มาตรฐาน JIS ท่อ Pipe และ Tube
JIS กำหนดมาตรฐาน ขนาด – มิติ วัสดุ กรรมวิธีการผลิต และวิธีการทดสอบวัสดุ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งท่อก็เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ JIS กำหนดมาตรฐานไว้หลากหลายมาตรฐาน เพื่อให้ใช้งานได้เหมาะสมกับสภาวะของไหล สภาวะสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิ และความดันใช้งาน
มาตรฐานท่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าผสม
ท่อเหล็กกล้าคาร์บอนและท่อเหล็กกล้าผสมที่ผลิตตามมาตรฐาน JIS ทั้งผลิตภัณฑ์ Tube และผลิตภัณฑ์ pipe ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมมีดังนี้
JIS
G 3452 Carbon steel pipes for ordinary piping SGP
G 3454 Carbon steel pipes for pressure service STPG
G 3455 Carbon steel pipes for high pressure service STS
G 3456 Carbon steel pipes for high temperature service STPT
G 3457 Arc welded carbon steel pipes. STPY
G 3458 Alloy steel pipes STPA
G 3460 Steel pipes for low temperature service STPL
G 3461 Carbon steel boiler and heat exchanger tubes. STB
G 3462 Alloy steel boiler and heat exchanger tubes. STBA
G 3466 Carbon Steel Rectangular Pipe for General Structural Purposes
ท่อเหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าผสม JIS
Carbon Steel – Alloy Steel, pipe and Tube
ตารางสรุปข้อกำหนดของมาตรฐาน
หมายเลข
JIS
ชนิดผลิตภัณฑ์
Pipe
Pipe
Pipe
Pipe
Pipe
Pipe
Pipe
Tube
Tube
วัสดุ
วิธีการผลิต
การใช้งาน
General
G 3452
G 3454
G 3455
G 3456
G 3457
G3458
G 3460
G 3461
G3462
Carbon steel
Black or galv.
Welded – ERW
Welded – BW
Carbon steel
Carbon steel
Carbon steel
Carbon steel
Alloy steel
Carbon steel
Carbon steel
Alloy steel
Seamless
Welded – ERW
Pressure
Service
Seamless
High pressure
High temperature
Low pressure
High temperature
Seamless
Welded – ERW
Welded – ERW
Spiral or straight seam
Seamless
Seamless
Welded – ERW
Seamless
Welded – ERW
Seamless
Welded – ERW
Freezing point
Or lower temp
Boiler
Heat exchanger
Boiler
Heat exchanger
หมายเหตุ
ERW คือ Electric Resistance Welded
BW คือ Butt Welded
EFW คือ Electric Fusion Weld
มาตรฐาน BW Pipe Fittings
JIS กำหนดมาตรฐาน ขนาด – มิติ วัสดุ กรรมวิธีการผลิต และวิธีการทดสอบ BW Pipe Fittings ไว้หลายมาตรฐาน เพื่อให้เลือกใช้งานได้เหมาะสมกับลักษณะงาน สภาวะของไหล สภาวะสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิ และความดันใช้งาน
มาตรฐาน BW Pipe Fittings เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าผสม และเหล็กกล้าไร้สนิม
BW Pipe fittings เหล็กกล้าคาร์บอน เหล็กกล้าผสม และเหล็กกล้าไร้สนิม หรือสแตนเลส ผสมตามมาตรฐาน JIS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรม มีดังนี้
JIS
B 2311 Steel butt – welding pipe fittings for ordinary use
B 2312 Steel butt –welding pipe fittings
B2313 Steel plate butt – welding pipe fittings.
กล่าวโดยรวมมาตรฐานท่อของ JIS คือมาตรฐานท่อที่กำหนดโดยสถาบัน JIS ซึ่งสเปคต่างๆ รหัสต่างๆ ก็จะถูกกำหนดกันไปตามแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็นท่อเหล็กมีตะเข็บ ท่อเหล็กไร้ตะเข็บ เหล็กกล่อง ท่อสแตนเลสมีตะเข็บ ท่อสแตนเลสไม่มีตะเข็บ ซึ่งหากท่านจำเป็นต้องใช้เหล็กหรือสแตนเลส ท่านสามารถดูที่ข้างตัวท่อ หรือตัวกล่องได้ ว่ามีเขียนว่าเป็น JIS รหัสอะไร เพื่อท่านจะได้ทราบว่าเหล็กที่ท่านกำลังใช้อยู่ สเปคตรงกับที่ท่านต้องการหรือไม่ เพื่อความสบายใจว่าหากท่านสั่งเหล็กไร้ตะเข็บ ท่านก็จะได้เหล็กไร้ตะเข็บ
