แอร์บ้าน

ดูภาพขั้นตอนการล้างแอร์

http://www.youtube.com/watch?v=0rAFr7JRYh0

แอร์มีน้ำแข็งเกาะ น้ำหยด เกิดได้อย่างไร และแก้ไขอย่างไร

หลายๆ ท่านคงเคยพบปัญหาจากแอร์ต่างๆ กับไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาก็จะคล้ายๆ หรือเหมือนๆ กัน เกิดจากสาเหตุเดียวกัน จึงเป็นที่มาของ "คำถามที่พบบ่อย" เช่นแอร์ไม่เย็น มีน้ำหยด เป็นน้ำแข็ง เสียงดัง ฯลฯ ซึ่งบ้านแอร์จะรวบรวมคำถาม อาการ และ สาเหตุ ของแอร์มาให้ทราบ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาได้บ้าง โดยเฉพาะกับวิธีการใช้งาน ซึ่งทุกท่านจะได้ไม่ต้องเสียเงินและเวลาในการซ่อมแซมแอร์ เพียงท่านทำการบำรุงรักษาแอร์ตามปกติ ซึ่งประหยัดเงินและเวลามากกว่า

ตัวคอยล์เย็นเกิดน้ำแข็งเกาะต้องแก้ไขอย่างไร

สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะที่ที่พบมากคือแผ่นกรองอากาศสกปรกจนเกิดการอุดตัน ทำให้อากาศภายในห้องหมุนเวียนไม่สะดวก หรือเกิดจากผิวของคอยล์เย็นสกปรกมากจนทำให้ประสิทธิภาพในการถ่ายความร้อนของคอยล์ลดต่ำลงไป จึงไม่เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างอากาศในห้องกับน้ำยาทำความเย็น เป็นผลให้อุณหภูมิของน้ำยาทำความเย็นลดต่ำลงจนทำให้ผิวของคอยล์เย็นมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาถ้าตรวจพบสาเหตุทั้งสองประการนี้ให้ถอดแผ่นกรองอากาศมาล้างทำความสะอาดหรือทำความสะอาดคอยล์เย็นให้สะอาดปัญหาดังกล่าวก็จะหายไป แต่ถ้าคุณตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วไม่พบสาเหตุที่แนะนำทั้งสองนี้ แสดงว่าเครื่องปรับอากาศของคุณมีการทำงานที่ผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว เช่น มอเตอร์ของพัดลมทำงานผิดปกติ ขอให้แจ้งให้ช่างเข้ามาตรวจสอบเครื่องปรับอากาศของคุณ

มีน้ำหยดจากตัวคอยล์เย็นในห้อง

การเกิดน้ำหยดจากตัวคอยล์เย็นในห้องของคุณเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบมากที่สุดคือถาดรองน้ำทิ้งอุดตันหรือรั่ว ขอให้คุณตรวจสอบถาดรองน้ำทิ้งของคุณว่ามีการอุดตันหรือเกิดรูรั่วหรือไม่ ถ้าถาดรองน้ำทิ้งสกปรกซึ่งโยส่วนมากมักจะเกิดตะไคร่น้ำเกาะ ให้รีบทำความสะอาดเพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตันของท่อระบายน้ำทิ้งแล้วยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้อีกด้วย อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำหยดที่ตัวแฟนคอยล์ก็คือคอยล์ระบายความร้อนในตัวแฟนคอยล์ของคุณเกิดน้ำแข็งเกาะ ถ้าเป็นเช่นนี้ให้ตรวจสอบดูว่าแผ่นกรองอากาศสกปรกจนเกิดการอุดตันทำให้อากาศไหลเวียนไม่สะดวกหรือเปล่า หรือตรวจดูมอเตอร์และพัดลมในแฟนคอยล์ว่าทำงานเป็นปกติดีหรือไม่ ถ้าพัดลมหรือมอเตอร์ทำงานตามปกติควรติดต่อศูนย์บริการให้มาแก้ไขให้คุณ

