ผู้ติดเชื้อบางคน มีอาการเพียงเล็กน้อย แต่บางคนก็ถึงกับเสียชีวิต ไวรัสชนิดนี้ทำร้ายร่างกายเราอย่างไร และเราจะจัดการกับมันได้อย่างไร
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้จะมีอาการเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยจะแสดงอาการ
ตั้งแต่ระดับความรุนแรงน้อย ได้แก่ คัดจมูก เจ็บคอ ไอ และ มีไข้
โดยในบางรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการปอดบวมหรือหายใจลำบากร่วมด้วย บางรายเสียชีวิตได้แต่พบไม่บ่อยนัก หากผู้สูงอายุ
และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจ จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรุนแรงหากได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
รูปภาพจาก GETTY IMAGES
→ ระยะฟักตัว (Incubation period)
เป็นช่วงที่ไวรัสพยายามเข้าไปฝังอยู่ในร่างกาย ไวรัสชนิดต่าง ๆ ทำงานโดยการเข้าไปและยึดเซลล์ร่างกายของเราไว้
ไวรัสโคโรนา ซึ่งมีชื่อเรียกทางการว่า Sars-CoV-2 สามารถเข้าสู่ร่างกายเมื่อคุณหายใจเอาเชื้อเข้าไป (หากมีคนติดเชื้อ
ไอหรือจามใกล้ ๆ) หรือเมื่อคุณไปจับบริเวณที่มีเชื้อติดอยู่ เชื้อจะแพร่ไปตามเซลล์ที่เยื่อบุคอ ท่อทางเดินหายใจและปอด
ก่อนจะเปลี่ยนอวัยวะเหล่านี้เป็น "โรงงานผลิตไวรัสโคโรนา" ที่แพร่กระจายไวรัสใหม่ไปติดเซลล์เพิ่มอีก
ในช่วงแรกนี้ อาจไม่มีอาการป่วย และสำหรับบางคนก็อาจไม่แสดงอาการใดเลย
โดยเฉลี่ยแล้ว ระยะฟักตัวตั้งแต่ติดเชื้อ ถึงแสดงอาการอยู่ที่ 5 วัน แต่ก็แตกต่างกันไปตามกรณี
____________________________________
ข้อมูลจาก (1) BBC Thai
→ ระยะที่อาการไม่หนัก
อาการที่คนส่วนใหญ่เผชิญ จะเป็นการติดเชื้ออย่างเบา สำหรับ 8 ใน 10 คนที่เป็นโรคโควิด-19 อาการหลักคือมีไข้และไอ เป็นไปได้ว่าร่างกายจะปวดระบม เจ็บคอ และปวดหัว แต่ก็ไม่เสมอไป
อาการไข้เกิดจากการตอบสนองของร่างกายคุณต่อไวรัส ร่างกายเห็นไวรัสเป็นสิ่งแปลกปลอมเลยสั่งการบอกร่างกายว่ามีบางอย่างผิดปกติด้วยการหลั่งสารไซโตไคน์ (cytokines) จะช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ร่างกายปวดระบมและมีไข้
การไอที่เกิดจากไวรัสโคโรนาเป็นไอแบบแห้ง ๆ และนี่เป็นผลมาจากเซลล์ที่ระคายเคืองหลังติดเชื้อไวรัส บางคนอาจจะไอจนมีเสมหะออกมา โดยเสมหะนี้เป็นเซลล์ปอดที่ตายจากเชื้อไวรัส อาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ สามารถรักษาด้วยการนอนพัก ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินยาพาราเซตามอล
ระยะที่ว่านี้กินเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ โดยคนส่วนใหญ่จะสามารถฟื้นสภาพร่างกายได้เองเนื่องจากเอาชนะไวรัสได้ บางคนก็อาการแย่ลงเป็นโรคโควิด-19 ในขั้นรุนแรงกว่า
นี่คือสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ตอนนี้ แต่ก็เริ่มมีงานวิจัยบางชิ้นที่เสนอว่าโรคโควิด-19 มีอาการคล้ายการเป็นหวัด เช่น การมีน้ำมูก เช่นกัน
___________________________________
ข้อมูลจาก (1) BBC Thai
ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงาน
ของหัวใจและปอด หรือ ECMO
.....................................
