การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษาระดับเขตพื้นที่การศึกษา และระดับชาติ มีรายละเอียด ดังนี้
1. การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการวัดและประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ผู้สอนดำเนินการเป็นปกติและสม่ำเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไม่ผ่านตัวชี้วัดให้มีการสอนซ่อมเสริมการประเมินระดับชั้นเรียนเป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการเรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูลให้ผู้สอนใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนของตนด้วย ทั้งนี้โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
2. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินที่สถานศึกษาดำเนินการเพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและชุมชน
3. การประเมินระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดำเนินการโดยประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำและดำเนินการโดยเขตพื้นที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดำเนินการจัดสอบ นอกจากนี้ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา
4. การประเมินระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนที่เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้ารับการประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพื้นฐานความแตกต่างระหว่างบุคคลที่จำแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนที่ปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดำเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที เป็นโอกาสให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาและประสบความสำเร็จในการเรียนสถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทำระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็นข้อกำหนดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติร่วมกัน
เกณฑ์การวัดและประเมินผลการเรียน
1. การตัดสิน การให้ระดับและการรายงานผลการเรียน
1.1 การตัดสินผลการเรียน
ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น ผู้สอนต้องคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มตามศักยภาพ
ระดับมัธยมศึกษา
(1) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้น ๆ
(2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
(3) ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา
(4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
1.2 การให้ระดับผลการเรียน
ระดับมัธยมศึกษา ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่านการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียน ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรมเป็นผ่านและไม่ผ่าน
1.3 การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรียนเป็นการสื่อสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทำเอกสารรายงานให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ หรืออย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้งการรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่สะท้อนมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้
2. เกณฑ์การจบการศึกษา
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดเกณฑ์กลางสำหรับการจบการศึกษาเป็น 3
ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
2.1 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
(1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
(2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 63 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 14 หน่วยกิต
(3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
(4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
(5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
2.2 เกณฑ์การจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
(1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม ไม่น้อยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 39 หน่วยกิต รายวิชาเพิ่มเติมตามที่สถานศึกษากำหนด
(2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 39 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ไม่น้อยว่า 38 หน่วยกิต
(3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
(4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
(5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่สถานศึกษากำหนด
สำหรับการจบการศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น การศึกษาเฉพาะทาง การศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ การศึกษาทางเลือก การศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส การศึกษาตามอัธยาศัยให้คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักเกณฑ์ในแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
การวัด/ประเมินการเรียนรู้และการจบหลักสูตร
เกณฑ์การตัดสินผลการเรียนผ่านช่วงชั้น ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีจุดมุ่งหมายเพื่อนำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินความสำเร็จในการเรียน การผ่านช่วงชั้น และการจบหลักสูตรการศึกษาระดับต่าง ๆ ผู้เรียนทุกคนต้องได้รับการตัดสินให้ “ผ่าน” เกณฑ์มาตรฐานทั้ง 4 เกณฑ์ ดังนี้
เกณฑ์ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติม
1.1 ผู้เรียนทุกคนต้องเรียนสาระการเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาและเรียนเรื่องราวของทุกศาสนา เพื่อการเข้าใจวิถีชีวิตไทย การเข้าใจซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติ
1.2 ผู้เรียนต้องเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระ สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม และเลือกแผนการเรียนที่สถานศึกษาจัดขึ้น
1.3 สถานศึกษาสามารถกำหนดระบบรายงานผลการเรียนเป็นระบบใด ๆ แต่ต้องเป็นแนวเดียวกันทั้งสถานศึกษา เช่น
- แบบคะแนนร้อยละ ผู้เรียนต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยกว่า 50
- แบบระดับผลการเรียน 8 ระดับ เช่น 4 – 3.5 – 3 – 2.5 – 2 – 1.5 – 1 – 0 ผู้เรียนต้องได้ระดับผลการเรียนไม่น้อยกว่า “1” จึงต้องผ่านเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำ
- การเปลี่ยนคะแนนที่ได้ให้เป็นระดับผลการเรียน โดยใช้เกณฑ์ ดังนี้
4 หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 80 – 100
3.5 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 75 – 79
3 หมายถึง ผลการเรียนดี ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 70 – 74
2.5 หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างดี ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 55 – 59
2 หมายถึง ผลการเรียนน่าพอใช้ ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 50 – 54
1.5 หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 55 – 59
1 หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 50–54
0 หมายถึง ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ 0 –49
1.4 ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม และสาระการเรียนรู้เพิ่มเติมในระดับ “ผ่าน” ทุกรายวิชา จึงจะได้รับการตัดสินให้ผ่านระดับชั้นและการผ่านช่วงชั้น
1.5 ผู้เรียนมีสิทธิขอรับการประเมินใหม่ เพื่อให้ได้คะแนนสูงขึ้น การประเมินเพื่อปรับคะแนนผลการเรียนให้สูงขึ้น จะยุติเมื่อผู้สอนตัดสินผลการเรียนของรายวิชานั้น ๆ แล้ว
1.5 ผู้เรียนที่ได้ผลการประเมิน “0” หรือ “ต่ำกว่าร้อยละ 50” ผู้ปกครองต้องติดตามผู้เรียนให้เข้ารับการซ่อมเสริม จนได้ผลการเรียนในระดับ “ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด”
1.7 ผู้เรียนที่เข้ารับการซ่อมเสริม เมื่อ “ผ่าน” การซ่อมเสริมแล้ว จะได้รับคะแนนตามผลการประเมินใหม่
1.8 การประเมินแต่ละช่วงชั้น
ช่วงชั้นที่ 2 หรือชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ประเมินผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นรายภาค
ช่วงชั้นที่ 3 หรือชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 ประเมินผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นรายภาค
เกณฑ์ที่ 2 การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ กระทำได้หลายวิธี ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม มีแนวดำเนินการดังนี้
2.1 สถานศึกษามีหน้าที่แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
2.2 คณะกรรมการฯ มีหน้าที่กำหนดเงื่อนไขการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ โดยแยกต่างหากจากผลการเรียนรู้รายปี/ภาค แล้วมอบผู้สอนไปดำเนินการทุกรายวิชา
2.3 ผู้สอนมอบหมายผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสาระการเรียนรู้นั้น หรือทำโครงงาน หรือ เลือกชิ้นงาน หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
2.4 ให้มีการประเมินผลเป็นระยะ ๆ เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการฯ แล้ว ให้ครูประจำชั้น / ครูที่ปรึกษา ฝ่ายวัดผล ประกาศให้ผู้เรียนทราบ และรายงานผู้ปกครองใน ปพ.5
2.5 ผู้เรียนที่ “ผ่าน” เกณฑ์การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ ตามที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับการตัดสินให้ผ่านระดับชั้น และการผ่านช่วงชั้น
เกณฑ์ที่ 3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา
3.1 คณะกรรมการสถานศึกษามีหน้าที่กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา เพื่อสร้างเอกลักษณ์ เกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสถานศึกษา และชุมชน
3.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค์หรือพฤติกรรมของผู้เรียน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ
“3” หรือ “ดีเยี่ยม” หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมตามตัวบ่งชี้ ผ่านเกณฑ์ เป็นร้อยละ 80-100 แสดงว่า ผู้เรียนมีคุณลักษณะนั้นจนสามารถเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นได้
“2” หรือ “ดี” หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมตามตัวบ่งชี้ ผ่านเกณฑ์ เป็น
ร้อยละ 70-79 แสดงว่า ผู้เรียนมีคุณลักษณะนั้นด้วยการปฏิบัติตนด้วยความเต็มใจ มีพฤติกรรมดีตามปกติ
“1” หรือ “ผ่านเกณฑ์การประเมิน” หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมตามตัวบ่งชี้
ผ่านเกณฑ์ เป็นร้อยละ 50-59 แสดงว่า ผู้เรียนมีคุณลักษณะนั้นได้ปฏิบัติตนด้วยการพยายามปฏิบัติตามคำแนะนำ
“0” หรือ “ปรับปรุง” หมายถึง ผู้เรียนมีพฤติกรรมตามตัวบ่งชี้ ผ่านเกณฑ์
เป็นร้อยละ 0-49 แสดงว่า ผู้เรียนมีคุณลักษณะนั้นต้องมีผู้อื่นคอยกระตุ้นเตือน
3.3 ผู้เรียนต้องได้รับผลการประเมิน “ดีเยี่ยม” “ดี” หรือ “ผ่านเกณฑ์การประเมิน” จึงถือว่า “ผ่าน”
3.4 ผู้เรียนที่ได้รับผลการประเมิน “ปรับปรุง” เป็นผู้เรียนที่ “ไม่ผ่าน” เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา ต้องเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมคุณความดี ตามแนวทางที่สถานศึกษากำหนดให้ครบถ้วน จึงจะได้รับการตัดสินให้ผ่านระดับชั้น และการผ่านช่วงชั้น
เกณฑ์ที่ 4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
4.1 สถานศึกษามีหน้าที่กำหนดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และแนวทางในการประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรม และให้มีการบันทึกผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนไว้เป็นหลักฐาน
4.2 ผู้เรียนต้องเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาของการจัดกิจกรรม และ “ผ่าน” เกณฑ์การประเมินผลตามที่สถานศึกษากำหนด
4.3 ผู้เรียนที่ “ไม่ผ่าน” ต้องแก้ไข / ซ่อมเสริม ให้ “ผ่าน” ทุกกิจกรรม จึงจะได้รับการตัดสินผ่านระดับชั้น และการผ่านช่วงชั้น
Insert an image of the wedding party or upload individual photos of each bridesmaid and groomsman.