ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทและเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันในด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน ต่างก็มีคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในระบบการทำงาน หรือแม้แต่ภายในบ้านเรือน เช่น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ โทรศัพท์ เป็นต้นนอกจากนี้ ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์ เอกสารต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงานเอกสารต่างๆ โดยสรุปคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทกับวิถีชิวิตในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ด้านงานราชการ (government)
เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบทบาท และหน้าที่ ของหน่วยงานนั้นๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มีการใช้ระบบประชุมทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อเชื่อมโยงไปยังสถาบันต่างๆ กรมสรรพากร ใช้ในการจัดเก็บภาษี บันทึกการเสียภาษี เป็นต้น
2. ด้านงานธุรกิจ (business)
คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้กับงานด้านธุรกิจ ทั้งการจัดทำเอกสาร นำเสนองาน โดยนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้ กันทั่วไป เช่น Microsoft office มาใช้กันอย่างแพร่หลาย และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำระบบบัญชีสำเร็จรูป เพื่อทำรายการซื้อและขายสินค้า การตรวจสอบยอดคงเหลือของสินค้า ธุรกิจออนไลน์นำคอมพิวเตอร์มาใช้งานในรูปแบบของการซื้อ และขายสินค้าผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต (e-commerce) การทำธุรกิจในการรับชำระเงิน ค่าเช่าซื้อสินค้า และค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่มีการออนไลน์ข้อมูลกับหน่วยงานหลัก เพื่อทำการตัดยอดบัญชีโดยอัตโนมัติ
งานธนาคารที่บริการฝากเงิน การถอนเงิน การโอนเงิน การกู้ยืมเงิน การคิดดอกเบี้ย รวมถึงการทำธุรกรรม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-banking) หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยใช้โทรศัพท์มือถือผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ (m-Banking) ที่มีความสามารถเท่าเทียมกับคอมพิวเตอร์แบบพกพา นอกจากนี้ยังสามารถชำระค่าบริการ และค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบริการผ่อนชำระสินค้าผ่านบัตรเครดิต การเงินมือถือ การซื้อขายหุ้น เป็นต้น
3. ด้านการคมนาคมขนส่ง (transportation)
การคมนาคมและการขนส่ง เช่น การเดินทางโดยรถไฟ รถไฟฟ้า รถประจำทาง และเครื่องบิน ได้มีการนำคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการให้บริการแก่ประชาชน เช่น การสำรองที่นั่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ออกบัตรโดยสารออนไลน์ การตรวจสอบเส้นทางและตารางเดินทางออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปยังสถานีต่าง ๆ ได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ยังถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เพื่อช่วยจัดระเบียบเส้นทางการจราจรให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยังมีการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างสถานการณ์จำลองการบินสำหรับนักบินฝึกหัด โดยจำลองการขับเครื่องบินเสมือนจริง ช่วยประหยัดทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักบินและผู้โดยสารได้อีกด้วย
4. การศึกษา (education)
สถาบันการศึกษาในปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการค้นคว้าหาความรู้ เช่น การค้นหาข้อมูล ข่าวสารความรู้ ใช้ประกอบการเรียนการสอนจากอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ครู อาจารย์ยังใช้คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน เช่น การใช้สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เพื่อให้ ผู้เรียนค้นคว้าเพิ่มเติม หรือเพิ่มพูนประสบการณ์ ให้แก่ผู้เรียน ทั้งยังสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และสามารถทบทวนการเรียนได้ตลอดเวลา ใช้คอมพิวเตอร์สอนภาษา และการเรียนการสอนออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อช่วยให้ผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลและไม่สะดวกเข้าชั้นเรียน สามารถเรียนรู้ผ่านระบบได้ด้วยตนเอง เป็นต้น นอกจากนี้เนื้อหาด้านคอมพิวเตอร์ ยังเป็น เนื้อหาหนึ่ง ที่ใช้ในการเรียน การสอนในหลักสูตรอีกด้วย
สำหรับผู้บริหารสถานศึกษาก็ใช้คอมพิวเตอร์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการบริหารจัดการ เช่น ใช้คอมพิวเตอร์จัดทำทะเบียน วัดผลการเรียน การยืมและคืนหนังสือห้องสมุด ด้านงานบุคลากร ด้านงานการเงิน เป็นต้น
5. ด้านงานวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ (science and medical)
นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการศึกษา คำนวณ ค้นคว้า วิจัย รวมทั้งจำลองสิ่งต่างๆในทางวิทยาศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น และสร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เช่น การจำลองรหัสพันธุกรรม การพยากรณ์อากาศ การสำรวจการขุดเจาะทรัพยากรธรณี การเตือนแผ่นดินไหว การทำแผนที่จากภาพถ่ายดาวเทียม การสำรวจอวกาศขององค์การนาซา เป็นต้น
นอกจากนี้ยังสามารถนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในส่วนงานทะเบียนข้อมูลคนไข้ การเงิน สถิติ และเป็นอุปกรณ์สำหรับการตรวจรักษาโรคได้ ซึ่งจะให้ผลที่แม่นยำกว่าการตรวจด้วยวิธีเคมีแบบเดิม และให้การรักษาได้รวดเร็วขึ้น
6. ด้านงานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม (engineering and architecture)
วิศวกรและสถาปนิกสามารถใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ เขียนแบบ หรือจำลองโครงสร้างและสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การรับแรงสั่นสะเทือนของอาคาร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวโดยคอมพิวเตอร์จะคำนวณและแสดง ภาพสถานการณ์ใกล้เคียงความจริง รวมทั้งการใช้ควบคุม และติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ เช่น คนงาน เครื่องมือ ผลการทำงาน เป็นต้น
7. ด้านงานอื่นๆ
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว คอมพิวเตอร์ยังมีบทบาทด้านอื่นๆ หลายด้าน เช่น งานละคร งานโฆษณา งานโรงแรม การนำเข้าสินค้า การส่งออกสินค้า การประชุมทางไกล การวิเคราะห์ตลาดหุ้น เป็นต้น โดยคอมพิวเตอร์จะช่วยในการออกแบบ ลงทะเบียน ตรวจสอบ บันทึก และเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว