ทิปแก้ปัญหาเครื่องปริ้นท์เตอร์

ทิปแก้ปัญหาเครื่องปริน้ เตอร์อิงก์เจ็ต

1. กระดาษติดปัญหาชวนหงุดหงิดแก้ไขได้

ถ้างานของคุณหยุดไม่มีการพิมพ์ออกมาเลยให้สันนิษฐานได้ ว่าเกิดปัญหากระดาษติดแล้ว

ซึ่งอาจเพราะกระดาษขาด พับ หรือป้ อนกระดาษไม่ถูกต้อง บรรยากาศที่มีความชืน้ ก็เป็นอีกสาเหตุ

หนึ่งเช่นกัน ปริ ้นเตอร์ที่มีปัญหากระดาษติดบ่อยๆ อาจจะต้องมีการทำความสะอาดโดย

ผู้ชำนาญการหรือต้องเปลี่ยนอะไหล่บางชิน้ คุณภาพของกระดาษที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นตัวการทำให้

เกิดกระดาษติดได้ เพียงแค่จ่ายเพิ่มอีกหน่อยเพื่อซือ้ กระดาษที่มีคุณภาพดีกว่าต้องมาอารมณ์ เสีย

กับปัญหากระดาษติดภายหลัง

เครื่องปริ ้นเตอร์อิงก์เจ็ตโดยเฉพาะรุ่นราคาถูกๆ มักอ่อนไหวกับตำแหน่งการใส่กระดาษและ

นำ้ หนักของกระดาษ ให้ที่กัน้ ในช่องใส่กระดาษอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับกระดาษและอย่าป้ อน

กระดาษ ต่างชนิดกันปนกันในช่องใส่กระดาษ เมื่อกระดาษติดให้ดึงกระดาษออกมาในทิศทาง

ตรงกันข้ามกับที่กระดาษถูกดึงเข้าไป ในเครื่องพรินเตอร์แล้วตรวจดูว่ามีเศษกระดาษหลงเหลืออยู่

หรือเปล่า ถ้าลูกกลิง้ หรือตัว Roller ที่ใช้ดึงกระดาษเอียงให้ลองพยายามค่อยๆ จัดตำแหน่งของมัน

ใหม่อย่างระมัดระวัง

2. แก้ปัญหาพิมพ์กระดาษแกรมหนาๆ

ปัญหากระดาษค้างหรือติด เมื่อพิมพ์กับกระดาษที่แกรมหนาๆ สามารถป้องกันได้ง่ายๆ นั่น

คือ เวลาใส่กระดาษในถาดไม่ควรตัง้ Guide ให้ชิดติดกับขอบกระดาษ ควรเว้นว่างไว้ประมาณ 1

กระเบียด

3. ใช้กระดาษแข็งรอง ก็ช่วยได้

ใช้กระดาษแข็งหรือแผ่นพลาสติกรองกระดาษ เพื่อให้เครื่องพิมพ์สามารถดูดกระดาษได้

ง่ายๆขึน้ (แต่ระวังอย่าให้แผ่นรองโดนดูดไปด้วย )

ไม่ควรใส่กระดาษเกินกว่า 5 แผ่น (ลองดูคู่มือของเครื่องพิมพ์ประกอบด้วย ว่ารับประกัน

ดาษหนาสุดได้กี่แกรม) เพราะแต่ละรุ่นอาจรองรับกระดาษได้ไม่เท่ากัน ทดลองใส่แล้วพิมพ์ดูดครั้งละ

1 แผ่นจนถึง 5 แผ่นแล้วดูว่ากี่แผ่นดีที่สุด

4. กรีดกระดาษก่อนพิมพ์

กรีดกระดาษก่อนใส่ในเครื่องพิมพ์เสมอ เพื่อให้อากาศสามารถเข้าไปแทรกตัวอยู่ระหว่าง

กระดาษได้และเพื่อให้ฝุนผงที่ เกาะอยู่หลุดออก ถ้าทำไม่เป็นให้จับปลายด้านใดด้านหนึ่งแล้ว

สะบัดๆ จนครบ 4 ด้าน ก็ได้ครับ จากนัน้ ม้วนหัวกระดาษให้งอเล็กน้อยก่อนใส่เครื่องปริ ้นเตอร์

เพื่อให้ลูกกลิง้ ดูดกระดาษได้ง่ายขึน้

5. แก้ปัญหาหัวพิมพ์อุดตัน

สำหรับหมึกพิมพ์นัน้ การทำความสะอาดให้ใช้ซอฟแวร์ที่มากับเครื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะมี

ฟีเจอร์เกี่ยวกับการดูและรักษาหมึก เช่น Cleaner แต่ถ้าหากไม่มีหรือซอฟต์แวร์ใช้ไม่ได้ผลก็ให้ลอง

เอาตลับหมึกแช่นำ้ ยาล้างหัว พิมพ์สักครู่แล้วจึงซับด้วยผ้าแห้งที่ไม่มีขน สำหรับเครื่องปริ ้นเตอร์ของ

HP และ Lexmark ที่มีปัญหาและได้ทดลองแก้ปัญหาด้วยการใช้โปรแกรม Head cleaning และ

Nozzle check แล้วปรากฏว่า ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาหัวพิมพ์ตันได้ ให้ลองใช้นำ้ ยาล้างหัวพิมพ์

ใส่ลงในภาชนะที่มีขนาดพอที่เราจะนำตลับหมึกจุ่มลงไปได้ โดยจุ่มเฉพาะส่วนที่เป็นท่อนำ้ หมึกลงไป

แช่ไว้ประมาณ 3- 4 นาที หรือนานกว่า จนกว่าจะเริ่มเห็นนำ้ หมึกเริ่มไหลออกมาจากปลายท่อนำ้

หมึกผสมกับนำ้ ยาล้างหัว พิมพ์ แต่ไม่ต้องกังวลว่าหมึกจะไหลออกจนหมด จากนัน้ เมื่อแน่ใจว่าไม่มี

คราบหมึกติดอยู่ใน Nozzle แล้วก็ค่อยๆ ซับเบาๆ ให้แห้งด้วยผ้าสะอาด จากนัน้ นำสำลีชุบนำ้ ยาล้าง

หัวพิมพ์หมาดๆ เช็ดบริเวณที่เป็นโลหะ (สีของโลหะจะเป็นสีทองแดง) ของทัง้ ตลับหมึกและที่ใส่ตลับ

หมึกตัวปริ ้นเตอร์ จากนัน้ นำตลับหมึกใส่กลับเข้าไปในพรินเตอร์เข้าที่แล้วล้างหัวพิมพ์ด้วย

โปรแกรมของปริ ้นเตอร์อีกที

6. ทำอย่างไรเมื่อเจอ “Not Enough Disk Space to Print”

ถ้าคุณได้รับข้อความ“Not Enough Disk Space to Print” แสดงว่าคุณกำลังมีปัญหากับ

หน่วยความจำของเครื่อง วิธีแก้คือ ให้ไปที่ Start> Search > All files and folders แล้วพิมพ์คำว่า

ค้นหาว่า *.tamp ในไดร์ฟ C: (รวมไปถึง subfolders ด้วย) เมื่อค้นหาเสร็จแล้วให้เลือกทัง้ หมดแล้ว

ลบทิง้ โดยไม่ต้องเหลือไว้ใน Recycle Bin (หรือกด Shift+Del ก็ได้) จะทำให้เครื่องมีพืน้ ที่มากขึน้ และ

สามารถพิมพ์ได้เร็วขึน้ ด้วย

รวมทิปสำหรับเรื่องการพิมพ์

1. สั่งพิมพ์งานแบบด่วน

แค่คลิกเมาส์ขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะพิมพ์ แล้วเลือก Print จากนัน้ โปรแกรมหลักของไฟล์นัน้ ๆ ก็

จะถูกเรียกขึน้ มาพร้อมกับสั่งพิมพ์งานให้ทันที เมื่อสั่งพิม์เสร็จแล้ว โปรแกรมก็จะปิดตัวเองไป

อัตโนมัติ แต่ทัง้ นีแ้ หละทัง้ นัน้ โปรแกรมหลักของไฟล์นัน้ ๆ จะต้องถูกติดตัง้ พร้อมใช้งานอยู่ด้วยนะ

ครับ ถึงจะใช้คำสั่งนีไ้ ด้

2. เขย่าตลับหมึกก่อนใช้งาน

ก่อนจะทำการเปลี่ยนตลับหมึก ที่จะใส่ลงไปบนเครื่องปริ ้นเตอร์ สำหรับอิงก์เจ็ตแล้วต้องทำการ

เขย่าตลับหมึกก่อนเพื่อให้หมึกมารวมตัวกันก่อน เพื่อให้หัวปริ ้นเตอร์ ทำการตรวจสอบหมึกภายใน

ตลับได้ง่ายขึน้

3. สั่งให้เรียงหน้าพิมพ์เอง

อิงก์เจ็ตส่วนใหญ่ จะไหลงานพิมพ์มาด้านหน้า ซึ่งเวลาสั่งพิมพ์งานหลายๆ หน้า เราต้องมาเรียง

หน้าใหม่ทุกครั้งเพราะหน้าสุดท้ายจะมาอยู่ด้านบนเสมอ

แต่เครื่องรุ่นใหม่ๆ จะมีฟังก์ชันนี ้Reverse Order ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่กำหนดให้การสั่งพิมพ์เริ่มต้น

จากหน้าสุดท้ายมายังหน้า แรกครับ ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามาเรียงหน้าใหม่อีกครั้ง

4. ควรใช้กระดาษให้เหมาะสมกับงาน

เช่น หากเป็นงานเอกสารธรรมดา แค่ใช้กระดาษที่วางขายทั่วไปก็พอ แต่หากคุณต้องพิมพ์งาน

ที่ต้องการความปราณีต เช่น พิมพ์รูปภาพ กระดาษที่ใช้ก็ควรเป็นกระดาษแบบโฟโต้ เนื่องจากจะทำ

ให้หมึกไม่แตกเมื่อพิมพ์ลงไป และสามารถคงคุณภาพได้นานกว่ากระดาษทั่วไป ซึ่งจะจางลงภายใน

เวลาไม่นาน และเมื่อพิมพ์งานออกมาแล้วควรเก็บชิน้ งานให้มิดชิดหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนแสง แดด

เพราะจะทำให้ซีดเร็ว

5. พิมพ์ภาพหน้าเดสก์ท็อป

สามารถจับภาพและพิมพ์หน้าจอที่มองเห็นจากมอนิเตอร์ได้เหมือนกับมือ อาชีพ ด้วย

ฟังก์ชัน Print Screen ลองมองไปที่ปุ่มด้านบนๆ ของคีย์บอร์ด คุณจะเห็นปุ่ม Print Screen หรือ

Prnt Scrn อยู่ เราจะใช้เจ้าปุ่มนีแ้ หละจับภาพหน้าจอ โดยเมื่อกดปุ่ม Print Screen ภาพหน้าจอของ

คุณจะถูกก๊อบปี้ไปไว้ใน คลิปบอร์ดชั่วคราว แต่ยังสั่งพิมพ์ไม่ได้จนกว่าคุณจะนำไป paste ใน

โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง สมมติว่าเราใช้ Paint โดยเมื่อ paste ลงใน Paint แล้วก็สามารถพิมพ์

หน้าจอของคุณได้แล้ว แต่หากต้องการจับภาพเฉพาะหน้าต่างๆ บนสุด ก็ทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

โดยแค่กด Alt + Print Screen แล้วก็นำไป paste เหมือนเดิม

6. สั่งเก็บงานหากต้องการพิมพ์บ่อยๆ

พิมพ์งานชิน้ หนึ่งบ่อยๆ แต่กว่าจะทำได้ก็ต้องหาไฟล์ เปิดไฟล์ด้วยโปรแกรม แล้วจึงเข้าเมนู

Print แล้วไหนจะต้องมาตัง้ ค่าอื่นๆ อีก ถ้าต้องทำบ่อยๆ ถ้าต้องทำบ่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ๆ

ดังนัน้ มาใช้วิธีง่ายๆ ที่ผมจะบอกดีกว่า โดยไปที่ Printer Properties แล้วไปที่แท็ป Advanced แล้ว

เลือก Keep printed documents ไฟล์นัน้ ก็จะคงอยู่จนกว่าเราจะลบมันทิง้ ไปเอง เวลาต้องการจะ

พิมพ์ซำ้ ก็ให้ไปเข้าที่ Start >Printers and Faxes แล้วดับเบิล้ คลิก้ เพื่อเข้าหน้าต่างของ Printer แล้ว

คลิก้ ขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะพิมพ์ซึ่งควรจะมีอยู่แล้ว เลือก Restart หรือเพื่อความสะดวกให้สร้าง

Shortcut ของ Printer ไว้โดยเข้าไปที่ Start > Printers and Faxes แล้วคลิก้ ขวาที่ Printer แล้วเลือก

create Shortcut ไว้ที่หน้าเดสก์ท็อป ก็จะสะดวกมากขึน้

7. เพิ่มเครื่องพิมพ์เมนู Send To

วิธีสร้างชอร์ตคัตใน Send To ทำได้ง่ายๆ โดยเมื่อเราได้ชอร์ตคัตจากข้อที่แล้ว ก็ให้

เอาชอร์ตคัตที่สร้างไปไว้ในโฟลเดอร์ชื่อ Send To สำหรับ Windows 9X จะอยู่ที่ C: Windows Send

To ส่วน Windows XP จะอยู่ที่ C:Documents and Settings <ชื่อยูสเซอร์ของคุณ> Send To แต่

คุณอาจไม่เห็นเพราะมันจะถูกซ่อนอยู่ ก็ให้พิมพ์ชื่อ Send To ต่อท้ายไดเรกทอรีลงไปที่ช่อง Address

เลยก็ได้

8. สร้างโปรไฟล์ไว้พิมพ์งานหลายๆ แบบ

ในบางครั้งเราต้องพิมพ์งานหลายๆ รูปแบบ แต่ต้องมาคอยเปลี่ยนออปชันเวลาจะพิมพ์งาน

ชิน้ หนึ่ง ก็ทำให้ยุ่งยากใช่มัย้ ล่ะครับ วิธีแก้ง่ายๆ คือการสร้าง Profile ซึ่งโดยปกติแล้วซอฟต์แวร์

เครื่องพิมพ์ มักจะมี options ให้เราสามารถเพิ่ม/ลด/แก้ไข Profile ได้ แต่หากเครื่องพิมพ์ของคุณไม่มี

ก็ไม่เป็นไรครับเรามาสร้าง Profile ด้วยตัวเองกันดีกว่า เริ่มจากไปที่ Start > Control Panel >

Printer and Other Hardware > Add a Printer จะมีหน้าต่าง Add Printer Wizard ขึน้ มา ก็ให้กด

next ไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าต่างที่มีคำว่า Name Your Printer ก็ให้ตัง้ ชื่อเป็น Profile ที่เราต้องการ

ครับ (เช่น Color printer สำหรับพิมพ์งานสีอย่างเดียว เป็นต้น) พอเรา Add Printer ได้แล้วก็ให้คลิก

ขวาที่ Printer ที่เราเพิ่งจะเพิ่มไปสักครู่ แล้วไปที่ Printing Preferences… หรือไปที่ Properties >

Printing Preferences ก็ได้ครับ แล้วก็ตัง้ ค่าได้ตามใจชอบเลยว่าอยากให้เครื่องพิมพ์ตัวนีมี้รูปแบบ

การพิมพ์ ยังไง เสร็จแล้วก็กด Ok เป็นอันเรียบร้อยครับ จากนัน้ ก็เพิ่มเครื่องใหม่อีกเรื่อยๆ ตามความ

ต้องการและงานที่อยากให้ทำ

9. ประโยชน์ของ Print to file

Print to File จะอยู่ในหน้าต่างที่เราตัง้ ค่าก่อนพิมพ์ครับ เมื่อเลือก Print to file แล้วงานของ

คุณจะถูกเก็บด้วยนามสกุล .prn ปกติเวลาพิมพ์งาน เครื่องพิมพ์จะสร้างไฟล์ .prn เสมอ เพียงแต่

ไม่ได้สร้างให้เห็น และไม่ได้เก็บไว้ แล้ว .prn มีไว้ทำไม?

คำตอบคือ มีไว้เก็บข้อมูลที่จะส่งไปให้เครื่องพิมพ์ ว่าเอกสารนีใ้ ช้ ฟอนต์อะไร มีกี่หน้า ตัง้ ค่า

หน้ากระดาษอย่างไร ฯลฯ สรุปก็คือ เป็นสื่อกลางระหว่างพีซีกับเครื่องพิมพ์นั่นเอง ประโยชน์ของมันก็

คือไฟล์ .prn นีส้ ามารถพิมพ์ได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรม text editor เลย ดัง้ นัน้ หากพิมพ์จาก

ไฟล์ .prn ไม่ว่าจากที่ใด ก็จะได้งานที่เหมือนกันไม่ผิดเพีย้ น แต่ปัญหาก็คือถ้าเปิดไฟล์ .prn ด้วย text

editor ก็จะออกมาเป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ ดังนัน้ การพิมพ์ไฟล์ .prn จึงต้องใช้โปรแกรมพิเศษ อย่าง MS

Office Document Imaging ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรม MS Office นั่นเอง

10. ลองเปลี่ยนมาใช้หมึกทางเลือกดูบ้าง

ถ้างานพิมพ์ของคุณไม่ได้เจาะจงว่าต้องสวยสด และสีต้องเที่ยงตรงเป๊ะๆ แล้วล่ะก็ ลองหัน

มาใช้หมึกทางเลือกอย่างพวก Refill หรือ Compatible ink ดู ก็เป็นตัวเลือกที่ประหยัดเงินในกระเป๋า

คุณได้มาก เพราะหมึกเติมคุณภาพดีๆ นัน้ อย่างไรก็มีราคาถูกกว่าหมึกแท้หลายเท่า เพียงแต่เพื่อ

ความปลอดภัยของเครื่องพิมพ์ เรามีข้อแนะนำสำหรับการใช้หมึกเติมดังนี ้

- ลองปรึกษาหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับการใชหมึกเติมเสียก่อน ก่อนที่จะพิจารณาเติมหมึกยี่ห้อใดๆ

เพื่อดูว่าคนนิยมใช้หมึกเติมยี่ห้อใดมากที่สุดและมีปัญหาน้อยที่สุด

- การเติมหมึกในแต่ละครั้ง ควรใช้ยี่ห้อเดียวกันไปจนกว่าจะเปลี่ยนตลับใหม่ เพราะเคมีของ

หมึกแต่ละยี่ห้อมักจะไม่เหมือนกัน การเติมหมึกคละยี่ห้อไปมา ในตลับเดิมๆ อาจทำให้เกิดปัญหากับ

หัวพิมพ์ได้

- ลองเลือกเติมหมึกกับบริษัทที่มีการรับประกันน่าเชื่อถือ เช่น รับประกันความเสียหายของ

เครื่องพิมพ์ หรืองานพิมพ์เพราะอย่างน้อยคุณก็ยังมีคนรับภาระให้ ถ้าเกิดไปเติมหมึกมาแล้วมี

ปัญหากับเครื่องตามมา

แนวคิดการเติมหมึก

การเติมหมึกนัน้ แม้จะไม่ง่ายเหมือนการเติมนำ้ มันเชือ้ เพลิง แต่ก็ไม่ยากจนเกินกว่าที่จะ

ทำความเข้าใจการเติมหมึก เป็นกิจกรรมที่ยังมีความสับสนกันอยู่มากในหมู่ผู้ใช้ปริ ้นเตอร์ โดย

วัตถุประสงค์หลักแล้ว ก็เพื่อความประหยัด แต่ได้คุณภาพของงานพิมพ์ที่ใกล้เคียงของแท้

ปัจจุบันปริ ้นเตอร์รุ่นเล็กสุดมีราคาใกล้เคียงกับการซือ้ ตลับใหม่ทัง้ ชุด

ดังนัน้ การเติมหมึกจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะหากเราเติมหมึกประสบความสำเร็จสัก

ครั้งสองครั้ง แล้วพรินเตอร์เสียต้องซือ้ ใหม่ ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เมื่อเทียบกับการซือ้ ตลับของแท้มาใช้ทุก

ครั้งที่หมึกหมด

หลักการกว้างๆ ในการเติมหมึก

ก็คล้ายกับการเติมนำ้ มันเชือ้ เพลิงให้กับครื่องยนต์ เราเติมนำ้ มันก่อนที่นำ้ มันจะหมด

เช่นกันการเติมหมึกก็ควรเติมก่อนที่หมึกจะหมด เราจะไม่จอดรถยนต์ทิง้ ไว้นานๆเป็นเดือน เพราะ

กลัวว่าจะสตาร์ทไม่ติด เราก็ไม่ควรทิง้ พรินเตอร์ไว้นานๆโดยไม่ใช้งาน เพราะหมึกจะแห้ง หัวพิมพ์จะ

อุดตัน แต่ข้อแตกต่างคือ การเติมหมึกอาจใช้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ซึ่งผู้เติมหมึกต้องศึกษาวิธีการมา

พอสมควร และต้องรู้จักแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึน้ ได้

ความหมาย

การเติมหมึกคือการนำตลับหมึกของแท้ หรือตลับหมึกเทียบเท่าที่ใช้จนหมึกหมดแล้ว มา

เติมนำ้ หมึกเพื่อให้ใช้ได้ต่อไป เพื่อความประหยัด

เติมได้กี่ครัง้

ไม่แน่นอน จนกว่าตลับจะเสีย หรือจนกว่างานพิมพ์จะมีคุณภาพต่ำจนรับไม่ได้ ทัง้ นีต้ ลับ

จะเสียเร็วหรือช้า ขึน้ กับอายุการใช้งานที่ออกแบบมา คุณภาพเฉพาะตัวของตลับนัน้ วิธีการเติม

วิธีการใช้งาน คุณภาพของนำ้ หมึกที่ใช้เติม ฯลฯ

ต้องเปิดใจให้กว้าง พยายามเข้าใจถึงสัจธรรมว่าตลับหมึกถูกออกแบบ และผลิตมาจาก

ผู้ผลิตพรินเตอร์ ให้ใช้งานตลับหมึกนัน้ ๆเพียงครั้งเดียว ดังนัน้ การที่ตลับหมึกเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น

วงจร(หน้าสัมผัส) หัวพิมพ์ หรือฟองนำ้ ภายใน ควรถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ บางคนใช้งานตลับ

หมึกมานานกว่า 1 ปี พอตลับเสียก็โวยวาย ขายขีห้ น้าเปล่าๆ สมัยนีมี้สิ่งใหม่ๆเข้ามาใน

ชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก ต้องพยายามทำความเข้าใจ โดยเฉพาะธรรมชาติของสิ่งนัน้

สรรพสิ่งในโลกมีเกิด มีความผันแปร และในที่สุดก็ดับสลาย เราไม่สามารถตอบได้ว่าคนเรา

จะมีอายุขัยสักกี่ปีฉันใด ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเติมหมึกได้สักกี่ครั้งฉันนัน้

เติมตอนไหน

เติมก่อนที่หมึกจะหมด หรืออย่างช้าทันทีที่หมึกหมด ยิ่งปล่อยให้หมึกหมดนานเท่าไร

โอกาสที่จะเติมได้สำเร็จก็ยิ่งน้อยลงคำถามที่พบบ่อยก็คือ จะรู้ได้อย่างไรว่าหมึกใกล้จะหมด

คำตอบก็คือพรินเตอร์บางรุ่นจะมีซอฟท์แวร์บอกระดับหมึกเวลาสั่งพิมพ์ ซึ่งเป็นเพียงการประมาณ

เท่านัน้ และซอฟท์แวร์มักจะเตือนช้ากว่าความเป็นจริง ดังนัน้ จึงควรเติมเมื่อระดับหมึกตาม

ซอฟท์แวร์เหลือประมาณ 30 % พรินเตอร์บางรุ่นพอเติมหมึกแล้ว ก็ยังเตือนหมึกเหลือน้อย ไม่ต้อง

ตกใจ ถ้ายังพิมพ์งานได้ เพราะซอฟท์แวร์มันถูกเขียนมาไม่ให้ยอมรับหมึกเติม แต่มันก็ยังใจดีให้ใช้

งานต่อไปได้

หมึกหมดนานแล้ว เติมได้หรือไม่

ควรให้ร้านเติมหมึกลองเติมดู และควรตกลงค่าบริการกันไว้ก่อนด้วยว่าถ้าใช้งานได้คิด

เท่าไร ถ้าใช้ไม่ได้คิดเท่าไร (โดยทั่วไปไม่คิด) เพราะทางร้านจะมีนำ้ ยา และเครื่องมือพิเศษ รวมทัง้

พรินเตอร์สำหรับทดสอบ ควรเลือกร้านที่มีอุปกรณ์พวกนีด้ ้วย ร้านที่มีเพียงขวดหมึกกับเข็มฉีดยา

มักแก้ปัญหาไม่ค่อยได้

การปล่อยให้หมึกหมดนานๆเป็นเรื่องไม่ควรอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีหมึกอยู่ก็ไม่ควรทิง้ ไว้นานๆ

โดยไม่ใช้งาน ตรงนีเ้ป็นสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดที่ทำให้การเติมหมึกล้มเหลว

เติมแล้วจะมีปัญหาต่อพรินเตอร์หรือไม่

มีแต่พอยอมรับได้

ที่ว่าจะมีปัญหาได้แก่

(1) พรินเตอร์ที่ยังมีประกันอยู่ จะหมดประกันทันที

(2) ฟองนำ้ ซับหมึกของพรินเตอร์บางยี่ห้อ จะเต็มเร็วกว่าการใช้หมึกแท้ (ฟองนำ้ ซับหมึกถ้าเต็มแล้ว

จะใช้งานต่อไปไม่ได้ ต้องเปลี่ยนฟองนำ้ และใช้ซอฟท์แวร์เคลียร์เคาน์เตอร์) สำหรับยี่ห้อ HP และ

LEXMARK จะไม่มีปัญหานี ้

(3) คุณภาพของงานพิมพ์ด้อยกว่าหมึกแท้ไม่มากก็น้อย

ที่ว่าพอยอมรับได้

เนื่องจากการเติมหมึกและการใช้งานที่ถูกต้อง มีผลเสียต่อพรินเตอร์น้อยมาก และการเติม

หมึกเป็นความประหยัด คุ้มที่จะเสี่ยง เพราะราคาพรินเตอร์ใหม่ถูกลงมาก ดังที่ยกตัวอย่างข้างต้น

ใช้หมึกเติมยี่ห้อไหนดี

หมึกเติมคือหมึกไม่แท้ หมึกเติมของแท้ไม่มี แต่หมึกเติมมีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลาย

คุณภาพ หลายราคา ตัง้ แต่ซีซี.ละ 1 บาท ไปจนถึงซีซี.ละ 10 บาท ควรหาข้อมูลให้ดี เพราะหมึก

“โนเนม” บางยี่ห้อตัง้ ราคาขายไว้สูง เพื่อสร้างความรู้สึกและกระแสว่าเป็นหมึกที่ดี

เท่าที่สังเกตพบจากการเติมหมึก หมึกถูกหรือหมึกแพงเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาทีหลัง

เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การเติมหมึกแล้วใช้งานได้ดีในระยะยาว ก็คือ การใช้งานบ่อยๆ

วิธีการใช้งานพรินเตอร์ INKJET

1. ใช้งานบ่อยๆ ถ้าเป็นหมึกแท้ ใช้ทุกระยะ 15-20 วัน แต่ถ้าเป็นหมึกเติม ใช้ทุกระยะ 3-5 วัน ให้

ทดสอบงานพิมพ์ทัง้ 4 สี คือ ดำ ฟ้ า แดง และ เหลือง ว่าออกครบหรือไม่ ถ้ามีปัญหาแม้แต่สีเดียว

ต้องรีบแก้ไข การแก้ไขแต่เนิ่นๆ จะง่ายกว่า

2. เติมหมึก หรือส่งร้านเติมหมึกก่อนที่หมึกจะหมด หรือเร็วที่สุดหลังจากหมึกหมด หากส่งร้าน

เติมหมึก ควรขนย้ายตลับหมึกด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ตกหล่นหรือกระทบกระเทือน ใส่

ถุงพลาสติกถุงละ 1 ตลับ การใส่รวมกันอาจทำให้กระทบกระแทกกันจนเกิดความเสียหายไม่ควรห่อ

ด้วยกระดาษทิชชู่ เพราะจะซับเอาหมึกออกมาหมด

3. เติมหมึกแล้วนำตลับหมึกเข้าเครื่องพรินเตอร์ให้เร็วที่สุด และลองใช้งานทันที เพราะหากเห็น

ว่าเกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้ทัน ร้านเติมหมึกบางร้านมีการรับประกันคืนเงินกรณีใช้งานไม่ได้ (ภายใน

กำหนดกี่วันแล้วแต่จะตกลงกัน)

4. ตลับหมึกควรอยู่ในเครื่องพรินเตอร์ ไม่แนะนำให้มีตลับสำรอง เพราะการมีตลับสำรองอาจทำ

ให้ตลับที่ไม่อยู่ในเครื่องเกิดอุดตันได้ ควรตรวจสภาพความพร้อมใช้งานด้วยการพิมพ์ทดสอบ และ

ตรวจระดับหมึกบ่อยๆ จะดีกว่า

ทิปพิมพ์งานจากยูทิลิตีเ้ล็กๆ แต่เก่งเกินตัว

การหาโปรแรม ให้เข้า www.google.com แล้ว Search คำว่า Download (ชื่อโปรแกรม)

ตัวอย่างเช่น download Inksaver 2.0 เป็นต้น

1. Inksaver 2.0 หมึกเท่าเดิม แต่พิมพ์เพิ่มได้เป็นร้อยหน้า

โปรแกรม Inksaver คือโปรแกรมที่ช่วยให้คุณประหยัดหมึกได้อย่างเห็นผล ขอแนะนำให้ใช้

โปรแกรมนี ้ควบคู่ไปกับงานพิมพ์เอกสาร เพราะคุณสามารถใช้โปรแกรมนีไ้ ปปรับแต่งความเข้มหรือ

อ่อนของตัวหนังสือได้ อย่างยืดหยุ่นมากกว่าการปรับจากโปรไฟล์ของเครื่องพิมพ์เองด้วยซำ้ และทุก

ครั้งที่ปรับเปอร์เซน์ความเข้มของงานพิมพ์ ตัวโปรแกรมจะคำนวณให้คุณได้เห็นจะๆ ในทันทีว่า คุณ

จะประหยัดหมึกไปได้กี่เปอร์เซนต์ และประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับหมึกแต่ละตลับไปได้อีกกี่บาท

ตัวโปรแกรมพัฒนาอยู่ตลอด ล่าสุดถึงเวอร์ชัน 2.0 แล้วซึ่งเจ้าตัวโปรแกรมนีก้ ็รู้จักเครื่องพิมพ์

อิงก์เจ็ตในตลาดเกือบทุกรุ่น เลยทีเดียว

2. iCabon จับพรินเตอร์กับสแกนเนอร์ มาทำเป็นเครื่องถ่ายเอกสารเสียเลย

โปรแกรมขนาดจิ๋วที่จะทำให้ printer + scanner = copier ดังนัน้ คุณจึงจำเป็นต้องมีทัง้

สแกนเนอร์ และพรินเตอร์ที่ติดตัง้ พร้อมใช้งานแล้วอย่างละ 1 ตัว เป็นอย่างน้อย วิธีใช้ก็แสนง่ายเมื่อ

คุณลงโปรแกรมเสร็จแล้ว โปรแกรมจะตัง้ ค่าสแกนเนอร์และพรินเตอร์ให้เอง งานของคุณก็แค่ตัง้ ค่า

ต่างๆ ได้แก่ จำนวนสำเนาที่ต้องการ (Number of copies) ขนาดย่อ- ขยาย (Zoom) ค่าความเข้ม

ของสำเนา ( contrast) และรูปแบบการสำเนาสีหรือขาวดำ (Type of copy) ส่วนตัวเลือก Quality ใน

เวอร์ชันทดลองนียั้งปรับค่าไม่ได้ เมื่อตัง้ ค่าต่างๆ แล้ว กดปุ่มขนาดใหญ่ ด้านซ้ายเป็นอันเสร็จครับ

โปรแกรมนีมี้ขนาดเล็กใช้งานง่ายเหมาะสำหรับการสร้างเครื่องถ่ายเอกสารใช้เอง คุณภาพที่ออกมาก็

ใกล้เคียงกับร้านถ่ายเอกสารทีเดียว เหมาะสำหรับใครที่มีทัง้ พรินเตอร์และสแกนเนอร์อยู่แล้ว จะได้

เอามาใช้ร่วมกันให้คุ้มค่ามากขึน้ นะครับ

3. Ink Monitor จับตาดูหมึกให้ดี

เป็นโปรแกรมที่จะวัดปริมาณหมึกที่เหลืออยู่ และยังสามารถเรียกดูรายการพิมพ์ต่างๆได้ เมื่อ

คุณติดตัง้ เสร็จ โปรแกรมจะปรากฏเป็นไอคอนอยู่ที่ system tray บริเวณเดียวกับนาฬิกาของ

windows คุณจะต้องตัง้ ค่า 2 อย่าง ได้แก่รุ่นของเครื่องพิมพ์ ( printer ) และรุ่นของตลับหมึก (

Cartridge) ทำได้โดยคลิก้ ขวาที่ไอคอน Ink Monitor แล้วเลือก Program Options…จากนัน้ ก็ตัง้ ค่า

รุ่นเครื่องพิมพ์และตลับหมึก แล้วคุณก็ลืมมันไปได้เลย เพราะโปรแกรมจะรันเองโดยอัตโนมัติ และจะ

แสดงปริมาณหมึกทุกครั้งที่มีการสั่งพิมพ์ นอกจากนียั้งสามารถเรียกดูรายการพิมพ์ต่างๆ ที่เคยสั่ง

พิมพ์ได้อีกด้วย โดยคลิก้ ขวาที่ไอคอน Ink Monitor แล้วเลือก Printer Details…

การคำนวณปริมาณหมึกที่ใช้ไปของโปรแกรมนีค้ ่อนข้างแม่นยำเพราะโปรแกรมสามารถ ระบุ

ได้ถึงรุ่นเครื่องพิมพ์และรุ่นของตลับหมึกนอกจากนีไ้ ม่ว่าคุณตัง้ ค่าการ พิมพ์ไว้อย่างไรตัวโปรแกรมก็

จะนำค่าเหล่านัน้ มาใช้คำนวณด้วย ดังนัน้ เมื่อคุณเปลี่ยนตลับหมึกใหม่คุณควรเข้าไปตัง้ ค่าตลับหมึก

ใน Ink Monitor ใหม่ทุกครั้ง

4. Photo Paper Saver พิมพ์ภาพสวยๆ แบบคุ้มสุดๆ

ถ้าคุณลงทุนซือ้ กระดาษคุณภาพสูงมาเพื่อใช้พิมพ์ภาพถ่าย คุณคงอยากจะใช้ทุกๆ

ตารางนิว้ ของกระดาษให้คุ้มค่า โปรแกรมนีช้ ่วยให้คุณสามารถจัดรูปถ่ายของคุณลงให้เต็มพืน้ ที่

หน้ากระดาษได้ อย่างง่ายดาย

เริ่มต้นเปิดโปรแกรมขึน้ มาคุณก็จัดการเลือกว่าคุณจะพิมพ์ภาพใดบ้าง การใช้งานก็ง่ายๆ

เพราะหน้าตาเหมือนกับ Explorer ของวินโดวส์ เลือกเสร็จแล้วพอถึงหน้าต่าง Select Prints Sizes

and Options ให้คุณกด Finish ได้เลยเพื่อเข้าสู่หน้าจอการทำงาน

ด้านล่างของรูปด้านซ้ายจะแสดงภาพต่างๆ ที่คุณเลือกในรูปแบบ thumbnails ส่วนรูปที่

แสดงอยู่คือรูปที่คุณเลือกรูปทางด้านขวามือเป็นรูปที่ขยายออกมา ในส่วนนีมี้ไว้เพื่อตัง้ ขนาดของรูป

และจำนวนที่จะพิมพ์ คุณเลือกขนาดได้ตามใจชอบแต่ถ้าขนาดที่มีอยู่คุณไม่พอใจสามารถเข้าไปตัง้

ค่า ใหม่ได้ที่ Print Sizes->Manage Print Sizes ส่วนจำนวน copies ก็ตามต้องการเลยครับ การใช้

โปรแกรมนี ้ตัวโปรแกรมจะพิมพ์ภาพขนาดเท่าต้นฉบับ 1 ภาพเสมอ สมมติเลือกขนาดเป็น 2.50 คูณ

3.50 และcopies เป็น2 แผ่น สิ่งที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์คือรูปขนาดเท่าต้นฉบับ1 ภาพ และขนาดที่เรา

เลือก 3 ภาพ อยู่บนกระดาษแผ่นเดียวกัน (ถ้าพืน้ ที่พอ) แต่คุณสามารถเรียกดู print preview ได้จาก

เมนู File ครับ

5. Print Punk พิมพ์เว็บเพจอย่างฉลาด

เป็นโปรแกรมที่จะเพิ่มทูลบาร์เข้าไปที่หน้าต่างของ IE ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการพิมพ์

หน้าเว็บเพจให้เก่งขึน้ ใครที่เคยสั่งพิมพ์ หน้าเว็บเพจบ่อยๆ น่าจะซึง้ ถึงความยากลำบากเป็นอย่างดี

เพราะไม่ว่าคุณจะสั่งพิมพ์แบบไหน หน้าเว็บเพจก็ไม่เคยแสดงผลได้ถูกต้องบนกระดาษที่พิมพ์

ออกมาเลยสักครั้ง แต่เมื่อใช้ Print Punk แล้ว คุณสามารถพิมพ์เว็บเพจทัง้ หน้าลงบนกระดาษแผ่น

เดียวได้ง่าย โดยที่ไม่มีอะไรขาดหายไปอีกด้วย

สั่งพิมพ์โดยการกดปุ่ม Print ปุ่ม Images กดเพื่อซ่อน/ แสดงรูปภาพบนหน้าเวบเพจนัน้ (ถ้า

เพื่อว่าคุณต้องการอ่านและพิมพ์เฉพาะข้อความ) ปุ่ม Shrink/Zoom ไว้เพื่อย่อขยายเว็บเพจถ้า

ตัวหนังสือเล็กหรือใหญ่เกินไป ส่วนปุ่ม Fit/Auto Fit ให้เพื่อปรับขนาดหน้าเวบให้พอดีกับหน้าจอ

6. ine Print ปรับแต่งงานพิมพ์ได้อย่างใจ

โปรแกรมนีค้ วรมีติดเครื่องไว้เลยครับ เพราะด้วย Fine Print คุณสามารถพิมพ์เอกสารออกมา

ได้หลากหลายรูปแบบ และปรับแต่งได้มากกว่าที่ไดรเวอร์เครื่องพิมพ์จะทำได้ เช่น การพิมพ์ 16 หน้า

ลงในกระดาษ A4 เพียงแผ่นเดียว หรือการพิมพ์เพื่อทำเป็นหนังสือทำมือ การย่อ ขยาย การทำ

จดหมายข่าว หรือการใส่ลายนำ้ ให้กับเอกสาร เป็นต้น โปรแกรมนีเ้หมาะมากถ้าใช้พิมพ์เอกสารที่มี

หลายหน้า เพราะจะประหยัดกระดาษไปอีกเยอะเลยทีเดียว

วิธีการใช้งาน Fine Print นัน้ ง่ายมาก เพราะหลังจากติดตัง้ Fine Print แล้วคุณจะได้

เครื่องพิมพ์เพิ่มมาใหม่อีก 1 เครื่อง นั่นคือ Fine Print เวลาสั่งพิมพ์งาน คุณเลือกไปพิมพ์ออกที่ Fine

Print แทนเครื่องพิมพ์ปกติ จากนัน้ โปรแกรมจะ pop up หน้าต่างปรับแต่งของ Fine Print ขึน้ มา

หลังจากปรับจนพอในแล้วก็ค่อยสั่งพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ปกติอีกทีครับ

7. Print Ghost พิมพ์เป็นภาพดีกว่า

โปรแกรมนีส้ ามารถที่จะแปลงงานพิมพ์ของคุณให้เป็นภาพ ในฟอร์แมต TIFF,JPG หรือ BMP

ได้ ไม่ว่างานพิมพ์นัน้ คุณจะสร้างจากโปรแกรม Word , Excel, Power Point หรือเอกสารแบบไหนก็

ตาม ซึ่งสะดวกมาก เวลาที่คุณต้องส่งฟอร์มหรือเอกสารไปให้คนอื่นๆ เพราะแทนที่คุณจะต้องพิมพ์

มันออกมา แล้วส่งแฟกซ์ หรือเอามาสแกนอีกครั้งให้เสียเวลา คุณก็สั่งพิมพ์หน้าเอกสารออกทาง

Print Ghost แล้วส่งมันไปเป็นภาพเลย ถามว่า ทำไมไม่ส่งเอกสารที่เป็น .doc ออกไปเลยล่ะ ?

เหตุผลก็เพราะ บางทีคนอื่นๆ อาจไม่ได้ใช้โปรแกรมออฟฟิศเวอร์ชันเดียวกัน หรือมีฟอนต์ที่ไม่ตรงกัน

นั่นเอง ดังนัน้ การส่งออกไปเป็นภาพ จึงรับประกันได้ว่าเมื่อคนเอาไปเปิดหรือพิมพ์ต่อแล้ว การ

แสดงผลจะไม่ผิดเพีย้ นจากที่เราทำไปอย่างแน่นอน

8. Print Tuner พิมพ์ยังไงก็ถูกใจ

โปรแกรมนีจ้ ะจำลองตนเองเป็นเครื่องพิมพ์หลอกๆ หนึ่งเครื่อง เมื่อคุณสั่งพิมพ์งานออกที่

Print Tuner ตัวนี ้จะมีหน้าต่างหแสดงขึน้ มาให้คุณปรับแต่งงานพิมพ์ได้อย่างยืดหยุ่นได้อีกมาก เช่น

ปรับขอบหน้ากระดาษ ย่อหรือขยายขนาดงานพิมพ์ สั่งพิมพ์หรือไม่พิมพ์หน้าใดๆ หรือให้พิมพ์

ออกมาเป็นรูปภาพ ได้ถึง 24 ฟอร์แมต ความละเอียดของงานพิมพ์ หรือจะพิมพ์แบบประหยัดหมึก

ด้วยการ สั่งงานพิมพ์ให้มีตัวหนังสือสีดำให้หมด และสั่งไม่ให้พิมพ์เฉพาะภาพกราฟิก ก็ยังได้อีกด้วย

9. SSC Service Utility ประหยัดสุดๆ สำหรับคนใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจตของเอปสัน

ใครใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจตของเอปสันคงทราบกันดีว่า ตลับหมึกเอปสันนัน้ ทุกครั้งที่พิมพ์จะมี

การนับจำนวนหยดหมึกตลอดเวลา เมื่อนับถึงจำนวนหมึกที่กำหนด (หรือปริมาณหมึกเกือบจะหมด)

เครื่องพิมพ์จะล็อกไม่ให้ตลับหมึกนัน้ ใช้งานได้ต่อไป ทัง้ นีก้ ็เพื่อป้ องกันไม่ให้ใครนำเอาตลับหมึกเก่า

ไปเติมหมึกมาใช้ใหม่นั่น เอง แต่ด้วยโปรแกรมนี ้คุณสามารถจะรีเซตเคาเตอร์ของตลับหมึกของเอป

สันให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม

10. A+ Printer Monitor ใครพิมพ์มากสุด

โปรแกรมตัวนี ้แนะนำให้ใช้ในออฟฟิศที่แชร์เครื่องพิมพ์ไว้พิมพ์ร่วมกันเลยครับ เพราะ

โปรแกรมนีส้ ามารถบันทึกการทำงานของเครื่องพิมพ์ทุกอย่าง ตัง้ แต่ ใครเป็นคนสั่งพิมพ์สั่งเมื่อไร

พิมพ์กี่หน้า พิมพ์จากโปรแกรมอะไร ฯลฯ เป็นต้น โปรแกรมนีอ้ าจไม่ได้ช่วยให้คุณประหยัดหมึกหรือ

กระดาษได้ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่า ใครใช้หมึกกับกระดาษเปลืองทีสุดกันแน่