ที่มา: บริษัท พี แอนด์ พี สตีล (ไทยแลนด์) จำกัด. 28/5/2017
2. ตารางเทียบเกรดเหล็กตามมาตรฐาน (DIN, JIS, AISI)
COLD WORK TOOL STEETS (เหล็กกล้าสำหรับงานเย็น)
ลักษณะเด่น ความแข็งสูงมากเมื่อผ่านการชุบแข็ง ทนต่อการเสียดสีดีมาก ทนต่อแรงกดอัดได้ดีเยี่ยม และมีความเหนียวแกร่งพอสมควร
การใช้งาน แม่พิมพ์ปั๊มตัด (Blanking & Piercing)
แม่พิมพ์ดัดโลหะ (Bending)
แม่พิมพ์อัดเส้นเย็น (Cold Extrusion)
แม่พิมพ์ปั๊มเหรียญ (Coining)
แม่พิมพ์ ลากขึ้นรูป (Drawing)
มีดตัดโลหะและพลาสติก (Shearing)
แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกปริมาณการผลิตมาก
รวมทั้ง พันซ์ เข็มกระทุ้ง และดอกสว่านเจาะไม้และพลาสติก
เกรดที่มีจำหน่าย (ของบริษัทฯ ที่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูล)
K110 2379
ส่วนผสมทางเคมี
วิธีชุบ ชุบแข็ง (น้ำมัน/ลมเป่า/เกลือ)
ความแข็ง (Hardness) 58 - 65
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
HOT WORK TOOL STEETS (เหล็กกล้าสำหรับงานร้อน)
ลักษณะเด่น คงความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูงดี ทนต่อการสึกหรอที่อุณหภูมิสูง ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภมิอย่างฉับพลัน ทนต่อการล้าร้อน ต้านทานต่อการเกิดออกไซด์ที่อุณหภูมิสูง ความเหนียวแกร่งสูงมาก ชุบแข็งไม่เสียรูป ตัดกลึงง่าย
การใช้งาน แม่พิมพ์ฉีดโลหะ (Die Casting)
แม่พิมพ์อัดเส้นร้อน (Hot Extrusion)
แม่พิมพ์ทุบโลหะร้อน (Hot Forging)
ลูกรีดโลหะร้อน (Hot Roller)
มีดตัดโลหะร้อน (Hot Shear Blade)
เกรดที่มีจำหน่าย
W302 2344 (ของบริษัทฯ ที่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูล)
ส่วนผสมทางเคมี
วิธีชุบ ชุบแข็ง (น้ำมัน/ลมเป่า/เกลือ)
ความแข็ง (Hardness) 50 - 56
----------------------------------------------------------------- PLASTIC STEELS (เหล็กกล้าสำหรับแม่พิมพ์พลาสติก)
ลักษณะเด่น ทนต่อการเสียดสีดี ทนต่อแรงกดอัดดี ตัดกลึงง่าย และขัดเงาได้ดีเยียม กัดทำลวดลาย และอีดีเอ็มได้ดี ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีพอสมควร
การใช้งาน แม่พิมพ์ฉีดพลาสติกและอินเสริตในแม่พิมพ์พลาสติก
แม่พิมพ์เป่า(Blow Moulds)หล่อหรือการขึ้นรูปพลาสติกและยางชนิดอื่น
แม่พิมพ์ฉีดโลหะปริมาณการผลิตน้อย
พันซ์และไดย์โฮลเดอร์
เกรดที่มีจำหน่าย M300 M238 M202 2316 2738 2311
(ของบริษัทฯ ที่เป็นแหล่งที่มาของข้อมูล)
ส่วนผสมทางเคมี
วิธีชุบ ชุบแข็ง (น้ำมัน/ลมเป่า)
ความแข็ง (Hardness) 42 - 49(ชุบแข็งและคืนไฟ)
--------------------------------------------------------------------
MACHINERY STEELS (เหล็กกล้าสำหรับงานจักรกล)
ลักษณะเด่น มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการล้าได้ดีมาก ทนต่อแรงบิดกระจาย มีความเหนียวแกร่งดี ตัดกลึงง่าย
การใช้งาน ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เช่น เพลา(Shafts)
เฟือง(Gears)
สลัก(PIN)
คับปลิ้ง(Coupling)
ตลับลูกปืน(Bearing)
ส่วนประกอบของแม่พิมพ์พลาสติก แม่พิมพ์งานเย็นและแม่พิมพ์งานร้อน
เช่น ไกด์พิน ไกด์บูช เข็มกระทุ้ง โมลด์เบส ไดย์เซต ปลอกสูบ
กระบอกไฮโดรลิกส์ รวมทั้งกระบอกและสกูรฉีดพลาสติก
เกรดที่มีจำหน่าย R100 V320 SCM440 S50C 5919 6582
ส่วนผสมทางเคมี
วิธีชุบ ชุบแข็ง (น้ำมัน/น้ำ)
ความแข็ง (Hardness) 42 - 57
ที่มา: http://www.tandcmetal.com/pre1.htm. 28/5/2017
********************************************************************
3.ISO-JIS-DIN-BS(BSI)ASTM-ASME-AISI-USCTI-SAE คืออะไร?
ISO ย่อมาจาก International Standardization Organization
มาตรฐานสากล เป็นมาตรฐานกลางที่ใช้อ้างอิงทั่วโลก หน่วยนับเป็นเมตริก
JIS ย่อมาจาก Japanese Industrial Standard มาตรฐานของญี่ปุ่น หน่วยนับเป็นเมตริก
DIN ย่อมาจาก Deutsches Institut Fur Normung มาตรฐานของเยอรมนี หน่วยนับเป็น
เมตริก
TIS ย่อมาจาก Thai Industrial Standard (ม.อ.ก.)มาตรฐานของไทย หน่วยนับเป็น
เมตริก
BS/BSI ย่อมาจาก British Standard / British Standard Institute มาตรฐาน
ของอังกฤษ หน่วยนับเป็นนิ้วและเมตริก
------------------------------------------------------------------
ASTM ย่อมาจาก American Society for Testing and Material สมาคมเพื่อการทด
สอบและวัสดุแห่งอเมริกา
ASME ย่อมาจาก American Society for Mechanical Engineering สมาคมวิศวกรรม
เครื่องกลแห่งอเมริกา
AISI ย่อมาจาก American Iron and Steel Institute สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่ง
อเมริกา
USCTI ย่อมาจาก United States Cutting Tools Institute สถาบันเครื่องมือตัดสหรัฐ
(4 รายการหลังเป็นมาตรฐานอเมริกา หน่วยนับหลัก เป็นนิ้ว)
SAE ย่อมาจาก Society for Automotive Engineers สมาคมวิศวกรยานยนต์ ผู้กำหนดมาตรฐานยานยนต์ของอเมริกา หน่วยนับเป็นนิ้วและเริ่มใช้เมตริกบ้าง
เพิ่มเติม
ANSI ย่อมาจาก American National Standards Institute สถาบันมาตรฐานแห่ง
ชาติอเมริกา
AGMA ย่อมาจาก American Gear Manufacturers Association สมาคมผู้ผลิต
เฟืองเกียรแห่งอเมริกา
NEMA ย่อมาจาก National Electrical Manufacturers Association สมาคมผู้ผลิต
อุปกรณไฟฟ้าแห่งชาติ(อเมริกา) ผู้กำหนดมาตรฐาน เช่น มาตรฐานปลั๊กไฟ ฯลฯ
AWS ย่อมาจาก American Welding Society สมาคมงานเชื่อมแห่งอเมริกา
SME ย่อมาจาก Society of Manufacturing Engineers สมาคมวิศวกรการ
ผลิต(อเมริกา)เป็นแหล่งผลิตหนังสือวิชาการที่ดีจำนวนมาก
ASTE ย่อมาจาก American Society of Test Engineers สมาคมวิศวกรการทดสอบแห่ง
อเมริกา
ASNT ย่อมาจาก American Society for Nondestructive Testing สมาคมเพื่อการ
ทดสอบแบบไม่ทําลาย(ชิ้นงาน)แห่งอเมริกา
ASQ ย่อมาจาก American Society for Quality สมาคมเพื่อคุณภาพแห่งอเมริกา
ASQC ย่อมาจาก American Society for Quality Control สมาคมเพื่อการควบคุม
คุณภาพแห่งอเมริกา
NBS ย่อมาจาก National Bureau of Standards สํานักงานมาตรฐานแห่งชาติ(อเมริกา)
NIST ย่อมาจาก National Instutute of Standards and Technology สถาบัน
มาตรฐานและและเทคโนโลยีแห่งชาติ(อเมริกา)
NMIs ย่อมาจาก National Metrology Institutes สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ(อเมริกา)
NSPE ย่อมาจาก National Society of Professional Engineers สมาคมวิศวกร
อาชีพแห่งชาติ(อเมริกา)
IEC ย่อมาจาก International Electrotechnical Commission คณะกรรมการอิเลค
โทรเทคโนโลยีระหว่างประเทศ เป็นหน่วยงานสําคัญที่จัดทํามาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วย
อุปกรณ์ไฟฟ้า, อิเลคโทรนิคส์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีชื่อเรียกรวมๆว่า"
Electrotechnology "
ISO/IEC เป็นชื่อย่อของ 2 หน่วยงานที่กล่าวมาแล้วซึ่งได้ร่วมกันเพื่อกําหนดและให้ข้มูลเรื่อง
Standardization, Standards และเรื่องที่เกี่ยวข้อง ที่รู้จักกันกว้างขวางใน
วงการเครื่องมือวัดคือ ISO/IEC 17025 ซึ่งกําหนดแนวปฎิบัติของห้องทดสอบเครื่องมือ
วัด
ISA ย่อมาจาก International Federation of Standardization
Association สมาคมสมาพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยการเสริมสร้างระบบมาตรฐาน
NCSL ย่อมาจาก National Conference of Standards and Technology การ
ประชมแห่งชาตว่าด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยี
BIPM คํานี้ไม่ไดย่อมาจากภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอังกฤษคือ
International Bureau of Weights and Measures สํานักงานระหว่าง
ประเทศว่าด้วยน้ำหนักและการวัด
CIPM คํานี้ไม่ไดย่อมาจากภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอังกฤษคือ
International Committee for Weights and Measures คณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยนํ้าหนักและการวัด
CGPM คํานี้ไม่ได้ย่อมาจากภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอังกฤษคือ
General Conference on Weights and Measures การประชุมทั่วไปว่า
ด้วยนํ้าหนักและการวัด
JAMA ย่อมาจาก Japan Automobile Manufactuers Association สมาคมผู้
ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น
JUSE ย่อมาจาก Union of Japanese Scientists and Engineers สหภาพนัก
วิทยาศาสตร์และวิศวกรญี่ปุ่น
PTB ย่อมาจาก PhysikalischTechnisch Bundesanstalt หน่วยงานเกี่ยวกับ
วิศวกรรมของเยอรมนี
UKAS ย่อมาจาก United Kingdom Accreditation Service หน่วยงานให้
บริการรับรองมาตรฐานของสหราชอาณาจักร(อังกฤษ)
DKD ย่อมาจาก Deutscher Kalibrierdienst (German Calibration Service) หน่วยงานให้บริการรับรองมาตรฐานของเยอรมนี
RvA ย่อมาจาก Raad voor Accreditatie (Dutch Council of
Accreditation) หน่วยงานให้บริการรับรองมาตรฐานของเนเธอร์แลนด์
COFRAC ย่อมาจาก Comité Francais d´Accreditation หน่วยงานให้บริการรับรอง
มาตรฐานของฝรั่งเศส
SIT ย่อมาจาก Servizio di Taratura in Italia หน่วยงานให้บริการรับรอง
มาตรฐานของอิตาลี
SWEDAC ย่อมาจาก The Swedish Board for Accreditation and
Conformity Assessment หน่วยงานให้บริการรับรองมาตรฐานของสวีเดน
ENAC ย่อมาจาก Entidad Nacional de Acreditatión หน่วยงานให้บริการรับรอง
มาตรฐานของสเปน
DANAK ย่อมาจาก Danish Agency for Trade and Industry หน่วยงานให้บริการ
รับรองมาตรฐานของเดนมาร์ก
BKOOBE ย่อมาจาก Belgisch Kalibratie Organisatie Organisation
Belge d´etalonnage หน่วยงานให้บริการรับรองมาตรฐานของเบลเยี่ยม
NA ย่อมาจาก Norwegian Accreditation หน่วยงานให้บริการรับรองมาตรฐานของ
นอรเวย์
*********************************************************************
4. มาตรฐานอุตสาหกรรมสากล
มาตรฐานอุตสาหกรรมสากล (International Standard Industrial Classification of All Economic Activities : ISIC) ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations)
เครื่องหมาย CE ย่อมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า “Conformite Europeene ซึ่งมีความหมายเดียวกับคำใน ภาษาอังกฤษคือ “European Conformity” เดิมทีใช้เครื่องหมาย EC แต่ภายหลังได้เปลี่ยนมาเป็นเครื่องหมาย CE อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2536
เครื่องหมาย CE ที่ปรากฏอยู่บนสินค้าเป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิต (Manufacturer’s Declaration) ว่าสินค้านั้น มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป การมีเครื่องหมาย CE กำกับบนสินค้าจะทำให้สินค้านั้นสามารถวางจำหน่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรีในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือ European Economic Area (EEA) ซึ่งประกอบด้วยสหภาพยุโรป หรือ European Community (EU) และ สมาคมการค้าเสรียุโรป หรือ European Free Trade Association (EFTA) ยกเว้นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสมาชิกแต่ละประเทศจะดำเนินการออกกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรป หรือ EC Directives ที่กี่ยวข้องกับการใช้เครื่องหมาย CE
ISO คือองค์การระหว่างประเทศ ว่าด้วยการมาตรฐาน (International Standards Organization) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๔๙๐ (๑๙๔๗) โดยมีสำนักงานใหญ่ ISO ตั้งอยู่ที่ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ วัตถุประสงค์ขององค์การ ISO ก็เพื่อส่งเสริมการกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ และขจัดข้อโต้แย้ง รวมถึงการกีดกัน ทางการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ ในด้านวิชาการวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีกล่าวง่าย ๆ ได้ว่า บริษัท หรือองค์กรใดได้รับ ISO ก็หมายความว่า สินค้าหรือบริการขององค์กรนั้น เข้าขั้นมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ISO 9000 คือการจัดระบบการบริหารเพื่อประกันคุณภาพ ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยผ่านระบบเอกสาร
ISO 9001 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลทั้งการออกแบบ และพัฒนาการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
ISO 9002 มาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเฉพาะการผลิต การติดตั้ง และการบริการ
ISO 9003 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องการตรวจ และการทดสอบขั้นสุดท้าย
ISO 9004 เป็นแนวทางในการบริหารงานคุณภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเป็นข้อแนะนำ ในการจัดการในระบบคุณภาพ ซึ่งจะมีการกำหนดย่อย ในแต่ละประเภทธุรกิจ
ISO 14000 เป็นระบบมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นให้องค์กรมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง
ISO 18000 มาตรฐานระบบการจัดการ อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ISO/TS 16949 มาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์
UL certificate ของ Underwriters Laboratories Inc ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ให้การรับรองเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
มาตรฐานอุตสาหกรรม
- British Standard (BS) คือมาตรฐานของประเทศอังกฤษ
- German Industrial Standard (DIN) คือมาตรฐานของประเทศเยอรมัน
- Japanese Industrial Standard (JIS) คือมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
- American National Standard Institute (ANSI) คือมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา
- Thailand Industrial Standard (TIS) คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของประเทศไทย
- Verband Deutscher Elektrotechniker (VDE) คือมาตรฐานของกลุ่มวิศวกรไฟฟ้าในประเทศเยอรมนี
- Keuring van Elektrotechnische Materialen (KEMA) คือมาตรฐานการทดสอบของประเทศเนเธอร์แลนด์
- International Electrotechnical Commission (IEC) คือมาตรฐานขององค์กรระหว่างประเทศที่จัดทำมาตรฐานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
- African Regional Standards Organization (ARSO ) องค์การมาตรฐานแห่งภูมิภาคแอฟริกา
RoHS (The Restriction of The Use of Certain Hazardous Substance In Electrical and Electronic Equipment) ระเบียบของสหภาพยุโรปหรือ EU (The European Union) ว่าด้วย “การห้ามใช้สารอันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์”
WEEE (Waste from Electrical and Electronic Equipment) ว่าด้วยการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์
ห้ามใช้สารอันตราย 6 ชนิดคือ ปรอท (Hg) ตะกั่ว (Pb) แคดเมียม (Cd) โครเมียม เฮกซะวาเลนต์ (Cr(Vl)) โพลิโบรมิเนต-ไบฟินิล (PBB) และโพลิโบรมิเนต-ไดฟินิล-อีเทอร์ (PBDE) ในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
BOI ย่อมาจาก Thailand Board of Investment คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม
มาตรฐานที่ใช้ในการผลิต
Codex Alimentarius Commission (CAC) คณะกรรมการมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ
GAP (Good Agricultural Practice) มาตรฐานการผลิตสินค้าการเกษตร กำหนดโดยหน่วยงานต่างๆ กระทรวงเกษตรฯ บังคับใช้กับผู้ประกอบการผลิตสินค้าเกษตรในประเทศ
GMP(Good Manufacturing Practice) มาตรฐานวิธีการผลิต เครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิตและการเก็บรักษาอาหาร กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุขบังคับใช้กับผู้ประกอบการโรงงานอาหารในประเทศ
HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) เป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอาหาร กำหนดโดยCodex Alimentarius บังคับใช้กับผู้ประกอบการโรงงานอาหารส่งออก (สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์)
ISO กำหนดโดยCodex Alimentarius บังคับใช้กับผู้ประกอบการโรงงานอาหารส่งออก
SQF2000 กำหนดโดยCodex Alimentarius บังคับใช้กับผู้ประกอบการโรงงานอาหารส่งออกสหรัฐอเมริกา
Animal Welfare มาตรการด้านการคุ้มครองสวัสดิภาพของสัตว์ กำหนดโดยกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป บังคับใช้กับฟาร์มและสถานที่เลี้ยงสัตว์
GMOs (Genetically modified organisms) มาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีการใช้วัตถุดิบดัดแปลงทางพันธุกรรม กำหนดโดยกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปบางประเทศ บังคับใช้กับผู้ประกอบการโรงงานอาหารสัตว์
NFPA = National Fire Protection Association มาตรฐานการป้องกันอัคคีภัย
AWWA = American Water Work Association
API = American Petroleum Institute
IP = The Institute of Petroleum
CTFA = Cosmetic, Toiletry and Frangrance Association, Inc.,
CODE = Codex Alimentarius Commission - CAC
ที่มา: http://www.premier-en.co.th/webboard/topic/14066/เมื่อ: 2017-5-28 14:42:13
********************************************************************
4. มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม
เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตเหล็กได้ทำการผลิตเหล็กชนิดต่าง ๆ ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมากแต่ละบริษัทพยายามที่จะผลิตเหล็กให้มีคุณภาพต่าง ๆ กันตามประเภทของการใช้งาน ดังนั้นจึงเป็นความยากลำบาทของผู้ใช้ที่จะเลือกใช้เหล็กให้ตรงกับความต้องการของตน จึงได้มีการกำหนดชนิดและปริมาณส่วนผสมไปในเนื้อเหล็ก โดยใช้สัญลักษณ์ของธาตุและตัวเลขเป็นตัวชี้บอกจำนวนปริมาณของส่วนผสมที่มีอยู่ จึงได้เกิดเป็น " มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม " ขึ้น
มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมได้กำเนิดมาหลายมาตรฐาน เนื่องจากประเทศบริวารในเครือของตนเองหรือประเทศที่มีการจัดการอุตสาหกรรมแบบเดียวกันยอมรับและนำไปใช้ ซึ่งปรากฎว่าในปัจจุบันมีมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรมที่นิยมนำมาใช้งานกัน มี 3 มาตรฐาน คือ
1. ระบบอเมริกัน AISI ( American Iron and Steel Institute )
การกำหนดมาตรฐานแบบนี้ ตัวเลขดัชนีจะมีจำนวนหลักและตัวชี้บอกส่วนประสมจะเหมือนกับระบบ SAE จะต่างกันตรงที่ระบบ AISI จะมีตัวอักษรนำหน้าตัวเลข ซึ่งตัวอักษรนี้จะ บอกถึงกรรมวิธีการผลิตเหล็กว่าได้ผลิตมาจากเตาชนิดใด
ตัวอักษรที่บอกกรรมวิธีการผลิตเหล็กจะมีดังนี้
A คือ เหล็กประสมที่ผลิตจากเตาเบสเซมเมอร์ ( Bessemer ) ชนิดที่เป็นด่าง
B คือ เหล็กประสมที่ผลิตจากเตาเบสเซมเมอร์ ( Bessemer ) ชนิดที่เป็นกรด
C คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาโอเพ็นฮารท์ ( Open Hearth ) ชนิดที่เป็นด่าง
D คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาโอเพ็นฮารท์ ( Open Hearth ) ชนิดที่เป็นกรด
E คือ เหล็กที่ผลิตจากเตาไฟฟ้า
การแบ่งชนิดของเหล็กกล้าตามชนิดและปริมาณของสารที่นำมาผสม แต่เหล็กกล้าตามระบบ AISI ยังมีการแบ่งกลุ่มตามลักษณะของกรรมวิธีการชุบแข็ง
ชื่อกลุ่ม สัญลักษณ์
กลุ่มที่ชุบแข็งด้วยน้ำ W
กลุ่มเหล็กที่ทนต่อแรงกระแทก S
กลุ่มที่ชุบแข็งด้วยน้ำมัน O
กลุ่มที่ผลิตโดยกรรมวิธีแปรรูปเย็น( Cold Working ) สำหรับเหล็กล้า
คาร์บอนปานกลางและชุบแข็งโดยปล่อยให้เย็นตัวในอากาศ A
กลุ่มเหล็กกล้าที่ผลิตโดยกรรมวิธีแปรรูปเย็นสำหรับเหล็กกล้า
คาร์บอนสูงและเหล็กกล้าประสมโครเมียมสูง D
กลุ่มเหล็กที่ผลิตโดยกรรมวิธีแปรรูปร้อน( Hot Working ) H
กลุ่มเหล็กกล้ารอบสูง(High Speed Steel) T (ประสมทังสเตนเป็นหลัก)
กลุ่มเหล็กกล้ารอบสูง(High Speed Steel) M (ประสมโมลิบดินั่ม)
กลุ่มเหล็กกล้าคุณสมบัตพิเศษ ( มีคาร์บอนและทังสเตน เป็นหลัก )
กลุ่มเหล็กทำแม่พิมพ์
2. ระบบเยอรมัน DIN (Deutsch Institute Norms)
การจำแนกประเภทของเหล็กตามมาตรฐานเยอรมันจะแบ่งเหล็กออกเป็น 4 ประเภทดังนี้
2.1 เหล็กกล้าคาร์บอน(หรือเหล็กไม่ประสม)
2.2 เหล็กกล้าผสมต่ำ
2.3 เหล็กกล้าผสมสูง
2.4 เหล็กหล่อ
2.5 เหล็กกล้าคาร์บอน (หรือเหล็กไม่ประสม)
เหล็กที่นำไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีปรับปรุงคุณสมบัติโดยใช้ความร้อน (Heat Treatment) เหล็กพวกนี้จะบอกย่อคำหน้าว่า St.และจะมีตัวเลขตามหลัง ซึ่งจะบอกถึงความสามารถที่จะทนแรงดึงสูงสุดของเหล็กชนิดนั้น มีหน่วยเป็น ก.ก/มม.2
หมายเหตุ การกำหนดมาตรฐานทั้งสองนี้ เหล็กที่มีความเค้นแรงดึงสูงสุดประมาณ 37 ก.ก/มม.2 จะสามารถใช้สัญลักษณ์แทนเหล็กชนิดนี้ได้ 2 ลักษณะ คือ เขียนเป็น St. หรือ C20
