเครื่องจักร การวางแผนผังโรงงานระบบกระแสไฟฟ้า แสงไฟ เสียง การถ่ายเทอากาศฯลฯ
การให้การเรียน หรือการฝึกอบรม-(Education-E)เป็นรวมทั้งชี้แนะคนงาน หัวหน้างาน ตลอดจน
ผู้ที่มีการเกี่ยวข้องสำหรับในการปฏิบัติงาน ให้มีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการคุ้มครองปกป้องอุบัติเหตุ แล้วก็การผลิตความปลอดภัยในงานให้ทราบดีว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้น แล้วก็คุ้มครองป้องกันได้ยังไง และก็จะปฏิบัติงานแนวทางใดจะไม่มีอันตรายที่สุด ฯลฯ การใช้มาตรการบังคับควบคุม-(Enforcement-E)เป็นการกำหนดการทำงานโดยสวัสดิภาพ และก็การควบคุมบังคับอย่างเป็นจริงเป็นจังแล้วก็ครัดเคร่งกัดขัน ให้คนงานประพฤติตามเป็นกฎเกณฑ์ปฏิบัติ แล้วก็จะต้องประกาศให้รู้ทั่วถึงแม้ผู้ใดกันฝืน ไหมประพฤติตามต้องถูกลงโทษ เพื่อกำเนิดสามัญสำนึก กำเนิดเป็นวัฒนธรรมหน่วยงานขึ้น และก็เลี่ยง ความประพฤติปฏิบัติที่ผิดจะต้อง หรือเกิดอันตราย ถ้าเกิดพิเคราะห์ความปลอดภัยสำหรับในการดำเนินการ ถูกระบุเป็นข้อบังคับบังคับใช้ในด้านต่างๆซึ่งจำต้องเรียนรู้รวมทั้งทำตามอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการทำงานจริงจำต้องเรียนรู้เนื้อหามากเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับด้านบุคคลผู้ปฏิบัติการ สถานที่ปฏิบัติการเครื่องจักรเครื่องใช้ไม้สอย รวมทั้งสภาพแวดล้อมในทำงาน ฯลฯ