ข้อมูลเกี่ยวกับ
สถาบันศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ
สถาบันศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ข้อมูลเกี่ยวกับ
สถาบันศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ
รศ.รังสรรค์ แสงสุข
มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดย รศ.รังสรรค์ แสงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ในขณะนั้น) และ รศ.สนธิ์ บางยี่ขัน รองอธิการบดีฝ่ายนักศึกษาและศิลปวัฒนธรรม (ในขณะนั้น) ได้ให้ความสำคัญกับงานทางด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นอย่างยิ่ง ควบคู่กันไปกับประสงค์จะให้หน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการทำนุบำรุงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้บรรลุผลในทางปฏิบัติ ประกอบกับในปี พ.ศ. 2537 รัฐบาลในขณะนั้นได้กำหนดให้เป็นปีรณรงค์วัฒนธรรมไทย มหาวิทยาลัยจึงได้ก่อตั้ง "ศูนย์วัฒนธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงเฉลิมพระเกียรติ" ขึ้นในปี พ.ศ. 2537 ตามมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครั้งที่ 9/2537 วาระที่ 3.3 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2537 เพื่อทำหน้าที่บริหารงานทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียน นักศึกษา คณาจารย์ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งส่งเสริมเยาวชน ประชาชนชาวไทยและชาติบ้านเมือง โดยอาศัยการบริหารงานวัฒนธรรมกับ "โครงการป้องกัน รักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมเพื่อความมั่นคงของความเป็นไทย" เป็นสื่อกลาง เพื่อน้อมเกล้าเกล้าฯ ถวายผลงานทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ฯ เป็นปีที่ 50 ในปี พ.ศ. 2539 และในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ในปี พ.ศ. 2542
โดยมีวัตถุประสงค์ของศูนย์วัฒนธรรมฯ ดังนี้
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในวโรกาสทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ในปี พ.ศ. 2539
เพื่อสนองนโยบายด้านวัฒนธรรมของรัฐบาลด้วยการบริหารงานวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีรณรงค์วัฒนธรรมไทย (พ.ศ. 2537) เป็นต้นไป
เพื่อเสริมสร้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมให้มั่นคงให้เป็นพื้นฐานของการดำรงรักษาความเป็นไทย
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้านการทำนุบำรุงส่งเสริมวัฒนธรรมให้บรรลุผลในทางปฏิบัติปรากฏเป็นพฤติกรรมที่ดีที่ชอบของบุคคลและเป็นธรรมที่ถูกต้องดีงาม
เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวันโดยทั่วไปและชีวิตการทำงานของบุคลากรทั้งมวลของมหาวิทยาลัย
เพื่อจัดกิจกรรมและให้บริการด้านวิชาการในรูปแบบต่างๆ ให้เกิดประโยชน์แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชนและปวงชนของสังคมไทย
เพื่อเสริมสร้างเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยจากผลของการบริหารศูนย์วัฒนธรรมฯ ให้เป็นที่ยอมรับในวงวิชาการและสังคมไทยเพิ่มขึ้น
มหาวิทยาลัยจึงได้แต่งตั้ง นายวีระ อำพันสุข เป็นผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมฯ คนแรก และแต่งตั้ง "คณะกรรมการบริหารศูนย์วัฒนธรรมฯ" ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำและส่งเสริมการปฏิบัติงานของศูนย์วัฒนธรรมฯ ให้ดำเนินการได้อย่างราบรื่น ต่อเนื่องเรียบร้อย ประสบความสำเร็จลุล่วงสอดคล้องกับความเป็นผู้มีวัฒนธรรมให้สมกับการเป็นคนไทยและสนองนโยบายวัฒนธรรมของชาติและนโยบายด้านวัฒนธรรมของรัฐในรูปแบบของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 เป็นช่วงเวลาของการยกฐานะขึ้นเป็น "สถาบันวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงเฉลิมพระเกียรติ" ให้อยู่ในโครงสร้างของระบบการบริหารมหาวิทยาลัย
ในปี พ.ศ. 2542 อ.ดร.วิชัย สังข์ประไพ รองอธิการบดีฝ่ายศิลวัฒนธรรม (ในขณะนั้น) ได้เสนอจัดตั้ง "สถาบันวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงเฉลิมพระเกียรติ" ขึ้น โดยเสนอร่างข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยการจัดตั้งสถาบันวัฒนธรรม เข้าที่ประชุม ทปม. และใช้ชื่อหน่วยงานเป็น "สถาบันวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงเฉลิมพระเกียรติ" เป็นต้นมา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 สภามหาวิทยาลัยรามคำแหงได้อนุมัติให้ สถาบันวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยรามคำแหงเฉลิมพระเกียรติเป็น "สถาบันศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ" เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจ ในการประชุมครั้งที่ 1/2551 วาระที่ 5.5 เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2551 โดย รศ.สุธินี รัตนวราห รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม (ในขณะนั้น) เป็นผู้เสนอขอเปลี่ยนชื่อ ทั้งนี้ สภามหาวิทยาลัยฯ ยังได้อนุมัติโครงสร้างของสถาบันศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังนี้
สำนักงานเลขานุการ แบ่งออกเป็น 5 งาน ดังนี้
1) งานบริหารและธุรการ
2) งานคลังและพัสดุ
3) งานนโยบายและแผน
4) งานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
5) งานประกันคุณภาพการศึกษา
ฝ่ายไทยศึกษา แบ่งออกเป็น 3 งาน ดังนี้
1) งานวิจัยสังคมและวัฒนธรรม
2) งานเสริมสร้างความมั่นคงของความเป็นไทย
3) งานพิพิธภัณฑ์และโบราณคดี
ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม แบ่งออกเป็น 4 งาน ดังนี้
1) งานวิชาการประยุกต์
2) งานกิจกรรมและบริการ
3) งานรักษาและส่งเสริม
4) งานกองทุน
ฝ่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตและเสริมคุณค่าบัณฑิต แบ่งออกเป็น 2 งาน ดังนี้
1) งานเสริมคุณภาพชีวิต
2) งานเสริมคุณค่าบัณฑิต
รศ.สุธินี รัตนวราห