รูปภาพจาก GETTY IMAGES
→ โรคโควิด-19 ขั้นร้ายแรง
บางคนอาการแย่ลงเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตอบสนองไวรัสมากเกินไป การหลั่งสารเป็นสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาสามารถทำให้เกิดอาการอักเสบในร่างกาย แต่การอักเสบนี้ต้องอยู่ในระดับที่พอดี หากมากไปจะทำให้เกิดความเสียหายไปทั่วร่างกายได้
"ไวรัสนี้ทำให้เกิดการตอบโต้ของระบบภูมิคุ้มกันอย่างไม่สมดุล มีอาการอักเสบมากเกินไป เรายังไม่ทราบว่าไวรัสทำเช่นนี้ได้อย่างไร" ดร.นาธาลี แมคเดอร์มอตต์ จากคิงส์คอลเลจลอนดอน กล่าว
การอักเสบที่ปอดเรียกว่าอาการปอดปวม เป็นไปได้ที่เชื้อจะเดินทางเข้าปาก ผ่านหลอดลม และเข้าไปสู่ถุงลมในปอดในที่สุด ในนี้จะมีกระบวนการการนำออกซิเจนเข้าสู่เลือดและขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป แต่ในภาวะปอดบวม น้ำจะเริ่มเข้ามาในถุงลมเล็ก ๆ และทำให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่มและหายใจไม่สะดวกในที่สุด
ในระยะนี้ บางคนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ข้อมูลจากจีนชี้ว่า 14 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับผลกระทบในขั้นนี้
___________________________________
ข้อมูลจาก (1) BBC Thai
ประชาชนบางส่วนเลือกสวมหน้ากากป้องกันตัวเอง
แม้รัฐบาลอังกฤษไม่ได้แนะนำ
.....................................
รูปภาพจาก GETTY IMAGES
→ อาการสาหัส
คาดการณ์ว่ามี 6 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่อาการทรุดจนสาหัส ถึงจุดนี้ ร่างกายสู้ไม่ไหวและอาจเสียชีวิตได้
ระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถจัดการตัวเองได้ และสร้างความเสียหายไปทั่วร่างกาย อาจเกิดภาวะช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
เมื่อความดันโลหิตต่ำจนอวัยวะไม่สามารถทำงานได้ หรือหยุดทำงานไป อาการอักเสบที่ปอดทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจน
ไม่เพียงพอ ไตอาจหยุดฟอกเลือด เยื่อบุลำไส้ถูกทำลาย
และหากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถสู้ไวรัสได้ ไวรัสก็จะแพร่กระจายไปทุกที่ที่ทำได้เพื่อทำลายร่างกายเพิ่มอีก การรักษา
ในขั้นนี้อาจต้องใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด หรือ ECMO แต่ร่างกายก็อาจจะเสียหายถึงขั้นที่ไม่สามารถ
ทำงานต่อไปได้อีก
___________________________________
ข้อมูลจาก (1) BBC Thai
→ การเสียชีวิตรายแรก ๆ
ในวารสารทางการแพทย์ Lancet Medical มีการบันทึกไว้โดยละเอียดกรณีคนไข้สองคนแรกที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจินอิ๋นถาน
ในเมืองอู่ฮั่นในจีน ตอนแรกคนไข้ทั้งสองดูมีสุขภาพดีแม้จะเป็นคนสูบบุหรี่ คนแรกเป็นชายอายุ 61 ปี มีภาวะปอดปวมรุนแรงเมื่อมา
ถึงโรงพยาบาล แม้ว่าจะมีเครื่องช่วยหายใจช่วยแต่ปอดก็ล้มเหลวและหัวใจหยุดทำงานในที่สุด เขาเสียชีวิต 11 วันหลังจากมาถึงโรงพยาบาล
___________________________________
ข้อมูลจาก (1) BBC Thai
• • • • • วิดีโอน่ารู้เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา • • • • •
ไวรัสโคโรนา: จะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดเชื้อโควิด-19 แล้ว?
.....................................
BBC News ไทย
ไวรัสโคโรนา: ที่มา อาการ การรักษาและการป้องกันโรคโควิด 19
.....................................
BBC News ไทย