ศาลเจ้าพ่อวังกรูด เป็นศาลเจ้าพ่อที่ชาวอำเภอสตึกให้ความเคารพนับถือและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง ที่มีความสำคัญยิ่งและเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนชาวอำเภอสตึกและอำเภอใกล้เคียง ตั้งอยู่บนถนนสตึกสำราญ เขตเทศบาลตำบลสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีมย์ ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านสตึกริมฝั่งแม่น้ำมูล
ลักษณะตัวอาคารสิ่งก่อสร้าง
ศาลเจ้าพ่อวังกรูดมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน ประกอบด้วย
1. อาคารตัวศาลที่ประดิษฐานองค์เจ้าพ่อวังกรูด
2. ศาลาแปดเหลี่ยม จำนวน 2 หลัง
3. ศาลาฟ้าดิน
4. ประตูสวรรค์
5. เตาเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
6. เสาทีกงเต็ง
7. อาคารสำนักงาน
การจัดงานเฉลิมฉลองเจ้าพ่อวังกรูด
การจัดงานเฉลิมฉลอง สักการะเจ้าพ่อวังกรูด ในรอบหนึ่งปี จะมีงานเฉลิมฉององค์เจ้าพ่อวังกรูด สองครั้งคือ
1.งานเจ้าพ่อวังกรูด จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายน โดยจะมีการอัญเชิญเจ้าพ่อวังกรูดแห่ไปรอบ ๆ เมืองสตึก เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ จากนั้นก็จะอัญเชิญเจ้าพ่อวังกรูดมาประทับที่ศาลาพิธีชั่วคราว บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึกในงานจะมีมหรสพสมโภชในเวลากลางคืน ส่วนใหญ่มหรสพจะเป็น หมอลำ หรือวงดนตรี แล้วแต่ความเห็นชอบของคณะกรรมการจัดงาน นอกจากนี้ก็จะมีตักปลาพาโชค เพื่อให้ประชาชนได้เสี่ยงโชค และร่วมทำบุญ โดยมีรางวัลเป็นรถจักรยานยนต์ พัดลม ของใช้อื่น ๆ อีกมากมาย ตลอดทั้งงานเปิดให้ชมฟรี ระยะหลัง ๆ ก็จะมีการเก็บค่าผ่านประตูเข้าชมมหรสพบ้าง
2. งานงิ้ว จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หลังงานแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ในวันแรกของงานก็จะมีการอัญเชิญเจ้าพ่อวังกรูดแห่งไปรอบ ๆ เขตเทศบาลสตึก หังลังจากนั้นก็จะอัญเชิญเจ้าพ่อประทับศาลชั่วคราวที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึกเช่นเดียวกัน บางปีจะจัดที่ศาลเจ้าพ่อวังกรูด แต่บางปีจะจัดที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพ่อค้าอำเภอสตึกแต่ละชุดจะตกลงกันภายในงานจะมีการแห่มังกร แห่สิงห์โต ในตอนเช้า กลางคืนจะมีการแสดงเชิดสิงห์โต และเชิดมังกร ให้ชม ตลอดงานจะมหรสพคืออุปรากรจีน หรือที่เรียกกันว่า งิ้ว
การไหว้หรือสักการะเจ้าพ่อวังกรูด
การไหว้เจ้าพ่อวังกรูดจะใช้ธูปทั้งหมด 16 ดอกและมีขั้นตอนการไหว้ดังนี้
จุดธูปทั้งหมด 16 ดอก หลังจากไหว้และอธิษฐานเสร็จแล้ว
1. ปักธูปที่กระถางที่ศาลาฟ้าดิน (ที ตี่ แป่ บ้อ 5 ดอก )
2. ปักธูปที่กระถางด้านหน้าองค์เจ้าพ่อ 3 ดอก
3. ปักธูปที่กระถางด้านซ้ายองค์เจ้าพ่อ 3 ดอก
4. ปักธูปที่กระถางด้านขวาองค์เจ้าพ่อ 3 ดอก
5. เดินออกมาด้านนอกหน้าประตูทางเข้าศาล ปักธูปที่กระถางหน้าประตูด้านซ้าย 1 ดอก
6. ปักธูปที่กระถางหน้าประตูด้านขวา 1 ดอก
ประวัติเจ้าพ่อวังกรูด
ภายหลังจากไพร่พลมาจากมณฑลนครราชสีมาเข้าตีเจ้าอนุวงศ์แห่งเมืองเวียงจันทร์กลับมณฑลนครราชสีมาทางนครจำปาศักดิ์
มุ่งสู่มณฑลนครราชสีมาโดยมีคุณหญิงโมเป็นผู้นำทัพ โดยแต่ละขบวนทัพก็มีหัวหน้า จากคำบอกเล่าของท่านผู้รู้เล่าว่า กำลังพลที่เดินทางมาตาม
ชายฝั่งของแม่น้ำมูลได้ยึดเอาทุ่งกุลาร้องให้เป็นเป้าหมายของการเดินทาง โดยมีนายฮะ (ตาฮะ) กับนายเฮอ เป็นหัวหน้า พอมาถึงมองเห็นว่าบริเวณ