ทำท่อตันเพราะเมือก เราถอดล้างเองได้ ไม่ต้องใช้ช่าง

  • - เตรียมตัวก่อน สับเบรกเกอร์เฉพาะแอร์ เตรียมถังน้ำ 1 ใบใกล้มือ

  • - ใช้คัตเตอร์แกะเทปกาวตรงจุดต่อระหว่างท่อน้ำทิ้งกับแอร์ ค่อยๆ ดึงออกมา

  • - ตอนดึงออกมา น้ำจะไหลออกจากท่อเยอะมากๆ ก็เอาถังมารอง

  • - น้ำที่ออกมาเป็นน้ำจากไอน้ำควบแน่น ไม่มีพิษ จับได้ไม่ต้องกลัว

  • - ใช้เครื่องเป่าอากาศ เป่าลมสวนเข้าไป เพื่อไล่เมือกออกให้หมด เมือกจะไหลออกทางด้านท่อน้ำทิ้งที่ปลายอีกข้าง

  • - ถ้าไม่มีเครื่อง ให้ต่อท่อสายยางยาวๆ มาต่อเอา เปิดน้ำจากก๊อกฉีดไล่เมือกเอาก็ได้

  • - เสร็จก็ต่อท่อกลับ ใช้เทปกาวกันน้ำอันใหม่พัน ตั้งใจพัน ไม่งั้นน้ำจะรั่วออกมาตรงนี้

สาเหตุปัญหาแอร์น้ำหยด บริเวณคอยล์เย็น (ตัวแอร์ด้านใน) มีหลายสาเหตุดังนี้

  • กรณีมีน้ำล้นออกมาด้านข้างหรือด้านหน้าแอร์ โดยมีอัตราการไหลของน้ำค่อนข้างแรง สาเหตุเกิดจากถาดน้ำทิ้งหรือท่อน้ำทิ้งอุดตัน แก้ไขโดยการทำการฉีดล้างแอร์โดยปั๊มน้ำแรงดันสูง

  • กรณีมีน้ำหยดบริเวณท่อน้ำยาแอร์ สาเหตุเกิดจากการกลั่นตัวของไอน้ำบริเวณท่อแอร์ แก้ไขโดยการเพิ่มความหนาของฉนวนหุ้มท่อให้หนาและมิดชิดขั้น

  • กรณีมีหยดน้ำเกาะที่บริเวณตัวแอร์ สาเหตุเกิดจากการติดตั้งในบริเวณที่มีลมหรือไอร้อนผ่านตลอดเวลาจังก็ทำให้เกิดการควบแน่นของไอน้ำในอากาศจนเปลี่ยนสถานะมาเป็นหยดน้ำ วิธีแก้ไขคือไม่น้ำอุปกรณ์ที่ให้ค่าความร้อนวางอยู่ใกล้ๆตัวแอร์

  • กรณีมีน้ำหยดริมๆด้านซ้ายหรือขวาของตัวแอร์ สาเหตุอาจเกิดมาจากการใส่ถาดน้ำทิ้งไม่แน่น หรือไม่เข้าที่

อาการของแอร์เมื่อน้ำยาั่รั่ว จะสังเกตได้ดังนี้ครับ

  • แอร์มีอาการไม่ค่อยเย็น หรือไม่เย็นเลย

  • คอมเพรสเซอร์แอร์ยังทำงานอยู่ เน้นย้ำว่าคอมเพรสเซอร์นะครับ เพราะบางครั้งพัดลมคอยล์ร้อนหมุนแต่คอมเพรสเซอร์อาจไม่ทำงานก็เป็นได้

  • ท่อน้ำยาแอร์หรือแผงคอยล์เย็น มีน้ำแข็งเกาะ

ซื่งในการตรวจสอบจุดรั่วคร่าวๆสามารถตรวจสอบได้โดย สังเกตว่ามีคราบน้ำมันตรงจุดที่น่าจะมีการรั่วไหลของน้ำยาแอร์ได้ง่าย เช่น จุดต่อของแฟร์นัต(อยู่ช่วงท่อน้ำยาแอร์เชื่อมต่อกับตัวแอร์) , บริเวณเซอร์วิสวาล์ว , จุดเชื่อมต่อท่อ(กรณีเดินท่อยาวๆ) เป็นต้น หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือให้อัดน้ำยาแอร์,ก๊าซไนโตรเจน เข้าไปในระบบแล้วใช้น้ำผสมสบู่ลูบหาตรงบริเวณที่คาดว่าน่าจะรั่ว ถ้าจุดไหนรั่วจะเห็นฟองสบู่โตขึ้นมา (ถ้ารั่วรูเล็กๆจะสังเกตได้ยากมาก)

อาการแอร์เปิด-ปิดด้วยรีโมทไม่ได้และวิธีแก้ไข

อาการแอร์เปิดปิดด้วยรีโมทไม่ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุ ดังนี้ครับ