การกำหนดมาตรฐานเหล่านี้จะเห็นมากในแบบสั่งงาน ชิ้นส่วนบางชนิดต้องนำไปชุบแข็งก่อนใช้งาน ก็จะกำหนดวัสดุเป็น C นำหน้า ส่วนชิ้นงานที่ไม่ต้องนำไปชุบแข็ง ซึ่งนำไปใช้งานได้เลยจะกำหนดวัสดุเป็นตัว St. นำหน้า ทั้ง ๆ ที่วัสดุงานทั้งสองชิ้นนี้ใช้วัสดุอย่างเดียวกันเหล็กกล้าผสมต่ำ การกำหนดมาตรฐานเหล็กประเภทนี้จะบอกจำนวนคาร์บอนไว้ข้างหน้าเสมอ แต่ไม่นิยมเขียนตัว C กำกับไว้ ตัวถัดมาจะเป็นชนิดของโลหะที่เข้าไปประสม ซึ่งอาจมีชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ได้
ข้อสังเกต เหล็กกล้าประสมต่ำตัวเลขที่บอกปริมาณของโลหะประสมจะไม่ใช่จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่แท้จริงของโลหะประสมนั้นการที่จะทราบจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่แท้จริงจะต้องเอาแฟกเตอร์ (Factor) ของโลหะประสมแต่ละชนิดไปหารซึ่งค่าแฟกเตอร์ (Factor) ของโลหะประสมต่าง ๆ มีดังนี้
หารด้วย 4 ได้แก่ Co, Cr, Mn, Ni, Si, W
หารด้วย 10 ได้แก่ Al, Cu, Mo, Pb, Ti, V
หารด้วย 100 ได้แก่ C, N, P, S
ไม่ต้องหาร ได้แก่ Zn, Sn, Mg, Fe
การใช้สัญลักษณ์ดังตัวอย่างที่แล้ว เป็นการบอกส่วนผสมในทางเคมี แต่ในบางครั้งจะมีการเขียนสัญลักษณ์บอกกรรมวิธีการผลิตไว้ข้างหน้าอีกด้วย เช่น
B = ผลิตจากเตาเบสเซมเมอร์
E = ผลิตจากเตาไฟฟ้าทั่วไป
F = ผลิตจากเตาน้ำมัน
I = ผลิตจากเตาไฟฟ้าชนิดเตาเหนี่ยวนำ (Induction Furnace)
LE = ผลิตจากเตาไฟฟ้าชนิดอาร์ค (Electric Arc Furnace)
M = ผลิตจากเตาซีเมนต์มาร์ติน หรือ เตาพุดเดิล
T = ผลิตจากเตาโทมัส
TI = ผลิตโดยกรรมวิธี (Crucible Cast Steel)
W = เผาด้วยอากาศบริสุทธิ์
U = เหล็กที่ไม่ได้ผ่านการกำจัดออกซิเจน (Unkilled Steel)
R = เหล็กที่ผ่านการกำจัดออกซิเจน (Killed Steel)
RR = เหล็กที่ผ่านการกำจัดออกซิเจน 2 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมี สัญลักษณ์แสดงคุณสมบัติพิเศษของเหล็กนั้นอีกด้วย เช่น
A = ทนต่อการกัดกร่อน
Q = ตีขึ้นรูปง่าย
X = ประสมสูง
Z = รีดได้ง่าย
เหล็กกล้าผสมสูง (High Alloy Steel) เหล็กกล้าประสมสูง หมายถึงเหล็กกล้าที่มีวัสดุผสมอยู่ในเนื้อเหล็กเกินกว่า 8 % การเขียนสัญลักษณ์ของเหล็กประเภทนี้ เขียนนำหน้าด้วยต้ว X ก่อน แล้วตามด้วยจำนวนส่วนผสมของคาร์บอนจากนั้นด้วยชนิดของโลหะประสม ซึ่งจะมีชนิดเดียวหรือชนิดก็ได้ แล้วจึงตามด้วยตัวเลขแสดงปริมาณของโลหะประสม
ตัวเลขที่แสดงปริมาณของโลหะประสม ไม่ต้องหารด้วย แฟกเตอร์ (Factor) ใด ๆ ทั้งสิ้น(แตกต่างจากโลหะประสมต่ำ) ส่วนคาร์บอนยังต้องหารด้วย 100 เสมอ
3. ระบบญี่ปุ่น JIS (Japaness Industrial Standards)
การจำแนกประเภทของเหล็กตามมาตรฐานญี่ปุ่นซึ่งจัดวางระบบโดยสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น(Japaness Industrial Standards, JIS) จะแบ่งเหล็กตามลักษณะงานที่ใช้
ตัวอักษรชุดแรก จะมีคำว่า JIS หมายถึง Japaness Industrial Standards ตัวอักษรสัญลักษณ์ตัวถัดมาจะมีได้หลายตัวแต่ละตัวหมายถึงการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น
A งานวิศวกรรมก่อสร้างและงานสถาปัตย์
B งานวิศวกรรมเครื่องกล
C งานวิศวกรรมไฟฟ้า
D งานวิศวกรรมรถยนต์
E งานวิศวกรรมรถไฟ
F งานก่อสร้างเรือ
G โลหะประเภทเหล็กและโลหะวิทยา
H โลหะที่มิใช่เหล็ก
K งานวิศวกรรมเคมี
L งานวิศวกรรมสิ่งทอ
M แร่
P กระดาษและเยื่อกระดาษ
R เซรามิค
S สินค้าที่ใช้ภายในบ้าน
T ยา
W การบิน
ถัดจากตัวอักษรจะเป็นตัวเลขซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ตัว มีความหมายดังนี้
ตัวเลขตัวแรก หมายถึง กลุ่มประเภทของเหล็ก เช่น
0 เรื่องทั่ว ๆ ไป การทดสอบและกฎต่าง ๆ
1 วิธีวิเคราะห์
2 วัตถุดิบ เหล็บดิบ ธาตุประสม
3 เหล็กคาร์บอน
4 เหล็กกล้าประสม
ตัวเลขตัวที่ 2 จะเป็นตัวแยกประเภทของวัสดุในกลุ่มนั้น เช่น ถ้าเป็นในกรณีเหล็ก จะมีดังนี้
1 เหล็กกล้าประสมนิเกิลและโครเมียม
2 เหล็กกล้าประสมอลูมิเนียมแลโครเมียม
3 เหล็กไร้สนิม
4 เหล็กเครื่องมือ
8 เหล็กสปริง
9 เหล็กกล้าทนการกัดกร่อนและความร้อน
ตัวเลขที่เหลือ 2 หลักสุดท้ายจะเป็นตัวแยกชนิดของส่วนผสมที่มีอยู่ในวัสดุนั้น เช่น ถ้าเป็นเหล็กตัวเลข 2 หลักสุดท้ายจะเป็นตัวแยกชนิดเหล็กตาม
ส่วนผสมธาตุที่มีอยู่ในเหล็กชนิดนั้น ๆ เช่น
01 เหล็กเครื่องมือ คาร์บอน
03 เหล็กไฮสปีด
04 เหล็กเครื่องมือประสม
ตาราง แสดงจำนวนมาตรฐานและชื่อประเทศที่ใช้มาตรฐาน
ลำดับที่ มาตรฐานของประเทศ มาตรฐาน
1 สหรัฐอเมริกา AISI
2 ฝรั่งเศส AFNOR
3 อังกฤษ B.S.