ฝั่งขวามือของแม่น้ำมูลมีชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งบ้านเรือน เพราะมีที่ดิน น้ำ ปู ปลา อาหารสมบูรณ์และจึงได้พาไพร่พลตั้งหลักปักฐาน ตั้งบ้านเรือนอยู่ปัจจุบันนี้ขึ้นอยู่กับอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ส่วนไพร่พลที่เหลือก็แยกย้ายกันไป โดยนายโพธิ์และนายกลางที่มีความชำนาญ
เกี่ยวกับการล่าสัตว์และคล้องช้าง ก็ได้นำไพร่พลข้ามแม่น้ำมูลทางฝั่งซ้าย ตั้งหลักปักฐานทำมาหากิน ปัจจุบันคือ บ้านตาโพธิ์ - ตากลาง ขึ้นอยู่กับอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ส่วนไพร่พลที่เหลือมีนายปึกเป็นหัวหน้า ได้เดินทางเรียบฝั่งแม่น้ำมูลมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่บ้านทัพค่ายมีที่ดิน พืชพันธ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ จึงได้แยกตัวและนำไพร่พลบางส่วนกลับมาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านทางเกวียน ปัจจุบันคือ หมู่บ้านประมง เขตเทศบาลตำบลสตึก เนื่องจากนายปึกมีความเคารพนับถือภูต ผี ปีศาจ เชื่อว่าจะช่วยดูแลปกปักรักษาไพร่พลให้มีความสุขและป้องกันภยันตรายทุกอย่างได้ตาปึกจึงได้เสาะหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อที่จะสร้างสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อที่จะสร้างสถานที่ให้ไพร่พลได้ทำพิธีกรรมและกราบไหว้บูชา จึงได้พบกับต้นมะค่าโมงขนาดใหญ่ ประกอบกับสถานที่นั้นเป็นที่น้ำจากกรุดกรูดไหลมาสมทบกับลำน้ำมูลจึงได้จัดสร้างศาลเพียงตาขึ้นเป็นที่ทำพิธีกรรมและกราบไหว้บูชาตามประเพณีต่อมาเมื่อมีชนหลายเผ่าเข้ามาตั้งหลักปักฐานทำมาหากินเป็นหลักแหล่งจนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ต่างก็ใช้สถานที่ดังกล่าวประกอบพิธีการกราบไหว้บูชาเรื่อยมาทำให้พี่น้องประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับ พี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนที่ได้มาอาศัยอยู่ในอำเภอสตึกได้ร่วมใจกันก่อสร้างศาลเจ้าพ่อวังกรูด เป็นอาคารคอนกรีต เสริมเหล็ก
องค์เจ้าพ่อวังกรูด สูงภายหลังจากที่พี่น้องชาวอำเภอสตึกและอำเภอใกล้เคียงรวมถึงพี่น้องประชาชนจากทั่วสารทิศที่
ได้มากราบไหว้ สักการบูชามากขึ้นตามเทศกาล ทำให้พื้นที่ศาลบริเวณดังกล่าวคับแคบ
ไม่สามารถรองรับและอำนวยความสะดวก คณะกรรมการพ่อคาทั้ง 4 ชุด ได้ประชุมปรึกษากันเพื่อที่จะจัดสร้างศาลเจ้าพ่อวังกรูดใหม่
เพื่อให้ใหญ่โตสวยงาม ทันสมัย ให้สมกับ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงได้ถือฤกษ์เอาวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2549 เป็นนวางศิลาฤกษ์ดำเนินการก่อสร้างสำหรับงานฉลองเจ้าพ่อวังกรูดนั้นได้กระทำติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 90 ปี ระหว่างต้นเดือนเมษายนของทุกปี
เจ้าพ่อวังกรูดซึ่งประทับที่ศาลหลังปัจจุบัน
อ่างเสือเล่นน้ำ ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าศาลด้านซ้าย
อ่างมังกรเล่นน้ำ ทำหน้าที่เฝ้าศาลด้านขวา
เต่ามังกรผู้รักษาประตูสวรรค์
ประตูสวรรค์
ประตูฟ้าดิน (ทีตี่แป่บ้อ)
ศาลาแปดเหลี่ยมสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
ศาลเจ้าพ่อวังกรูดศาลเดิมปัจจุบันยังคงอยู่ที่เดิม
แม่น้ำมุลบริเวณด้านหน้าศาลเจ้าพ่อวังกรูดซึ่งเป็นเขตอภัยทาน
ภาพมุมมองระหว่างศาลาแปดเหลี่ยมและประตูสวรรค์
เสาทุกต้นภายในศาลเจ้าพ่อวังกรูดประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
เสาทีกงเต็งพันรอบด้วยมงกร
ด้านหน้าศาลเจ้าพ่อวังกรูด