  • ถ่านที่ใส่ไว้ในรีโมทแอร์หมดอายุการใช้งาน อาการนี้จะสังเกตได้ง่ายคือ หน้าจอรีโมทแอร์จะไม่มีไฟ ไม่มีการแสดงผล หรือมีแต่ก็เห็นแบบลางๆ วิธีแก้ไขคือต้องเปลี่ยนถ่านซื่งขนาดของถ่านจะแล้วแต่ทางผู้ผลิตแอร์ยี่ห้อนั้นๆเค้ากำหนดมาครับ

  • เกิดจากที่ตัวรับสัญญาณรีโมทเเสียหรือสกปรก ถ้าสกปรกก็สามารถแก้ไขด้วการทำความสะอาดครับ แต่ถ้าเสียต้องเปลี่ยนใหม่อย่างเดียว

  • แผงควบคุมเสีย ตรงนี้ต้องเปลี่ยนแผงหรือส่งซ่อทศูนย์อย่างเดียวครับ

ถ้าไม่สามารถซ่อมด้วยตัวเองได้ ระหว่างรอช่าง สามารถเปิด-ปิดแอร์ได้ที่หน้าเครื่องไปก่อนครับ สังเกตจะมีปุ่ม on/off อยู่

สาเหตุของอาการแอร์เสียงดัง(คอยล์ร้อน)

สาเหตุของอาการแอร์เสียงดัง(คอยล์ร้อน) ส่วนใหญ่จะมีดังนี้ครับ

  • อาการเสียงดังจากการประกอบโครงแอร์หรือคอมเพรสเซอร์ไม่ดี สามารถแก้ไขได้โดยการหาจุดที่ประกอบที่ผิดพลาด หรือบางจุดอาจต้องหาวัสดุมารองเพื่อป้องกันการสั่นกระพือ และสำหรับคอมเพรสเซอร์แอร์ต้องเช็คว่าลูกยางรองคอมเพรสเซอร์ยังสภาพดีอยู่หรือไม่

  • คอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพ จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานไม่นิ่งจึงทำให้เกิดการสั่นจนเกิดเสียงดังได้ สามารถแก้ไขได้โดยการให้ช่างซ่อมแอร์มาซ่อมหรือเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ใหม่

  • ใบพัดลมคอยล์ร้อน แตกเนื่องจากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปขณะแอร์ทำงาน สามารถแก้ไขโดยการเปลี่ยนใบพัดลมใหม่ (ต้องดูขนาดพัดลมให้ตรงกับของเดิมเวลาซื้อมาด้วยเพราะอาจจะไม่สามารถเข้ากันได้)

  • ลูกปืนมอเตอร์คอยล์ร้อนเสีย หรือจาระบีที่ที่ใส่ไว้ในตลับลูกปืนแห้งหรือหมดสภาพ สามารถแก้ไขได้โดยการถอดโครงแอร์ออกเพื่อทำการเปลี่ยนลูกปืนใหม่

  • มีมด หรือแมลงเข้าไปในแม็คเนติก สามารถแก้ไขได้โดยถอดแมกเนติกมันขัดหน้าสัมผัส หรือทางที่ดีควรเปลี่ยนแมคเนติกเลยจะดีกว่า

สาเหตุคอยล์เย็นแอร์เสียงดังและวิธีแก้ไข

สาเหตุคอยล์เย็นแอร์เสียงดังและวิธีแก้ไข หลักๆแล้ว มีดังนี้ครับ

  • ลูกปืนหรือแบริ่งมอเตอร์คอยล์เย็น เสื่อมสภาพ ซื่งถ้าเป็นจากสาเหตุนี้การหยอดน้ำมันคงจะเอาไม่อยู่ ควรเรียกช่างซ่อมแอร์มาเปลี่ยนไปเลยจะดีกว่าครับ

  • ถ้าหากเป็นแอร์ที่เก่ามากๆ ก็จะเสียงดังเวลาทำงานเนื่องจากโครงสร้างผิดรูป ถ้าสาเหตุน้คงมีทางเดียวคือเปลี่ยนแอร์ตัวใหม่ครับ เพราะถ้าให้ซื้อโครงมาใหม่คงจะไม่คุ้ม เพราะไม่รู้ว่าแอร์จะมีอะไรเสียอีกบ้าง

  • ถ้าหากไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานานทำให้มีฝุ่นเกาะจำนวนมาก หรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวแอร์ จนมอเตอร์ทำงานไม่สะดวก วิธีการแก้ไขก็ต้องเรียกช่างมาล้างสถานเดียวครับ

  • ถ้าหากตอนติดตั้งแอร์ไม่ได้ทำการแว็คคั่มระบบ ก็อาจเกิดเสียงดังขึ้นได้เวลาแอร์ทำงาน ซื่งวิธีแก้ไขปัญหาตรงนี้คือต้องถ่ายน้ำยาออกหมด แล้วทำการแวคคั่มระบบใหม่ ถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนไดเออร์ด้วยครับ แล้วค่อยเติมน้ำยาเข้าระบบให

การติดตั้งท่อน้ำทิ้งแอร์บ้าน

ในการติดตั้งแอร์บ้านนั้นการเดินท่อน้ำทิ้งก็ถือว่าเป็นจุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง เพราะถ้าหากติดตั้งท่อน้ำทิ้งไม่ดีอาจทำให้น้ำไม่สามารถระบายน้ำทิ้งจากแอร์ออกได้และทำให้น้ำทิ้งขังอยู่ในถาดน้ำทิ้งจนน้ำล้นออกมาภายนอกจนสร้างความเสียหายให้แก่ ตัวแอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าใต้ตัวแอร์ได้บริเวณรอบๆเครื่องได้ ท่อน้ำทิ้งที่ใช้ในการติดตั้งแอร์บ้าน ส่วนมากจะใช้ท่อ S-LON หรือท่อ PVC

การต่อท่อน้ำทิ้งจะต่อออกจากตัวคอยล์เย็นและเดินไปสู่ท่อระบายน้ำหรือทางน้ำทิ้ง และถ้าจำเป็นต้องเดินท่อน้ำทิ้งในแนวราบควรเดินท่อให้เอียงเล็กน้อย เพื่อให้ท่อน้ำทิ้งไหลสะดวก

ท่อน้ำทิ้งควรจะหุ้มฉนวนตรงบริเวณที่อาจจะเกิดมีการคอนเด้นท์ขึ้นได้ เช่น ช่วงที่ต่อออกจากคอยล์เย็น , เดินท่อน้ำทิ้งอยู่บนฝ้าเพดาน เป็นต้นและถ้าหากต้องต่อท่อน้ำทิ้งลงแหล่งระบายน้ำที่มีกลิ่นเหม็นควรทำ P-TRAP ที่ท่อน้ำทิ้งด้วยเพื่อป้องกันกลิ่นและแมลง

วิธีหาตำแหน่งติดตั้งแอร์ให้เหมาะสม

แฟนคอยล์ยูนิต

1. ไม่ควรวางคอยล์เย็นไว้เหนือหัวนอน เพราะจะทำการดูแลรักษายาก ที่นอนจะสกปรกได้ง่ายเวลาซ่อมหรือล้าง

2. ถ้าหากมีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ในห้องนอนด้วย ควรวางตำแหน่งคอยล์เย็นให้เป่าลมเย็นออกไปหามากกว่าส่วนพื้นที่ที่ใช้นอน

3. ไม่ควรวางตำแหน่งคอยล์เย็นให้เป่าลมเย็นมาหาเราโดยตรงเวลานอนเพราะอาจจะทำให้ไม่สบายได้

4. ในการติดตั้งคอยล์เย็น(แอร์ติดผนัง) ควรเว้นที่ว่างด้านบนระหว่างตัวแอร์กับเพดานอย่างน้อย 10 เซ็นติเมตร เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ง่าย และเพื่อง่ายแก่การถอดหน้ากากแอร์เวลาล้างหรือซ่อม

5. ควรพยายามวางคอยล์เย็นให้มีระยะใกล้กับคอยล์ร้อนเพื่อคอมเพรสเซอร์จะได้ไม่ทำงานมาก และเพื่อความประหยัดพลังงาน

6. ไม่ควรติิดตั้งคอยล์เย็นอยู่ในระดับต่ำมากจนเกินไป

คอนเดนซิ่งยูนิต

1.ควรวางคอนเดนซิ่งยูนิต(คอยล์ร้อนตัวนอก) ในบริเวณที่ตัวแอร์จะสามารถเป่าระบายลมร้อนได้ดี มิเช่นนั้นอาจจะทำให้แอร์เสียเร็วเนื่องจากความร้อน อีกทั้งยังทำให้ทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร

2. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ในตำแหน่งที่ไม่โดนฝนสาดได้ง่ายหรือทำที่กำบัง มิเช่นนั้นจะทำให้ส่วนที่เป็นโลหะเกิดสนิมขึ้นได้เร็วขึ้น

3. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์บริเวณที่ไม่ถูกแสงแดดส่องโดยหรือควรทำที่ กำบัง มิเช่นนั้นจะทำให้แอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นและทำให้แอร์ทำความเย็นไม่ดีเท่า ที่ควร

4. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ไม่ให้มีเสียงดังรบกวนบ้านข้างเคียง และควรไม่ให้ลมร้อนเป่าออกไปรบกวนบริเวณบ้านข้างเคียง

5. ในกรณีจำเป็นต้องแขวนคอยล์ร้อน ควรแขวนบริเวณที่มีโครงสร้างที่แข็งแรง มิเช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนหรือตกหล่นลงมาได้

6. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ให้สูงจากพื้นดินอย่างน้อย 10 เซนติเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำขังเวลาฝนตกน้ำท่วม

7. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ในที่สามารถล้างบำรุงรักษาได้สะดวก

8. ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในบริเวณที่มีกรดซัลไฟด์ เช่น บริเวณท่อระบายน้ำทิ้ง เนื่องจากสารทำความเย็นจะทำปฏิกิริยากับกรดซัลไฟด์ ทำให้เกิดแก๊สพิษ ซื่งอันตรายกับร่างกายเมื่อสูดดม

9. ควรวางตำแหน่งคอยล์ร้อนแอร์ในตำแหน่งที่ไม่เกะกะขวางทางเดิน

ถ้าต้องเดินท่อน้ำยายาวมากๆต้องทำอย่างไร

เดินท่อน้ำแอร์ยาวๆ

ถ้าหากต้องเดินท่อน้ำยายาวมากๆ ควรต้องทำการเติมน้ำแอร์เพิ่มเข้าไปให้เหมาะสมกับความยาวท่อ

สเปคที่ทางไดกิ้นกำหนดไว้มีดังนี้ (บางรุ่น)

  • ถ้าท่อน้ำยายาวเกิน 10 เมตร ในทุกๆ 1 เมตรจะต้องเติมน้ำยาเพิ่มเมตรละ 20 กรัม

  • ในการเดินท่อน้ำยาในแนวนอนสามารถเดินได้ไม่เกิน 30 เมตร

  • ในการเดินท่อน้ำยาในแนวดิ่งสามารถเดินได้ไม่เกิน 15 เมตร

วิธีตรวจเช็คน้ำยาแอร์ด้วยตัวเอง

วันนี้มีวิธีตรวจเช็คน้ำยาแอร์ด้วยตัวท่านเองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆทั้งสิ้นมาฝาก เพื่อว่าจะได้รู้น้ำยาแอร์ที่บ้านเราหมดหรือยัง ยังมีอยู่มั๊ยมีมากมีน้อย มาเริ่มขั้นตอนกันเลยครับ อันดับแรก เปิดแอร์ ตั้งอุณหภูมิสัก 20 องศา รอ 15 นาที ให้ตัวในบ้านมีลมเย็นออกมา ทีนี้เราก็ต้องไปเช็คน้ำยาแอร์ที่ตัวนอกบ้านหรือที่เราเรียกว่าตัวคอมเพรสเซอร์ ให้สังเกตุว่าพัดลมของตัวนอกบ้านหมุนมั๊ย ตามหลักเมื่อตัวในบ้านจ่ายไฟไปให้ตัวนอกบ้าน พัดลมและคอมเพรสเซอร์ต้องทำงาน ทีนี้ก็เอาหลังมือไปอังที่หน้าพัดลมคอล์ยร้อนนะครับ ให้เอาไปอังด้านหน้านะครับ ไม่ใช่แหย่เข้าไป อันตรายนะครับ ถ้าแอร์ทำงานปกติน้ำยาแอร์เยอะลมที่ออกมาต้องอุ่นมากถึงร้อนนะครับ อย่างนี้ปกติครับ ถ้าลมที่ออกมาเย็นแสดงว่าน้ำยาแอร์น้อยหรือคอมเพรสเซอร์ไม่เดิน อันนี้ต้องเรียกช่างครับ ลองเอาไปทำดูครับหวังว่าไม่ยากเกินไปนะครับ มีข้อสงสัยตรงไหนสอบถามได้ครับ