4 เชโกสโลวะเกีย CSN
5 เยอรมัน DIN
6 โซเวียต GOST
7 ญี่ปุ่น JIS
8 โปแลนด์ PN
9 สวีเดน SS
10 สเปน UNE
11 อิตาลี UNI
12 มาตรฐานสากล UNS
มาตรฐานของเหล็กกล้าเครื่องมือ
เหล็กกล้าเครื่องมือที่เป็นมาตรฐานสากลจะใช้มาตรฐาน UNS เป็นมาตรฐานหลัก ในท้องตลาดจะมีมาตรฐานใช้กันอยู่ประมาณ 12 มาตรฐาน โดยสามารถเทียบเข้ากับมาตรฐานสากลได้ โดยจะมีมาตรฐานหลักในการเทียบอยู่ 3 มาตรฐานซึ่งได้แก่ มาตรฐาน AISI, DIN, JIS และจากข้อมูลทางบริษัท บี.เค.เจ. เอนจิเนียริ่ง จำกัด พบว่าการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการอบชุบจะต้องค้นหาโดยการเปิดหนังสือต่าง ๆ หรือคู่มือมาตรฐานเหล็ก โดยทางบริษัทต้องรู้มาตรฐานที่ใช้ว่าเป็นเหล็กมาตรฐานอะไรชนิดไหนต้องการความแข็งเท่าไรจากลูกค้า จึงทำการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ออกมาเพื่อกำหนดขบวนการในการอบชุบรวมทั้งระดับอุณหภูมิและเวลาต่าง ๆ แล้วให้พนักงานไปทำตามกรรมวิธีการอบชุบต่อไป ส่วนปัญหาเรื่องมาตรฐาน AISI ที่บริษัทใช้นั้น ซึ่งทางลูกค้าจะไม่นิยมใช้กัน ส่วนมากตามที่นิยมจะใช้มาตรฐาน JIS หรือ DIN เป็นส่วนใหญ่ ถ้ามีมาตรฐานที่ไม่พบมากนักในประเทศไทยก็จะเกิดปัญหาขึ้น ปัญหานี้ทางบริษัทต้องหาข้อมูลเพื่อนำมาเปรียบเทียบเป็นมาตรฐานที่ต้องการอีกที ถ้าเทียบไม่ได้ต้องทำการวิเคราะห์ส่วนผสมทางเคมีเสียก่อน คู่มือที่ใช้อยู่ในบริษัทจะมีการกำหนด กับชิ้นงานที่มีความหนาประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น และมีรูปร่างที่เรียบง่าย ดังนั้นชิ้นงานที่มีความหนาหรือมีรูปร่างซับซ้อน กรรมวิธีการอบชุบจะต้องแตกต่างไปต้องมีการเพิ่มหรือลดลงของอุณหภูมิหรือเวลาเล็กน้อย โดยที่วิศวกรจะต้องใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อตัดสินใจ แต่ทางบริษัทมีความเห็นว่า ข้อมูลในการอบชุบบางตัว ยังไม่คงที่มีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปร่างและความแข็งที่ต้องการ จึงอาจทำให้โปรแกรมเทคโนโลยี สารสนเทศการอบชุบเหล็กกล้าเครื่องมือด้วยความร้อนนี้อาจเกิดความไม่เที่ยงตรงทางข้อมูลได้
ชนิดของเหล็กกล้าเครื่องมือ
ชนิดของเหล็กกล้าเครื่องมือที่สามารถค้นคว้ามาได้ มีจำนวน 500 ชนิดจาก 12 มาตรฐาน ซึ่งมีดังนี้
มาตรฐาน AISI มีจำนวนทั้งสิ้น 110 ชนิด
มาตรฐาน DIN " 66 "
มาตรฐาน JIS " 47 "
มาตรฐาน UNS " 80 "
มาตรฐาน AFNOR " 31 "
มาตรฐาน B.S. " 29 "
มาตรฐาน CSN " 22 "
มาตรฐาน GOST " 15 "
มาตรฐาน PN " 26 "
มาตรฐาน SS " 12 "
มาตรฐาน UNE " 27 "
มาตรฐาน UNI " 35 "
จากข้อมูลของบริษัท แอสแสบ สตีลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าเหล็กกล้าเครื่องมือที่ผลิตจำหน่ายแก่ลูกค้าและนิยมใช้มากในประเทศไทย คือ เหล็ก W1, S5, O1, A2, D2, H12, T1, L6, และ H13 ซึ่งทางบริษัทจะมีชื่อยี่ห้อของเหล็กกล้าเครื่องมือแต่ละชนิดไว้ในคู่มือการเลือกใช้เหล็ก แต่ปัจจุบันความเชื่อถือยี่ห้อ มีน้อยลงไปมาก บริษัทจึงหันมานิยมยึดถือตามมาตรฐานแทนโดยอาศัยมาตรฐาน AISI/SAE , JIS, DIN เป็นหลักในการเปรียบเทียบเหล็กที่จะผลิตออกมาเสมอ
ที่มา:http://sscc.isit.or.th/ 28/5/2017