ประวัติศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงยืน
พื้นที่โคกค่อยเดิมเป็นที่สาธารณะประโยชน์ประชาชน ใช้ร่วมกับชาวบ้านโคกสูง หมู่ที่ ๑๔ โดยการนำของผู้ใหญ่บ้าน นายคำผัด วงษ์โคกสูง ได้มอบที่โคกค่อย จำนวน ๕ ไร่ ให้ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงยืน เพื่อสร้างห้องสมุดประชาชน ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนสร้างอาคารห้องสมุด จาก ส.ส.กริช กงเพชร จำนวน ๑๐๐,๐๐๐.-บาท และจากกรมการศึกษานอกโรงเรียน ๕๑๐,๐๐๐.-บาท รวมเป็นเงิน ๖๑๐,๐๐๐.-บาท และได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ และย้ายห้องสมุดประชาชนอำเภอเชียงยืน มาดำเนินการจนถึงปัจจุบัน
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเชียงยืน ประกาศจัดตั้งโดยประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๓๖ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชปัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.๒๕๓๔ และระเบียบระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๓๑ ข้อ ๖ ประกาศจัดตั้งพร้อมกัน จำนวน ๗๘๙ แห่งทั่วประเทศ โดยให้อำนาจ หน้าที่ดังต่อไปนี้
๑. จัดและให้บริการการศึกษานอกโรงเรียน การศึกษาเพื่อเสริมการศึกษาในระบบโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย ตามความต้องการและสภาพปัญหาของท้องถิ่น
๒. จัดและประสานงานให้มีศูนย์การเรียนชุมชน หน่วยจัดการศึกษานอกระบบเพื่อเป็นเครือข่ายบริหารงานการศึกษานอกระบบได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง และส่งเสริมให้ชุมชนจัดการศึกษาให้กับตนเองในลักษณะศูนย์การศึกษาชุมชน เพื่อเป็นศูนย์กลางจัดการศึกษา วางแผนและบริการการศึกษาต่อสมาชิกในชุมชนและระหว่างชุมชน
๓. สนับสนุนสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำเนินงานการศึกษานอกระบบของเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนการสอนและบริการแก่กลุ่มเป้าหมาย
๔. กำกับ ดูแล ติดตามและรายงานผลการดำเนินงานการศึกษานอกระบบ
กรมการศึกษานอกโรงเรียน ได้แต่งตั้งข้าราชการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอเชียงยืน ตามคำสั่งที่ ๙๔/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๓๗ โดยให้ นายอำนวย ภูวนา อาจารย์ ๒
ระดับ ๖ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดมหาสารคาม ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์อำเภอเชียงยืน
ตั้งแต่วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗ และต่อมากรมการศึกษานอกโรงเรียนได้แต่งตั้ง นายอำนวย ภูวนา ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอเชียงยืน ตามคำสั่งกรมการศึกษานอกโรงเรียน ที่ ๑๘๘/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๓๘