วิธีเติมน้ำยาแอร์

สูบอากาศออกให้หมดก่อนนะครับ สูบทางด้านท่อขากลับด้านเดียว ไม่ต้องสนใจขาออก ถ้ามีวาล์วทั้งสองด้านเปิดออกให้หมดแล้วหมุนวาล์วกลับเข้านิดๆกันลูกยางรั่ว เมื่อแวกซ์อากาศออกหมดแล้ว ปิดเกจทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเข็มคืนแสดงว่ามีที่รั่ว ถ้าไม่คืน ต่อถังน้ำยา ใช้สายเส้นกลางต่อถังเปิดดวาล์วที่ถัง (ห้ามควำถัง)ไล่อากศออกนิดหน่อย แล้วเปิดวาล์วเกจสีฟ้าปล่อยน้ำยาเข้าประมาณ80-120 psig ตัวหนังสือดำ ปิดน้ำยาชั่วคราว เชครั่วในส่วนที่แก้ไข เมื่อไม่มีรั่วเดินเครื่องได้เลย คอมพ์เริ่มทำงานเข็มจะลดลงอย่างเร็ว ไม่ต้องตกใจ เปิดน้ำยาเพิ่มเข้าไป รักษาแรงดันไว้ที่ 50-55psig จับดูที่ท่อขากลับใกล้ๆตัวคอมพ์ เมื่อเข็มน้ำยาเริ่มเพิ่มขึ้นให้หยุดเติมก่อน (เพิ่มจาก 50-55) ปิดวาล์วไว้ก่อน ดูว่าน้ำยายังลดลงหรือไม่ วัดดูแอมปมิเตอร์ไม่ควรเกินพิกัดที่เนมเพลท ถ้าไม่มีที่วัดไม่เป็นไร จับดูที่ท่อน้ำยากลับใกล้ตัวคอมพ์ ถ้ายังไม่รู้สึกเย็นเพิ่มน้ำยาเข้าไปจนมือรู้สึกว่ามีความเย็นกลับมา ต้องไวต่อความรู้สึกหน่อย ระวังน้ำยาจะมากเกินในช่วงนี้ ต้องทำบ่อยจึงชำนาญ ไม่ควรเกิน 58-68 ขึ้นอยู่ว่าอากาศร้อนแค่ไหน ถ้าอากาศไม่ร้อนประมาณ 55-60psig ถ้าร้อน 62-68psig (ถ้าแคปทิ้วส์ฉีดทีคอลย์ร้อนท่อขากลับจะเย็นเร็วกว่าปกติให้ดูที่คอลย์เย็นว่าน้ำยาทั่วคอล์ยหรือไม่)สรุปว่าเติมน้ายาให้เย็นถึงคอมพ์ แต่ไม่ให้เกิน ถ้าเกินคอมพ์จะโอเวอร์โหลด ถ้าไม่ถึงคอมพ์ร้อนไม่ทนเอาเป็นว่าใกล้เคียงก่อนแล้วกัน

วิธีเติมน้ำยาแอร์พร่อง

เติมน้ำยาพร่องทำใกล้เคียงกันครับ แตกต่างกันตรงที่ไม่ต้องแว็คอากาศออก วิธีการคือเปิดเครื่องให้ทำงานตามปกติ ใส่สายเกจวัดสีน้ำเงินเข้าด้านเชอร์วิสวาร์ว ขณะที่ทำเกจจะต้องอยู่ปกติปิดนะครับ เสร็จแล้วสังเกตระดับแรงดันซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 60-70psi ถ้าแรงดันต่ำกว่านี้ก็ให้เติมน้ำยาเพิ่มได้โดยใช้สายเกจสีเหลืองต่อเข้ากับถังน้ำยาเสร็จแล้วเปิดถังน้ำยาแต่อย่าเพิ่งเปิดเกจนะครับเมื่อเปิดถังน้ำยาเสร็จแล้วให้คายสายสีเหลื่องตรงเกจออกเล็กน้อยเพื่อไล่อากาศในสายเกจออกให้หมดเสร็จแล้วหมุนให้แน่นอย่างเดิมจากนั้นก็เปิดเกจเติมน้ำยาให้ได้แรงดันตามที่กล่าวมาเป็นอันเสร็จครับ